25 เม.ย. 2023 เวลา 10:04 • ท่องเที่ยว
Tohoku Region

เมื่อภูเขาทั้งลูก...เปลี่ยนสี เส้นทางนี้ต้องห้ามพลาด Aomori-Morioka, Japan

เรากำลังพูดถึงทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม ที่หลายๆ ครอบครัวถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่จะพาเด็กๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี แต่เมื่อเป็นญี่ปุ่นเดือนตุลา หลายคนก็เกิดคำถามว่า แล้วจะไปไหนดี...? วันนี้เรามีคำตอบมาให้
ด้วยแนวคิดของครอบครัวเรา เรามองว่าการจะได้เที่ยวต่างประเทศ ไม่ใช่โอกาสที่จะมีมาบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสไปเยือนประเทศใดประเทศหนึ่ง เราก็อยากไปอยู่ในจุดที่เป็นที่สุดของประเทศนั้นๆ ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย เป้าหมายของทริปนี้จึงมีอยู่ 3 อย่าง คือ หิมะแรก ใบไม้เปลี่ยนสี และฟูจิซัง
หิมะแรกกลางเดือนตุลาคม บนยอดเขา Asahidake เราได้เขียนถึงไปแล้วในรีวิวตอนล่าสุดที่ผ่านมา โดยเข้าไปอ่านได้ที่
ส่วนในตอนนี้เป็นเรื่องราวการเดินทางในภูมิถาคโทโฮคุ (Tohoku) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ขึ้นชื่อมากเรื่องความงดงามของธรรมชาติ โดยมีความโดดเด่น แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล และในฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงเดือนตุลาคม ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการออกท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีของทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา
บรรยากาศการขับรถท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในแถบ Tohoku
จากตอนที่แล้ว เราพักที่ Hakodate แล้วออกเดินทางแต่เช้ามืดนั่งรถไฟข้ามมาที่ Aomori และไปรับรถเช่าที่จองไว้ล่วงหน้า โดยแผนของการเดินทางช่วงนี้คือการเช่ารถขับจาก Aomari ขับผ่านเส้นทาง Hakkoda Gold Line ไปพักที่ Lake Towada หนึ่งคืน ก่อนขับรถต่อผ่านเส้นทาง Hachimantai Aspite Line เป้าหมายคือการไปคืนรถเช่าที่ Morioka
จริงๆ เส้นทางนี้มีรถบัสประจำทางที่เราสามารถขึ้นได้ แต่ด้วยว่าเราเดินทางกันเป็นครอบครัว มี พ่อ แม่ ลูกๆ และ ปู่ย่า การเช่ารถขับจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และทำให้เราบริหารเวลาได้ตามสะดวกใจ จะแวะจะพักตรงไหน นานเท่าไหร่ก็สามารถดีไซน์ได้อย่างอิสระ
บรรยากาศและกิจกรรมระหว่างทาง
จาก Aomori เราปักหมุดแรกที่ Hakkoda Ropeway เพื่อขึ้นกระเช้าไปชมความงามด้านบนเขา ซึ่งจริงๆ ถ้ามีเวลามากพอ ด้านบนยอดเขาจะมีเส้นทางให้เดินเทรคกิ้งได้ แต่สภาพสมาชิกเราเอาแค่ได้ขึ้นไปชมวิวก็พอแล้ว
จริงๆ ไฮไลท์ช่วงที่เราไปคือช่วงของการนั่งกระเช้าขึ้นไปนี่แหละ เพราะเป็นช่วงที่ต้นไม้บนภูเขาทั้งลูกได้ทยอยเปลี่ยนสี บางต้นพึ่งจะเริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลือง บางต้นแดง บางต้นเริ่มแห้ง แต่บางต้นใบร่วงไปหมดแล้ว ดูๆ ไปก็เป็นเสน่ของฤดู Autumn อย่างแท้จริง
ขึ้นกระเช้า Hakkoda Ropeway ชมภูเขาทั้งลูกเปลี่ยนสี
จาก Aomori เรายังอยู่บนเส้นทาง Hakkoda Gold Line ที่สองข้างทางคืออุโมงใบไม้หลากสีสัน ซึ่งเอาแค่นั่งชมวิวในรถก็ถือว่าจุใจแล้ว แต่อีกจุดที่นิยมจอดรถเพื่อเก็บภาพความประทับใจคือ สะพาน Jogakura Bridge ซึ่งจริงๆ ต้องขับรถแยกออกจากเส้นทางหลักที่เราจะไปออกมาเล็กน้อย แต่รับรองคุ้มค่าที่แวะจอดแน่นอน
แวะเช็คอิน  Jogakura Bridge
เราตั้งใจไปพักที่ Lake Towada ทะเลสาบขึ้นชื่อของ Aomori เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะฮอนชูหรือเกาะหลักของญี่ปุ่น โดยในช่วงเดือนตุลาคม ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่ง ที่ Lake Towada มีเมืองเล็กๆ มีที่พักหลากหลายรูปแบบกระจายอยู่ริมทะเลสาบ การตัดสินใจมาพักที่นี่อย่างน้อยหนึ่งคืน เป็นเรื่องที่วิเศษมาก
บรรยากาศ Lake Towada ยามเย็น
