28 เม.ย. 2023 เวลา 21:27 • สุขภาพ

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน

เบาหวานคือโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคนหลายล้านทั่วโลก มันสำคัญที่จะเข้าใจโรคเบาหวานอย่างละเอียด รวมถึงสาเหตุ อาการ วิธีการจัดการ และภาวะโรคที่อาจเกิดขึ้น ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสู่การเรียนรู้สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานอย่างเข้าใจง่าย มาพร้อมกันเราจะสำรวจและเสริมความรู้เพื่อช่วยคุณมีชีวิตที่แข็งแรงและสุขภาพดีไปด้วยกัน และอย่าลืมว่าโรคเบาหวานไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกินหวานเท่านั้น
เบาหวานคือโรคที่เกิดจากร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินให้เพียงพอหรือใช้อินซูลินที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยให้เซลล์ในร่างกายใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้อย่างเหมาะสม เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นได้
เบาหวานนั้นมีกัน 3 ชนิด ได้แก่
เบาหวานชนิด 1: เป็นภาวะที่ร่างกายโจมตีเซลล์ผลิตอินซูลินในตับ ซึ่งทำให้ไม่มีการผลิตอินซูลินหรือผลิตน้อยมาก ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิด 1 จำเป็นต้องใช้อินซูลินเสมอตลอดชีวิต
เบาหวานชนิด 2: เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด ซึ่งเกิดจากการต้านทานอินซูลินในร่างกาย หรือการผลิตอินซูลินที่ไม่เพียงพอ เบาหวานชนิด 2 มักเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น อาหารที่ไม่ถูกต้อง พฤติกรรมการออกกำลังกายที่น้อยลง และโรคอ้วน
เบาหวานชนิดอื่นๆ: นอกจากเบาหวานชนิด 1 และชนิด 2 ยังมีรูปแบบเบาหวานอื่นๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุพิเศษหรือปัจจัยเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาวะต้านทานอินซูลินหรือการผลิตอินซูลินที่ไม่เพียงพอในร่างกาย นี่เป็นบางกรณีที่เบาหวานอาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งเรียกว่าเบาหวานในครรภ์
หรือในบางกรณีอาจเกิดจากการใช้ยาหรือสารเคมีที่ส่งผลให้เกิดเบาหวานได้ เบาหวานชนิดอื่นๆ อาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไป และอาจต้องการการรักษาที่แตกต่างกันเช่นกัน การวินิจฉัยและการจัดการของเบาหวานชนิดอื่นๆ อาจต้องพึ่งพาการประเมินรักษาจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญในสาขาเบาหวานและต่อมสมองในร่างกาย
อาการที่พบบ่อยของโรคเบาหวานคือ มีการปัสสาวะบ่อยครั้ง ความกระหายน้ำมากเกินไป การลดน้ำหนักที่ไม่อธิบายได้ ความเหนื่อยล้าตลอดเวลา มองเห็นพร่า การหายของแผลช้าลง และการเกิดการติดเชื้อซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม บางคนที่มีเบาหวานชนิด 2 อาจไม่มีอาการที่เห็นได้ชัดเจนในระยะเริ่มต้น
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานดังนี้
1. ประวัติครอบครัวที่มีโรคเบาหวาน: หากมีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นเบาหวาน โอกาสที่จะเป็นเบาหวานเองก็จะเพิ่มขึ้น
2. อ้วน: การมีน้ำหนักเกินมากเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเป็นเบาหวาน การออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างเป็นครั้งคราวอาจช่วยลดความเสี่ยง
3. ชีวิตที่นิ่งเฉย: การไม่เคลื่อนไหวมากเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะการนั่งทำงานนานเป็นระยะเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน
4. รับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย: การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีโซเดียมสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน
5. ความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลต่อระบบหลอดเลือดและการทำงานของสารต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน การดูแลและควบคุมความดันโลหิตสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
ในการวินิจฉัยโรคเบาหวาน แพทย์ใช้การตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวาน การตรวจนี้จะวัดระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงเวลาที่งดอาหาร (fasting blood sugar levels) รวมถึงการวัดระดับ HbA1c (ระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยตลอดเวลา) และบางครั้งอาจใช้การทดสอบการทนต่อน้ำตาลในกระแสเลือดอาหาร (oral glucose tolerance test: OGTT) เพื่อประเมินว่าร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลได้อย่างไร
การควบคุมโรคเบาหวานจะควบคุมกันหลักๆ3แบบ ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต: การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและสุขภาพดี, การออกกำลังกายเป็นประจำ, การควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม, และการลดความเครียดเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การใช้ยา: บางผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาทางปากหรือฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
3. การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด: การตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าร่างกายของพวกเขาตอบสนองอย่างไรต่ออาหารต่างๆ, กิจกรรม, และยาที่ใช้ในการรักษา
ภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยให้โรคเบาหวานไม่ได้รับการรักษาหรือการจัดการที่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ ที่รุนแรง เช่น โรคหัวใจ, อัมพาต, โรคไต, การเสื่อมสายประสาท, ปัญหาที่เกี่ยวกับเท้า, และการสูญเสียการมองเห็น แต่ถ้าเราดูแลและจัดการโรคเบาหวานอย่างถูกต้อง พร้อมรับการดูแลทางการแพทย์เป็นประจำ เราสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ลงได้
สำคัญมากที่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรค้นหาการสนับสนุนจากบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวาน และกลุ่มสนับสนุนต่างๆ เรียนรู้การจัดการเองในการแพทย์ของโรคเบาหวานจะมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเลือกทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับสุขภาพ การจัดการยา และกลยุทธ์ในการรับมือกับโรค เพื่อให้กาควบคุมโรคเบาหวานโรคเบาหวานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเข้าใจโรคเบาหวานอย่างถ่องแท้เป็นสิ่งสำคัญทั้งสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานและผู้รอบข้างต่างๆ โดยการรับรู้เกี่ยวกับสาเหตุ อาการ กลยุทธ์การจัดการ และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เราสามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและตระหนักถึงวิธีการปฏิบัติอย่างเป็นกันเองเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพและเต็มเปี่ยมได้ โดยจำไว้ว่าโรคเบาหวานไม่ได้กำหนดเรา แต่ความรู้และการกระทำของเราสามารถช่วยในการจัดการโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมที่จะติดตามข่าวสาร มีความมั่นใจในตัวเอง และให้ความสำคัญกับสุขภาพของคุณ
โฆษณา