27 เม.ย. 2023 เวลา 03:07 • หนังสือ

10 บทเรียนจากหนังสือ ‘The Almanack of Naval Ravikant’

10 Lessons From ‘The Almanack of Naval Ravikant’ 10 บทเรียนจากหนังสือ ‘The Almanack of Naval Ravikant’
“Naval Ravikant” นักลงทุนชาวอินเดีย
อดีต CEO แห่งบริษัท AngelList
นักเขียนผู้โด่งดังบนโลกทวิตเตอร์
ด้วยการทวีตบทเรียนเรื่องการเงินและการลงทุนและการบริหารชีวิต
โดยส่วนแรก จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความมั่งคั่ง
และส่วนที่สอง จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ชีวิตและความสุข
เนื้อหาส่วนแรก : On Wealth เกี่ยวกับความมั่งคั่ง
1. Wealth Creation
การสร้างความมั่งคั่ง
ความมั่งคั่งกับความร่ำรวย ในบางบริบท แตกต่างกัน ความมั่งคั่งแสดงถึงอิสรภาพ ในขณะที่ความร่ำรวย อาจแสดงถึงความมีมากเกินไปในบางครั้ง ซึ่งจริงๆแล้ว เราทุกคนในตอนนี้ ต้องการที่จะมั่งคั่งมากกว่าที่จะร่ำรวย พวกเราทุกคนต่างต้องการที่จะมีอิสรภาพในชีวิต
คำถามก็คือ แล้วเราจะเรียนรู้สร้างทัศนคติที่มั่งคั่ง ได้อย่างไร?
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง “คุณต้องให้คุณค่าแก่สังคม” ไม่ใช่การให้คุณค่าเพียงแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง หากคุณทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง คุณจะมั่งคั่งในระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ระยะยาว คุณจะถูกธรรมชาติเอาความมั่งคั่งคืนไปในท้ายที่สุด คุณต้องให้สิ่งที่สังคมต้องการแต่เขายังไม่รู้
2. Specific Knowledge
ความรู้เฉพาะด้าน
หากพูดถึงบทเรียนที่คนประสบความสำเร็จจะพูดถึงเสมอก็คือ พัฒนาจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน ถ้าคุณเอาแต่พัฒนาจุดอ่อน คุณก็จะกลายเป็นคนธรรมดา ซึ่งโรงเรียนกำลังทำแบบนั้นอยู่
เพราะสุดท้ายแล้ว ความรู้ที่เราเรียนรู้และค้นพบด้วยตัวเองทำให้เราไม่เหมือนใคร
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้จากการสำรวจและล้มเหลวในหลาย ๆ อย่าง
และไม่สามารถสอนในโรงเรียนและวิทยาลัยได้
“Specific knowledge cannot be taught, but it can be learned.”
“ความรู้เฉพาะด้านไม่สามารถสอนได้ แต่สามารถเรียนรู้ได้”
1
คุณต้องเข้าใจจุดเด่นตัวเอง เราทุกคนมีจุดเด่นเสมอ เพียงแค่คุณสังเกตหรือเปล่า เท่านั้นเอง เคารพในการเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีทางที่คุณจะเหนื่อยกับการเป็นตัวเองอย่างแน่นอน
3. Create Leverage
“You’re never to get rich renting your time.”
“คุณไม่มีวันรวยได้ด้วยการให้คนอื่นเช่าเวลาของคุณ”
ถ้าเรานำว่าคำว่า “Leverage” ไปแปลความหมายแบบตรงไปตรงมาก็จะแปลว่า “คานงัด”
แต่ถ้าในแง่มุมของด้านการลงทุน ก็คือ
เครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการลงทุนให้สูงขึ้น
ช่วยทำให้เราสามารถทำผลตอบแทนได้มากขึ้น
(และแน่นอนว่าก็ทำให้เรามีโอกาสขาดทุนเยอะขึ้นด้วยเช่นกัน)
4. Play long-term games with long-term people
เล่นเกมระยะยาวกับคนระยะยาว
ทำไมเราต้องมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว
หากคุณมองแต่เมระยะสั้น คุณต้องแข่งกับผู้คนจำนวนมหาศาล
แต่ถ้าคุณมองเกมในระยะยาว 5 ปี 10 ปี คุณจะมีคู่แข่งแค่เพียงไม่กี่คน และผู้คนจะเชื่อในตัวคุณ
คุณ Naval เขาเชื่อว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดในชีวิตเป็นผลมาจากการรวมตัวกัน
ระหว่าง ความสัมพันธ์ของคุณ การสร้างธุรกิจ หรือแม้แต่มิตรภาพ
เมื่อสร้างบริษัท เราจำเป็นต้องค้นหาแนวคิดที่จะใช้ได้ผลในระยะยาว
และผู้คนที่เราต้องการทำงานด้วยเป็นเวลานาน
