27 เม.ย. 2023 เวลา 00:00 • การศึกษา

10 ข้อ โทษของไข่ต้ม หากคุณกิน อย่างไม่ระวัง

เมื่อพูดถึงอาหารที่ง่าย ที่สุดในสามโลกแล้ว ไข่ต้มจัดเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่ง ของคนทั่วโลก และมันก็เป็นตัวเลือกที่นิยมในหลายครัวเรือน อย่างไรก็ตาม "ไข่ต้ม" อาจมีข้อด้อยหรือโทษของการรับประทานพอสมควร ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับ 10 ข้อ โทษของการกินไข่ต้ม ที่คุณควรรู้
1. ความสูงของคอเลสเตอรอล
ไข่มีคอเลสเตอรอลสูง เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดี การบริโภคไข่จำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้ แต่ถึงกระนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคอเลสเตอรอลในอาหาร กับความเสี่ยงของโรคหัวใจ ยังคงเป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน
2. อาการภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ เป็นอาการที่มนุษย์สามารถแพ้ได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เห็บหมา ยันปลาท่องโก๋ ไข่ก็เช่นเดียวกัน บางคนอาจมีการแพ้ต่อไข่ หรือมีอาการภูมิแพ้ เช่น ผื่นคัน หายใจไม่สะดวก ปวดท้อง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน หากสงสัยว่าตัวเองกำลังเข้าข่าย
3. การปนเปื้อนของเชื้อโรค
เชื้อซาลโมเนลล่า หรือ Salmonella เป็นหนึ่งในเชื้อแบคทีเรียตระกูลเอนเทอโรแบคทีเรียซีอี ถูกค้นพบโดยแดเนียล เอลเมอร์ แซลมอน (ประวัติศาสตร์ก็มา) เอาเป็นว่าการกินไข่ต้มที่ไม่ได้สะอาด หรือไม่ถูกเก็บรักษาอย่างเหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการป่วยในระบบทางเดินอาหาร
4. การประเมินปริมาณโปรตีนที่ไม่ถูกต้อง
ไข่ต้มขึ้นชื่อเรื่องโปรตีนที่มีปริมาณสูง การบริโภคไข่ต้มจำนวนมาก ก็เท่ากับบริโภคโปรตีนปริมาณมากด้วยเช่นกัน นั่นอาจส่งผลกระทบต่อไต และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
5. ความอ้วน
แม้ว่าไข่ต้มจะมีโปรตีนผสมกับไขมันดีเป็นส่วนใหญ่ แต่หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป ก็ยังสามารถเพิ่มความอ้วนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณกินไข่ต้มพร้อมกับอาหารอื่น ๆ อันเปี่ยมไปด้วย คอลลาเจนท์ กรดอะมิโน สาหร่ายวากาเมะ บลา ๆ ๆ..
6. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การผลิตไข่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (นักอนุรักษ์ต้องมา) อันได้แก่ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปัญหาสุขภาพสัตว์ เราควรคิดค้นวิธีที่ยั่งยืนในการรับประทานไข่ เช่น การซื้อไข่จากฟาร์มที่ทำการเกษตรอินทรีย์ หรือฟาร์มที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิ์ของไก่ เป็นต้น
7. ความเสี่ยงต่อสุขภาพทารก
การกินไข่ต้มสำหรับหญิงตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อสุขภาพของทารก โดยเฉพาะถ้าเป็นเชื้อเชื้อซาลโมเนลล่า ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการบริโภคไข่ต้มในระหว่างตั้งครรภ์ และภายหลังจากคลอดครบ 7 เดือน ควรจะให้ลูกกินเฉพาะไข่แดง เพราะอาจจะแพ้โปรตีนที่มีในไข่ขาวได้
8. ปัญหาในการย่อย
บางคนอาจมีปัญหาในการย่อยไข่ต้ม ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ การลดปริมาณการบริโภคไข่ต้ม หรือปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทาน อาจช่วยลดอาการให้ดีขึ้น สำหรับเด็กเล็ก ควรให้รับประทานเฉพาะไข่แดง เพราะไข่ขาวมันย่อยยาก
9. การบริโภคไข่ต้มในเวลาไม่เหมาะสม
การบริโภคไข่ต้มก่อนนอน อาจทำให้ระบบการย่อยทำงานได้ยาก กว่าช่วงเวลาปกติทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาการนอนไม่หลับ อาการท้องอืด ดังนั้นจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกินไข่ต้มก่อนนอน หรือในช่วงเวลาก่อนเข้านอน
10 . ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ไข่ต้มเป็นอาหารที่ง่ายต่อการเตรียม และมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่เนื่องจากมีข้อมูลและความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน เกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริโภค อาจทำให้บางคนลังเลในการรับประทานไข่ต้ม ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูล และปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำแนะนำที่ถูกต้อง
สรุปแล้วการกินไข่ต้ม มีความสะดวกและคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่การบริโภคเกินปริมาณที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ข้อด้อยหรือโทษตามที่กล่าวมาข้างต้น เราควรทราบข้อด้อยเหล่านี้ เพื่อควบคุมการบริโภคไข่ต้มอย่างพอเหมาะ อีกทั้งหากมีปัญหาสุขภาพเฉพาะหรือสงสัยว่าตัวเองแพ้ไข่ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ
ปล. บทความไม่มีความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดราม่า "เรื่องไข่ต้ม" ในแบบเรียนแต่อย่างใด
ติดตามบทความย้อนหลังได้ที่ www.blockdit.com/topranking
โฆษณา