15 มิ.ย. 2023 เวลา 14:00 • ธุรกิจ

‘ชาเขียวชิเมโจได๋’ หายไปไหน? ย้อนรอยหนอนชาเขียว สู่จุดตัดบนเกม ‘หวยใต้ฝา’

“ชิเมโจได๋… ชิเมโจได๋… ชิเมโจได๋”
ย้อนกลับไป 22 ปีที่แล้ว ยุคที่สินค้าแทบทุกตัวในท้องตลาดต้องมีส่วนผสมของ “ชาเขียว” ไม่เว้นกระทั่ง “ผ้าอนามัยชาเขียว” ยุคที่ตลาดชาเขียวไทยเฟื่องฟูที่สุด และเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ชาเขียว ณ เวลานั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักภาพยนตร์โฆษณาที่เปิดมาด้วยเรื่องราวของหนอนพ่อลูกบนยอดชา ที่กำลังพยายามสะกดจิตมนุษย์ด้วยคาถาสุดน่ารักอย่าง “ชิเมโจได๋” จากหนอนแก้วกลายเป็นภาพจำของ “หนอนชาเขียว” ส่งให้แบรนด์ “ยูนิฟ” (Unif) ในเวลานั้น ขึ้นแท่นผู้นำตลาดชาเขียวไทยทันที
“กรุงเทพธุรกิจ” จะพาไปย้อนรอยแบรนด์ชาเขียวในตำนานที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นสู่จุดสูงสุด ด้วยการใช้กลยุทธ์การตลาดอย่าง “Character Marketing” มีส่วนแบ่งทางการตลาดชาเขียวมาเป็นอันดับที่ 1 แต่เพราะอะไร หนอนชาเขียวตัวนี้จึงค่อยๆ จางหายไปจากตลาดเครื่องดื่มชาเขียว รวมไปถึงภาพใหญ่ของตลาดชาเขียวในตอนนี้มีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง
ย้อนรอยปรากฏการณ์ “หนอนชาเขียว” และการเป็นผู้เล่นคนแรกของสนามชาเขียวพร้อมดื่ม
หากให้นึกถึงแบรนด์ชาเขียวในตลาดขึ้นมาเร็วๆ สัก 1-2 ชื่อ หลายคนอาจจะนึกถึง “โออิชิ” (Oishi) หรือ “อิชิตัน” (Ichitan) ที่ปัจจุบันขับเคี่ยวกันชิงส่วนแบ่งตลาดในอันที่ 1 และ 2 ตามลำดับ แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว แบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่บุกเบิกตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในไทย คือ “ยูนิฟ” (Unif) หรือที่ใช้ชื่อในไลน์โปรดักต์ดังกล่าวว่า “ยูนีฟ กรีนที” (Unif Greentea)
ภายใต้การนำของบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีก้องเกียรติ วัติรางกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดในขณะนั้นทำหน้าที่ “ต้นหน” นำทัพยูนิฟปักธงชิงพื้นที่ตลาดชาพร้อมดื่มในไทยเป็นเจ้าแรก
ก้องเกียรติเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปีพ.ศ. 2548 ว่า ยูนิ-เพรสซิเดนท์เล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างมูลค่าจากตลาดนี้ก่อนใคร จึงตัดสินใจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มเป็นเจ้าแรกในไทยเมื่อปีพ.ศ.2544 ซึ่งการตัดสินใจบุกตลาดที่ยังไม่มีใครเคยเข้าไป ก็ทำให้ยูนิฟ-เพรสซิเดนท์กลายเป็นผู้นำที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชาเขียวได้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2 ปี กวาดรายได้ไปมากถึง 600 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีพ.ศ.2544 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งยูนิฟ กรีนที กว่า 200 เปอร์เซ็นต์
จากเดิม ที่เคยถูกปรามาสไว้มากมายว่า เครื่องดื่มชาเขียวเป็นเพียงสินค้าตามกระแสแฟชั่น ไม่นานก็คงเสื่อมความนิยมลง แต่แบรนด์ก็สามารถยืนระยะความนิยมในน่านน้ำสีคราม ณ ขณะนั้นได้นานหลายปี
โดยนอกจากการช่วงชิงความเป็นหนึ่งด้วยการกระโจนลงไปเป็นผู้เล่นคนแรกแล้ว อีกหนึ่งกระบวนท่าที่ทำให้ชื่อของยูนิฟ กรีนที ได้รับการจดจำ และกลายเป็น “Top of mind” ของคอชาเขียวในขณะนั้น คือภาพยนตร์โฆษณาที่มีตัวแสดงนำอย่างคู่พ่อลูกหนอนแก้วบนยอดใบชา มาพร้อมกับวลีฮิต “ชิเมโจได๋” สร้างภาพจำให้กับผู้ชมจนกลายเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ ที่แม้เนื้อหาจะนำมาด้วยลูกเล่นความน่ารัก แต่กลับแฝงไว้ด้วยนัยของการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ภายใต้คำอธิบายว่าด้วยเรื่องของ “Brand Identity” และ “Character Marketing”
โฆษณา