ดังนั้น คนที่มีวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าเรา คือคนที่เราควรเรียนรู้ด้วยเสมอ
5. Play to you and work for others
เล่นเพื่อคุณและทำงานเพื่อผู้อื่น
เมื่อคุณพบสิ่งที่คุณชอบทำ คุณจะสนุกกับทุกนาที
Elon Musk สร้าง SpaceX, Tesla และเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
เพราะเขารักเทคโนโลยี เขาไม่จำเป็นต้องผลักดันตัวเองให้ทำงานทุกวัน
เมื่อเทียบกับคนที่เกลียดงานของตัวเอง
คุณ Alan Watts นักเขียน และนักปรัชญาชาวอังกฤษ กล่าวว่า
“นี่คือความลับที่แท้จริงของชีวิต — จงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ที่นี่และเดี๋ยวนี้ และแทนที่จะเรียกมันว่าการทำงาน ให้ตระหนักว่ามันคือการเล่น”
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ยังมีคนอีกนับล้านที่บ่นโชคชะตา แต่กลับไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แม้แต่การพัฒนาตัวเอง ซึ่งตอนนี้ คุณผู้ฟังไม่ใช่คนกลุ่มนั้น คุณกำลังพัฒนาตัวเองครับ 😊
เนื้อหาส่วนที่สอง : On Life and Happiness เกี่ยวกับชีวิตและความสุข
6. Happiness is Learned
ความสุขคือการเรียนรู้
ความสุขไม่ใช่จุดหมายปลายทาง มันไม่ใช่ความสำเร็จ มันไม่ใช่เงิน
คุณ Naval เรียกมันว่า “ทักษะที่เราทุกคนสามารถเรียนรู้ได้”
พอเราได้รับสิ่งที่ต้องการมาแล้ว ความสุขของการได้รับนั้นก็จะเริ่มลดลงจนรู้สึกเฉย ๆ
แล้วจิตใจก็เปลี่ยนจะไปจดจ่อกับสิ่งอื่นที่เราอยากได้อีก เมื่อได้มาแล้วก็จะรู้สึกเฉย ๆ อีก เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็น “กับดัก”
แนวคิดของความสุขนั้นแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล
แต่สำหรับคุณ Naval ความสุขคือ การเป็นอิสระจากความเจ็บปวดและความปรารถนา หรือสำหรับบางคนก็อาจเป็นความสบายใจ
7. Life is a Single-Player Game
ชีวิตคือเกมที่มีผู้เล่นเพียงคนเดียว
ประโยคที่แสดงถึงหัวข้อนี้ได้ดีที่สุดก็คือ คุณคือผู้รับผิดชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
เราเรียนรู้เกือบทุกอย่างในชีวิตจากพ่อแม่และคนรอบข้าง เราพึ่งพาผู้อื่นมากจนเราลังเลที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง
อาชีพของเรามักถูกกําหนดก่อนจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม
ทุกสิ่งที่เราทำในชีวิตคือสิ่งที่ถูกปูทางมาจากพ่อแม่และสังคมของเรา
ความเป็นจริงคือชีวิตคือเกมที่มีผู้เล่นคนเดียว คุณเกิดมาคนเดียว คุณจะต้องตายอย่างโดดเดี่ยว
ความทรงจำทั้งหมด เป็นของคุณเพียงคนเดียว สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต คุณจะตีความอย่างไร ขึ้นอยู่กับคุณเพียงคนเดียว การเลือกเส้นทางชีวิตของคุณ คุณต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
สุดท้ายแล้ว ทั้งหมดนี้ มันเป็นเกมที่คุณต้องเล่นเพียงคนเดียว
8. Being Yourself
เป็นตัวของตัวเอง
“พระเจ้าจะสนับสนุนให้คุณสำเร็จจากการเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่พระเจ้าจะขัดขวางคุณทุกครั้ง เมื่อคุณกำลังเป็นคนอื่น”
ชีวิตคือการเป็นตัวของตัวเอง หลายคนอยากเป็นหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป
เราพยายามอย่างหนักเกินไปที่จะปั้นตัวเองให้เป็นโมดูลและโครงสร้างที่ออกแบบโดยสังคมและผู้คนที่เรารู้จัก
และเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากพวกเขา สุดท้ายแล้วผู้คนบางส่วนจึงพยายามที่จะเป็นเหมือนคนอื่นๆ
ดังนั้น จงใช้ความกล้าหาญในการยืนหยัดต่อต้านความเชื่อ และแกะสลักเส้นทางของคุณเอง
9. Concept of freedom
แนวคิดเรื่องเสรีภาพ
“อิสรภาพในชีวิตของคุณ คืออะไร” บางทีมันอาจจะเป็นการมีเวลาได้ดื่มกาแฟร้อนๆตอนเช้าก็ได้ครับ แต่คุณต้องตอบกับตัวเอง
โฆษณา