เส้นทางที่จะเข้าไปยัง Lake Towada จะต้องผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ Oirase stream เป็นเส้นทางเดินเลียบลำธารที่ขนานคู่ไปกับเส้นทางเข้าสู่ทะเลสาบ เป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการชมใบไม้เปลี่ยนสี เพราะเป็นเส้นทางเดินที่ง่าย สะดวก และได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของป่าไม้และเสียงน้ำไหล ระหว่างทางยังมีน้ำตกขนาดเล็กให้ได้ชื่นชมด้วย สายเดินป่าและสายถ่ายภาพไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
Oirase stream
หากพักที่ Lake Towada การจะมาเที่ยวที่ Oirase stream สามารถขับรถหรือนั่งรถบัสมาได้ ซึ่งมีจุดจอดรถประจำทาง และจุดที่พอจอดรถให้ลงไปเดินถ่ายรูปได้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินเท้าตลอดเส้นทางที่ยาวถึง 14 กิโลเมตร แต่หากใครมีเวลามากพอ ก็สามารถเดินชมวิวแบบยาวๆ ได้เลย
เส้นทางรถยนต์ที่ขนานเลียบไปกับ Oirase stream
หลังจากพักผ่อนเต็มอิ่ม ในตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการออกเดินสำรวจริมทะเลสาบ อากาศในช่วงตุลาคมที่นี่ค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ถือว่าหนาวมาก การเดินชมวิวตากแดดอุ่นๆ ตอนเช้าจึงเป็นกิจกรรมที่น่าประทับใจมากสำหรับทริปครอบครัวอย่างพวกเรา
เดินเล่นริมทะเลสาบยามเช้า
เช็คเอาท์ออกจากที่พัก เราออกเดินทางต่อ โดยมีจุดหมายปลายทางที่ Morioka เพื่อคืนรถเช่า และนั่งรถไฟกลับไปที่ Tokyo แต่เพื่อให้คุ้มค่ากับการเช่ารถขับ เราจึงเลือกใช้เส้นทางที่ชื่อ Hachimantai Aspite Line โดยปักหมุดในแผนที่เพื่อไปให้ทันมื้อเที่ยงที่ Hachimantai Mountaintop Rest House
บรรยากาศการเดินทางในช่วงแรกหลังออกจาก Lake Towada
เราขับรถตาม GPS ค่อยๆ เข้าสู่เส้นทาง Hachimantai Aspite Line ซึ่งเป็นเส้นทางที่ลัดเลาะตามไหล่เขา ค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ สภาพป่าสองข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนไป ดูแปลกตามากขึ้น พรรณไม้ส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นสนเขา ต้นไม้บางส่วนได้ทิ้งใบไปเกือบหมด มองรวมๆ แล้วเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยมากๆ และระหว่างทางมีจุดให้แวะจอดพัก ถ่ายรูป ตลอดเส้นทาง
ทิวทัศน์ระหว่างเส้นทาง Hachimantai Aspite Line
เรามาถึง Hachimantai Mountaintop Rest House ซึ่งเป็นจุดพักรถระหว่างทางในเวลาก่อนเที่ยงเล็กน้อย เลยได้โอกาสเดินชมวิวโดยรอบ แต่ทันทีที่เปิดประตูรถก็ต้องตกใจเพราะอากาศหนาวและลมแรงมาก เข้าใจว่าน่าจะมีติดลบแน่ๆ เลยต้องจัดการกับเครื่องกันหนาวให้พร้อมก่อนลงรถ
พอเดินสำรวจถึงได้เห็นว่าตามยอดไม้เริ่มมีน้ำแข็งเกาะ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมอากาศมันหนาวขนาดนี้ และไม่ทันจะได้เก็บภาพอะไรมาก ฝนก็โปรยลงมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ เลยต้องหลบเข้าไปอยู่ในอาคาร และถือโอกาสหามื้อเที่ยงทานไปในตัว
ณ จุดพักรถบนเส้นทาง Hachimantai Aspite Line
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อ โดยปักหมุดเพื่อขับรถไปคืนที่สถานีรถไฟ Morioka เส้นทางหลังจากออกจากจุดพักรถจึงเริ่มกลายเป็นขาลง และค่อนข้างคดเคี้ยว ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ค่อนข้างสูงในการควบคุมรถ
และเราก็มาถึงที่สถานี Morioka ก่อนเวลารถไฟซินคันเซนกลับ Tokyo ที่จองไว้เกือบ 2 ชั่วโมง แต่ด้วยการเดินทางที่ยาวนาน และสภาพผู้ร่วมทริปค่อนข้างบอบบาง เราจึงเลือกนั่งรอรถไฟที่สถานี โดยที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย
สถานี Morioka
ก็ถือว่าเป้าหมายของทริปนี้สำเร็จไปแล้ว 2 อย่าง คือ หิมะแรก และใบไม้เปลี่ยนสี ต่อจากนี้เราจะกลับไปเริ่มต้นภารกิจต่อไปที่ Tokyo แต่ดูสภาพอากาศแล้วต้องบอกว่า โอกาสที่จะได้เห็น Fuji ค่อนข้างริบหรี่ ซึ่งเราจะมารีวิวให้ดูกันต่อในตอนถัดไป...
ติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่เพจนี้ และ
โฆษณา