#MainStand Sprint Saturday : ความสดใหม่ใน F1 ฤดูกาล 2023
สปรินท์เรซ น่าจะเป็นสิ่งที่แฟน ๆ ของการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula 1 คุ้นเคยกันแล้ว หลังถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2021
ทว่าก่อนที่สปรินท์เรซแรกของฤดูกาล 2023 จะมีขึ้นที่ บากู ซิตี้ เซอร์กิต ประเทศอาเซอร์ไบจาน ช่วงสุดสัปดาห์นี้ (28-30 เมษายน) F1 ตัดสินใจปรับกฎกติกาใหม่เล็กน้อย เพื่อเพิ่มสีสันและอาจรวมถึงความสูสีในการแข่งขัน โดยจะมีผลใช้ทันที
Sprint Saturday คืออะไร ? มีอะไรน่าสนใจและเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง ? Main Stand ขอพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกัน
[จาก Sprint สู่ Sprint Saturday]
สัปดาห์การแข่งขัน F1 โดยทั่วไปก็จะเป็นอย่างที่แฟนกีฬาความเร็วรู้กัน ศุกร์ : ซ้อม 1, ซ้อม 2 - เสาร์ : ซ้อม 3, ควอลิฟาย - อาทิตย์ : แข่งจริง
ทว่านับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาที่เพิ่มสปรินท์เรซมาในบางสนาม สัปดาห์การแข่งขันจะมีการเปลี่ยนไปเล็กน้อย ศุกร์ : ซ้อม 1, ควอลิฟาย - เสาร์ : ซ้อม 2, สปรินท์เรซ - อาทิตย์ : แข่งจริง
กระทั่งปี 2023 F1 ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันในสัปดาห์ที่มีสปรินท์เรซอีกครั้ง กลายเป็น ศุกร์ : ซ้อม 1, ควอลิฟาย - เสาร์ : สปรินท์ชู้ตเอาต์, สปรินท์เรซ - อาทิตย์ : แข่งจริง
Sprint Saturday หากพูดให้เข้าใจง่ายก็คือการรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับสปรินท์เรซให้อยู่ในวันเดียวกัน โดยในตอนเช้าวันเสาร์ จากเดิมที่เป็นรอบซ้อม 2 กลายเป็น สปรินท์ชู้ตเอาต์ (Sprint Shootout) หรือรอบควอลิฟายจัดอันดับกริดสตาร์ทของการแข่งสปรินท์เรซ ซึ่งจะมีในตอนบ่ายวันเสาร์
[Sprint Shootout]
กติการอบสปรินท์ชู้ตเอาต์ ไม่ต่างอะไรกับรอบควอลิฟาย กล่าวคือยังคงมี 3 ช่วงย่อย Q1, Q2 และ Q3 เช่นเดิม แต่ลดเวลาต่อช่วงให้สั้นลง โดยในรอบควอลิฟาย Q1 จะกำหนดเวลาไว้ที่ 18 นาที, Q2 15 นาที, Q3 12 นาที ส่วนสปรินท์ชู้ตเอาต์ Q1 จะกำหนดเวลาไว้ที่ 12 นาที, Q2 10 นาที, Q3 8 นาที
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเนื้อยางที่ใช้ในรอบสปรินท์ชู้ตเอาต์ (กรณีสภาพสนามแห้ง) อีกด้วย โดย Q1 และ Q2 ใช้ยาง Medium ส่วน Q3 ใช้ยาง Soft
[ปรับเปลี่ยนเพื่อความสนุกยิ่งขึ้น ?]
นับตั้งแต่สปรินท์เรซถูกนำมาใช้ใน F1 เมื่อปี 2021 กติกานั้นคือ ผลรอบควอลิฟายในวันศุกร์จะถูกนำมาใช้เป็นกริดสตาร์ทของสปรินท์เรซในวันเสาร์ และผลการแข่งขันสปรินท์เรซในวันเสาร์จะถูกนำมาใช้เป็นกริดสตาร์ทของการแข่งขันจริงในวันอาทิตย์ โดยมีคะแนนสะสมจากสปรินท์เรซอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รูปแบบดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าการนำผลการแข่งขันสปรินท์เรซมาใช้เป็นกริดสตาร์ทของการแข่งขันจริงทำให้การแข่งขันนั้นคาดเดาได้ง่ายเกินไป เพราะเซอร์ไพรซ์จากรอบควอลิฟายแทบจะหมดไปทันทีในสปรินท์เรซ จากการที่สมรรถนะรถแต่ละทีมต่างกันเกินไป
เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP ที่มีสปรินท์เรซเช่นเดียวกันแต่รายละเอียดนั้นต่างกัน กล่าวคือผลรอบควอลิฟายจะถูกใช้เป็นกริดสตาร์ททั้งในสปรินท์เรซและการแข่งขันจริง ดูเหมือนว่าแนวทางที่ MotoGP ใช้จะส่งผลดีต่อภาพรวมของการแข่งขันมากกว่า เพราะตลอด 3 สนามในฤดูกาล 2023 มีเพียงแค่สนามแรกเท่านั้นที่แชมป์สปรินท์เรซและการแข่งขันจริงเป็นคนเดียวกัน และยังไม่เคยมีใครที่สามารถกวาดเรียบ คว้าตำแหน่งโพล, แชมป์สปรินท์เรซ และแชมป์การแข่งขันจริง ในสนามเดียวกันได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ F1 ตัดสินใจปรับรูปแบบการแข่งขันในสัปดาห์ที่มีสปรินท์เรซอีกครั้ง ด้วยความหวังว่าจะทำให้การแข่งขันสูสี คาดเดาไม่ได้ และสนุกถูกใจแฟนความเร็วยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจะตรงความคาดหวังหรือไม่ ? อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน
แหล่งอ้างอิง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
