26 เม.ย. 2023 เวลา 04:02 • การศึกษา

CBDC สกุลเงินดิจิทัลธนาคารกลาง : Challenge & Dilemma for Technology transfer

Central Bank Digital Currency หรือ CBDC คือ สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ซึ่งมีการออกและรับรองโดยธนาคารกลาง แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Bitcoin ที่ไม่มีการรับรองจากหน่วยงานใด ๆ และไม่ได้รับการรับรองว่าเป็นเงินตราที่ถูกต้อง
CBDC ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นตัวเลือกดิจิทัลแทนเงินสดและสามารถใช้สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลและธุรกิจได้
การพัฒนา CBDC คาดหวังเพื่อสร้างระบบการเงินเป็นมาตรฐานใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการชำระเงิน นอกจากนี้ CBDC ยังช่วยลดต้นทุนและเวลาในการทำธุรกรรมเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการชำระเงินแบบเดิม เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารหรือการใช้บัตรเครดิต และยังช่วยลดความเสี่ยงของการฟอกเงินและการฉ้อโกง เนื่องจากการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบและติดตามได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันมีธนาคารกลางหลายแห่งที่กำลังศึกษาและพัฒนา CBDC เช่น ธนาคารประชาชนจีน ธนาคารกลางยุโรป และสำนักงานส่งเสริมการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและการนำ CBDC เข้าสู่การใช้งานเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ด้านกฎหมาย เทคโนโลยี และเศรษฐศาสตร์อย่างละเอียด
การเปิดตัว CBDC และ ความสามารถ ของเทคโนโลยีนี้อาจมีผลต่อทิศทางและแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะยังมีคำถามและความท้าทายในการพัฒนาและการนำไปใช้งานของ CBDC แต่ CBDC สามารถช่วยสร้างระบบการเงินโลกที่มีประสิทธิภาพ สมบูรณ์และมั่นคงมากขึ้นได้
การเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) มีศักยภาพสำคัญในการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เช่น หัวข้อดังต่อไปนี้
  • การชำระเงินข้ามชาติ: CBDC สามารถทำให้การชำระเงินข้ามชาติเร็วขึ้น ถูกกว่า และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปัจจุบันการชำระเงินข้ามชาติสามารถช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง มีค่าธรรมเนียมสูงและเวลาในการตั้งบัญชียืนยันนาน CBDC สามารถช่วยลดต้นทุนเหล่านี้และเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของการชำระเงินข้ามชาติ
  • การรวมเข้ากันทางการเงิน(Financial Inclusion): CBDC สามารถช่วยเพิ่มการรวมเข้ากันทางการเงินโดยการให้การเข้าถึงระบบการชำระเงินดิจิทัลกับผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือมีบัญชีธนาคารน้อย CBDC สามารถใช้ในการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ที่ไม่มีการเข้าถึงบริการธนาคารแบบดั้งเดิม เช่น ผู้อยู่ในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ที่ไกลออกไป
  • นโยบายการเงิน: CBDC สามารถมีผลต่อนโยบายการเงินโดยการให้ธนาคารกลางมีเครื่องมือที่มากขึ้นในการจัดการการจำนวนเงินและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ CBDC สามารถใช้ในการนำเอาอัตราดอกเบี้ยลบ ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติได้
  • ความมั่นคงทางการเงิน: CBDC สามารถช่วยปรับปรุงความมั่นคงทางการเงินโดยการลดความเสี่ยงของการวิ่งธนาคารและวิกฤติการเงินอื่น ๆ CBDC สามารถใช้เพื่อให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีความมั่นคงในการเก็บเงินแทนการฝากเงินธนาคาร ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการล้มเหลวของธนาคารและวิกฤติการเงินอื่น ๆ
จุดแข็งและจุดอ่อน ของ สกุลเงินดิจิทัลธนาคารกลาง
ProS :
1.การทำธุรกรรมได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น: CBDCs สามารถโอนเงินได้ทันที 24 ชั่วโมง/วัน และ 7วัน/สัปดาห์ โดยไม่ต้องมีตัวกลางเช่นธนาคารหรือผู้ประมวลผลการชำระเงิน ทำให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการการเงิน: CBDCs อาจช่วยให้บริการการเงินเป็นไปได้สำหรับบุคคลที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารหรือมีกิจกรรมทางบัญชีธนาคารต่ำ
3.เพิ่มความโปร่งใส: CBDCs อาจเพิ่มความโปร่งใสของการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งอาจช่วยลดการทุจริตและกิจกรรมผิดกฎหมายเช่นการ ฟอกเงิน
