16 พ.ค. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ

ชาวโลกจำนวนมากสับสนระหว่างความจริงกับสัญลักษณ์

เช่น คิดว่าเงินคือความมั่งคั่งและความสำเร็จ
มองอีกมุมหนึ่ง เงินโดยตัวมันเองไม่ใช่ความมั่งคั่งและความสำเร็จ มันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความสำเร็จต่างหาก เพราะเรากินธนบัตรเป็นอาหารไม่ได้ จนกว่าเราจะเปลี่ยนสภาวะธนบัตรเป็นสภาวะอาหาร เราอาศัยอยู่ในธนบัตรไม่ได้ จนกว่าเราจะเปลี่ยนมันเป็นบ้าน เช่นกัน เราก็ขับธนบัตรไปไหนมาไหนไม่ได้ จนกว่าเราจะเปลี่ยนสถานะมันเป็นรถยนต์
2
บ้าน รถยนต์ ฯลฯ วัตถุต่าง ๆ ก็เป็นแค่สัญลักษณ์ของการประสบความสำเร็จ เป็นดัชนีมาตรวัดนามธรรมที่เราสมมุติขึ้นมาและตั้งชื่อว่าความสำเร็จ
3
เนื่องจากเป็นนามธรรมที่ทำให้รู้สึกดี ใคร ๆ จึงอยากได้เงินมาก ๆ ไม่ต่างจากที่คนหลายคนรู้สึกดีเมื่อนามบัตรของตนพิมพ์ตำแหน่งว่า กรรมการผู้จัดการ หรือผู้บริหารระดับสูง
2
ดังนั้นเวลาใครคนหนึ่งบอกว่าอยากประสบความสำเร็จ เขากำลังพูดถึงมาตรวัดนามธรรมนั้น
แต่ในความเป็นจริง เมื่อเราเปลี่ยนสภาวะธนบัตรเป็นวัตถุสิ่งของจริง ๆ เช่น บ้าน รถยนต์ เราก็ใช้มันได้ทีละหลังทีละคัน
เราอาจมีบ้านหลายหลัง แต่อยู่ได้ทีละหลัง
1
เราอาจมีเงินซื้ออาหารได้ทั้งร้าน แต่เราก็กินได้เท่าที่พื้นที่กระเพาะเราบรรจุได้
1
นอกจากนี้ ความมั่งคั่งก็เป็นเรื่องอัตวิสัย แต่ละคนมองมันไม่เหมือนกัน ขึ้นกับเราแปลความมั่งคั่งที่เปลือกหรือแก่น
1
เพราะโลกก็มีคนไม่มีเงินที่มี ‘ความมั่งคั่ง’ ได้ไม่น้อย
2
ตั้งแต่เกิด เราถูกสังคมตีกรอบคิดให้เชื่อว่า ความสำเร็จหรือความสุขวัดกันที่ความรวย สถานะทางสังคม ตำแหน่งที่เรามี เสื้อผ้าที่เราสวม ราคาของบ้านที่เราอยู่อาศัย รถยนต์ที่เราใช้
2
กลายเป็นสังคมแห่งความต้องการ
เราต้องการแต่สิ่งดี ๆ เราต้องการ ๆ ๆ ๆ ด้วยความเชื่อว่ามันคือข้อแม้ของความสุข และเชื่อว่าฐานะและความสำเร็จเป็นเครื่องมือที่พาเราไปถึงจุดหมายแห่งชีวิต
แต่ปราชญ์จวงจื่อเห็นว่ามันไม่ใช่ การแสวงหาความสุขแบบนี้อาจผิดพลาดแต่แรก
จวงจื่อกล่าวว่า “ความสุขที่แท้จริงก็คือการไม่ดิ้นรนแสวงหาความสุข”
6
การเดินตามกรอบแห่งวัตถุนิยม เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเรา ไม่น่าจะใช่ทางแห่งความสงบสุข
1
เพราะความสุขไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ตำแหน่ง ไม่ใช่ชื่อเสียง
1
เราไม่สามารถเป็นอิสระอย่างแท้จริงหากเดินตามกรอบคิดของ ‘คุณค่า’ แห่งความสำเร็จ ตกเป็นทาสของสิ่งต่าง ๆ ถ้าสังคมเห็นว่าเงินทองสำคัญ เราก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องดิ้นรนหาเงินทองให้มากที่สุด แต่ในวันตาย เราก็เอาเงินไปไม่ได้สักบาทเดียว เผาเงินกงเต๊กไปเท่าไรก็ไม่น่าจะไปถึงเรา เพราะถึงเวลานั้นอะตอมของเราจากกายเดิมอาจเปลี่ยนรูปชีวิตไปแล้ว
1
คัมภีร์เต๋าเต๋อจิง บทที่ 9 เขียนว่า “เมื่อเติมน้ำถึงขอบชาม มันจะล้น ลับมีดตลอด มันจะทู่ แสวงหาเงินและความมั่นคง ใจจะไม่ผ่อนคลาย สนใจความเห็นพ้องของคนอื่น จะกลายเป็นนักโทษของคนเหล่านั้น จงทำงานของเจ้า แล้วถอยกลับมา นี่เป็นหนทางเดียวสู่ความสงบสุข”
5
อิสระที่แท้จริงคือการมองว่าความสุขเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราเป็นอิสระจากสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สังคมกำหนด
3
บางท่อนจากหนังสือ 'ตัวสุขอยู่ในหัวใจ' ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ
สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113)
โฆษณา