29 เม.ย. 2023 เวลา 04:40 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
โลกคู่ขนานและจักรวาลคู่ขนานคือ
จักรวาลที่ดำเนินไปพร้อมกับจักรวาลที่เราอยู่ในตอนนี้ ทฤษฎีนี้นักฟิสิกส์ริเริ่มคิดขึ้นมาโดยมีเหตุการณ์ที่เราลังเลอยู่ 2 ทาง หากเราตัดสินใจไปทางหนึ่ง แล้วคิดไหมว่าถ้าวันนั้นเราตัดสินใจไปอีกทาง มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในโลกนี้ ที่เรามีตัวตนอยู่ในขณะนี้
ในขณะเดียวกัน ก็มีเราอีกคนหนึ่งในอีกโลกหนึ่งและมีโลกคู่ขนานมากมายอีกนับไม่ถ้วน
เช่น ขณะนี้ เราได้ตัดสินใจทำบางสิ่ง ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ ในขณะที่อีกโลกของเราได้ตัดสินใจไปอีกทางหนึ่ง ทำให้ชีวิตตัวเองและผู้อื่นเสียหายก็เป็นได้ เช่นสมมุติว่าบางครั้งคุณอยากจะฆ่าตัวตาย แต่คุณล้มเลิก บางทีคุณในโลกคู่ขนานอาจจะฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้
ทฤษฎีเกี่ยวกับโลกคู่ขนาน
ถูกคิดค้นขึ้นเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ความเป็นไปได้ ว่าทุกๆเหตุการณ์ที่เรามี 2 ตัวเลือก จะเกิดโลกคู่ขนาน2โลก และจาก 2 โลก ถ้าเราเจอเหตุการณ์อื่นที่ต้องตัดสินใจ 2 ทางอีก และแต่ละโลกจะเกิดโลกคู่ขนานอีก 2 โลก ไปเรื่อยๆ โลกคู่ขนานจึงมีจำนวนนับอนันต์
ทฤษฎีโลกคู่ขนาน ยังอธิบายต่อไปอีกว่า
หากมีการย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตได้ เช่นคุณย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองให้ซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ที่จะทำให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี เมื่อคุณบอกตัวเองในอดีตเรียบร้อยแล้ว คุณกลับมายังเวลาปัจจุบัน แต่กลับพบว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตถึงปัจจุบันได้ คุณไม่ได้เป็นเศรษฐีเลย แต่ทว่ากลับมีอีกโลกหนึ่งที่คุณร่ำรวยเป็นเศรษฐี นั่นแหละคือโลกคู่ขนานที่เกิดจากการย้อนเวลาไปบอกตัวเอง
และโลกคู่ขนานยังสื่อสัมพันธ์ทางจิตถึงตัวคุณเองได้อีกด้วย เช่นเมื่อคุณกำลังนอนหลับ แล้วฝันถึงตัวคุณในอีกโลกหนึ่ง ที่มีภรรยาแสนสวย และยังมีฐานะร่ำรวย ชีวิตอุดมสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือบางครั้งคุณอาจจะฝันถึงตัวเองติดคุก หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่อันตราย ชีวิตทุกข์ยากลำบาก นั่นก็เป็นตัวคุณในอีกโลกหนึ่งเช่นกัน
บางทฤษฎีเชื่อว่า เมื่อเราตายจากโลกนี้ไปแล้ว เราก็จะไปตื่นในโลกหนึ่ง ตามกฎแห่งกรรมของเรา เช่นเราทำดีมีจิตใจประเสริฐ เราก็จะไปตื่นในโลกคู่ขนานที่ตัวเรานั้นเลือกหนทางที่ดีไว้ หากเราเป็นคนชั่วร้าย เราก็จะตื่นมาในโลกที่เราเลือกทำความชั่วไว้ที่มีแต่ความทุกข์ทรมานนั่นเอง
การเดินทางข้ามมิติไปยังอีกโลกคู่ขนานของเรา เป็นนิยายทางวิทยาศาสตร์ ที่เรามักจะเห็นตามภาพยนตร์ เราพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงไหม เฉกเช่นที่เราก็พิสูจน์ไม่ได้เหมือนกันว่ามันไม่มีจริง
จริงๆแล้วมิติโลกคู่ขนานในความหมายของวิทยาศาสตร์ ไม่ได้หมายถึงมิติลี้ลับหรือมิติมหัศจรรย์ แต่มันหมายถึง dimension ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความหมายในทางคณิตศาสตร์ อย่างเช่น การขีดเส้นตรงมี 1 มิติ พื้นที่คือ 2 มิติ และปริมาตรคือ 3 มิติ คือมีกว้างยาวสูง
ในทางคณิตศาสตร์คุณสามารถมีมิติเท่าไหร่ก็ได้ แต่ในอวกาศ หรือที่ว่างที่เราเห็นนั้นเป็น 3 มิติ
นักฟิสิกส์อธิบายเพิ่มเติมว่า ในการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น นอกจากขึ้นอยู่กับพื้นที่แล้วยังขึ้นอยู่กับเวลาด้วย ซึ่งในทางคณิตศาสตร์นับเป็นอีกมิติหนึ่ง ซึ่งได้กลายเป็น 4 มิติ ที่เรียกว่า space time หรือกาลอวกาศ มีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานว่าจะมีมากกว่า 4 มิติ ในคริสต์ศักราช1921 นักฟิสิกส์สันนิษฐานว่ากาลอวกาศมีอยู่ 5 มิติ ซึ่งมิติที่เกินมานั้นเรียกว่ามิติพิเศษ ซึ่งต้องหาคำตอบให้ได้ว่ามิติดังกล่าวหายไปไหน หรือสันนิษฐานว่ามิติดังกล่าวหดตัวอยู่ กลายเป็นมิติที่เล็กมากจนมองไม่เห็น
4
จนกระทั่ง มีการศึกษาแนวคิดดังกล่าวมากขึ้น ในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเปรียบเทียบโลกคู่ขนานเหมือนกับการขดตัวของกระดาษเป็นทรงกระบอก หากรัศมีของการขดตัวของกระดาษสั้นกว่าความยาวคลื่นของแสง ก็จะไม่สะท้อนออกมาเป็นเงาหรือภาพให้เรามองเห็นได้ ซึ่งนักฟิสิกส์ก็พยายามจะพิสูจน์ว่ามิติดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่
ซึ่งการทดลองนี้เป็นหนึ่งในโครงการ ของการสร้างเครื่องเร่งอนุภาค ที่มีการทดลองที่เป็นข่าวโด่งดังมากเมื่อสมัยก่อน
การทดลองยิงมวลสารของเครื่องเร่งอนุภาคนานาชาติต่างออกมาต่อต้าน เพราะกลัวจะเกิดปรากฏการณ์หลุมดำ แต่การทดลองก็ได้ดำเนินต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าจักรวาลเกิดจากอะไร หรือที่มาของแหล่งพลังงานทั้งหลาย
คุณเคยสงสัยไหมว่า การบรรลุนิพพาน ถึงจิตสุดยอดของพระพุทธเจ้านั้น คือการรวบรวมจิตของตัวเองจากโลกคู่ขนาน และประสบการณ์ต่างๆในการเวียนว่ายตายเกิด การแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ การเดินทางข้ามมิติโลกคู่ขนาน เป็นหนึ่งในทฤษฎีโลกคู่ขนาน ที่เราหาคำตอบนี้อยู่หรือไม่
โลกคู่ขนานเป็นสิ่งที่น่าคิดและน่าสงสัยมาก
โฆษณา