4.ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม: CBDCs อาจลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงิน เนื่องจากไม่มีผู้กลางเกี่ยวข้อง
ConS :
1.การตรวจสอบของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น: CBDCs อาจทำให้รัฐบาลสามารถติดตามและตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินได้มากขึ้น ซึ่งอาจละเว้นความเป็นส่วนตัวของบุคคล
2.การควบคุมที่เน้นไปที่ศูนย์กลาง: CBDCs ถูกออกและควบคุมโดยธนาคารกลาง ซึ่งอาจทำให้สถาบันเหล่านี้มีระดับการควบคุมระบบการเงินที่เข้มงวดขึ้น
3.ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบ: CBDCs จะเป็นเป้าหมายของการโจมตีและความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เสียเงินได้
4.ความเสี่ยงที่จะเข้าทดแทนธนาคารแบบดั้งเดิม: หาก CBDCs กลายเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ธนาคารแบบดั้งเดิมอาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญและอาจมีผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคม
การนำ CBDCs มาใช้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ภาครัฐและธนาคารกลางจะต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการพัฒนาและนำ CBDCs มาใช้หรือไม่
ประมาณการไทม์ไลน์สมมติฐานสำหรับการพัฒนา CBDC ทั่วโลก ดังนี้
ปี 2020
จีนเริ่มเปิดโปรแกรมทดสอบสำหรับเงินดิจิทัลหยวน
ธนาคารกลางยุโรปเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับยูโรดิจิทัล
FED เข้าร่วมกับ MIT เพื่อทำการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล
ญี่ปุ่นเริ่มโครงการจำลองการใช้งานสกุลเงินดิจิทัล
ปี 2021
ธนาคารแห่งชาติเกาหลีเริ่มโปรแกรมทดสอบสำหรับวอนดิจิทัล
FED ประกาศเอกสารสนทนาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล
ธนาคารกลางยุโรปเริ่มเข้าสู่ช่วงการสืบค้นเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินโครงการยูโรดิจิทัลหรือไม่
ธนาคารแห่งประเทศไทยทดสอบ CBDC ในโครงการ "โครงการอินทนนท์"
ธนาคารแห่งแคนาดาสำรวจความเป็นไปได้ของ CBDC
ปี 2022
ธนาคารประชาชนจีนขยายโปรแกรมทดสอบสกุลเงินดิจิทัลหยวน
ธนาคารกลางยุโรปประกาศโครงการยูโรดิจิทัล
ธนาคารแห่งญี่ปุ่นประกาศวางแผนเพื่อเปิดตัวเงินเยนดิจิทัล
ธนาคารแห่งแคนาดาประกาศเปิดตัว CBDC
ในปี 2023 นี้
จะเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของ CBDC หลายประเทศ เช่น จีนที่จะเปิดให้บริการดิจิทัลหยวนอย่างเต็มรูปแบบ ยูโรดิจิทัลและเยนดิจิทัลจะถูกเปิดตลาด และธนาคารแห่งสหรัฐอเมริกาก็ได้ประกาศวางแผนที่จะเปิดตัวดิจิทัลดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังสำรวจความเป็นไปได้ของการเปิดตัว CBDC ของตนเองอีกด้วย
ในประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนา CBDC ตั้งแต่ปี 2018 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระเงิน ลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมเงินสด และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการการเงิน
ในเดือนมิถุนายน 2021 ธปท. ได้ประกาศว่าได้เริ่มต้นการทดสอบ CBDC ในรูปแบบของโปรแกรมพิสูจน์แนวคิด (Proof of Concept) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และเทคโนโลยี Distributed Ledger Technology (DLT) โดยมีชื่อว่า "Project Inthanon" โดยโครงการนี้ได้รับการร่วมมือกับธนาคารเอกชนและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ
เพื่อทดสอบความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของ CBDC ในการใช้งานจริง โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธกส.) และได้รับการยกย่องจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศว่าเป็นโครงการที่สำคัญและเป็นที่สนใจในการพัฒนา CBDC ในภูมิภาคเอเชีย โดยยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนว่า CBDC จะถูกเปิดตัวใช้จริงในประเทศไทยเมื่อไหร่
ปัจจุบัน ไทยรั้งอันดับ 1 ของโลก ด้านความก้าวหน้าในการพัฒนา Wholesale CBDC
ตามรายงาน PwC ซึ่งได้มีการจัดอันดับโครงการพัฒนา CBDC พบว่า มากกว่า 80% ของธนาคารกลางทั่วโลกตื่นตัวในการออกสกุลเงินดิจิทัล หรือได้มีการ
ดำเนินการไปแล้ว ขณะที่โครงการ mBridge หรือโครงการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ส าหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ที่ถูกริ่เริ่มโดย ธปท.
และ HKMA ถูกจัดให้เป็นโครงการที่มีความก้าวหน้าด้านการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลในระดับสถาบันการเงินมากที่สุดของโลก
ด้านการพัฒนา Retail CBDC ประเทศไทยรั้งอันดับ 8 ของโลก
โดย 3 อันดับแรก คือ 1) สกุล e-Naira ของไนจีเรีย 2) Sand Dollar ของบาฮามาส และ 3) หยวนดิจิทัล (e-CNY) ของประเทศจีน
ความท้าทายและความยากลำบากในมุมมองการถ่ายทอดเทคโนโลยีของ CBDC ให้ประสบความสำเร็จ
  • Security vs. Accessibility: ในขณะที่เทคโนโลยีนี้ต้องง่ายในการเข้าถึงและการใช้งาน ทั้งผู้มีความรู้เชี่ยวชาญและยังไม่เชี่ยวชาญ การเข้าถึงได้แบบทั้งแบบเชื่อมต่อและแบบไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เทคโนโลยี่นั้นยังจำเป็นต้อง มีความมั่นคงด้านความปลอดภัย,การป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ อีกด้วย
  • Centralization vs. Decentralization: การตัดสินใจที่จะต้องเลือกเสริมจุดแข็งและปิดจุดอ่อน ของการออกแบบและใช้งาน แบบศูนย์กลางหรือแบบกระจายศูนย์ โดยขึ้นกับว่า CBDC จะเลือกใช้ระบบใด เช่น ระบบที่จัดกลุ่มแบบศูนย์กลางอาจมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการจัดการ แต่ระบบที่กระจายแบบกระจายศูนย์ อาจมีความทนทานยืดหยุ่นและเสี่ยงต่อการโจมตีน้อย
  • Interoperability vs. Sovereignty: การสร้างความเหมาะสม ของระบบที่เข้ากันได้และความต้องการใช้งานรวมกับสกุลเงินอื่นๆแบบไม่มีข้อจำกัด ในขณะเดียวกัน CBDCs ของประเทศนั้นๆยังคงต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือรักษาอำนาจอธิปไตยในการจัดการ,ป้องกันและควบคุมระบบเงินของตนให้ได้ด้วย
  • Innovation vs. Stability: ความสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความเสถียรภาพของระบบ เป็นที่ทราบกันว่านวัตกรรม ย่อมเป็นสิ่งล้ำหน้ากว่าระบบต่างๆแบบเดิม แต่การนำไปใช้ในระยะยาว สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างและรักษาความเสถียรใหม่ในระบบโดยต้องเข้ากันได้และหลีกเลี่ยงการทำลายเสถียรภาพของระบบการเงินที่มีอยู่แล้วด้วย
  • Public vs. Private: ความท้าทายในการหาสมดุลและจุดตัดสินใจ ของการออกแบบระบบ ทางเลือกที่จะต้องเสียสละ การจะเป็นระบบแบบสาธารณะหรือ เลือกระบบแบบเป็นส่วนตัว โดย CBDC ที่มีระบบแบบสาธารณะอาจมีความโปร่งใสและชี้แจงรายการและธุรกรรมต่างๆได้เปิดเผยและเปิดชุมชนนักพัฒนาร่วมกันพัฒนาในวงกว้าง ส่วนระบบส่วนตัวอาจมีประสิทธิภาพในการปฎิบัติ,คลองตัวในการตัดสินใจและเหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรมการเงินมากกว่า
เพื่อพัฒนาและการโอนถ่ายเทคโนโลยี CBDC ให้ประสบความสำเร็จ ต้องอาศ้ยการตระหนักรู้และเข้าใจถึงความจำเป็น จากคนในประเทศและผู้ใช้งานในทุกระดับผ่านการผลักดันนโยบายภาครัฐและภาคการเงินการธนาคาร เพื่อก้าวข้ามความยากลำบากและไปถึงเป้าหมายท้าทายเฉกเช่นหัวข้อข้างต้น
เพื่อพลักดัน CBDCs ออกสู่สาธารณะ และพัฒนาก้าวผ่านหุบเหว จนถูกนำไปใช้ในวงกว้างให้เกิดประโยชน์สูงสุดและช่วยกระจายความเสี่ยงในระบบการเงินใหม่ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
Inspiration by OpenAi
Ref:
"CBDCs and Cross-Border Payments: A Global Review of Central Bank Digital Currencies" by the Bank for International Settlements (BIS): https://www.bis.org/publ/bppdf/bispap101.pdf
"Technology Transfer and Central Bank Digital Currencies" by the International Monetary Fund (IMF): https://www.imf.org/en/Publications/WP/Issues/2021/02/22/Technology-Transfer-and-Central-Bank-Digital-Currencies-50111
"The Central Bank Digital Currency Dilemma: Provocations for the Future of Money" by the Harvard Kennedy School Belfer Center for Science and International Affairs: https://www.belfercenter.org/publication/central-bank-digital-currency-dilemma-provocations-future-money
"Technology Transfer and Central Bank Digital Currencies: A Developing Country Perspective" by the Centre for International Governance Innovation (CIGI): https://www.cigionline.org/sites/default/files/documents/Paper%20No.219%20WEB.pdf
โฆษณา