สงครามเย็นรุ่นใหม่จะนำไปสู่ไฟบัลลัยกัลป์มั้ย?
ตอนที่ริชชี่ทราบเรื่องสงคราม”เย็น”ครั้งแรกก็นึกไม่ออกว่าคือสงครามอะไร ไพล่ไปคิดถึง สงครามเกาหลีบ้าง สงครามเวียดนามบ้าง หรือสงครามต่อสู้ลัทธิคอมมิวนิสต์ในทวีปเอเซียบ้าง
ไม่ได้นึกไปถึงว่าสงครามเย็นมีจุดกำเนิดในยุโรป แล้วแผ่ขยายมาเป็นสงครามร้อนหรือสงครามตัวแทนในทวีปเอเซีย
นำความย่อยยับมาให้ประเทศเวียดนามลาวและกัมพูชากลายเป็นสมรภูมิเลือดโดยรัสเซียหนุนเวียดนามจีนหนุนกัมพูชาและลาวต่อสู้กับลัทธิทุนนิยมของฝ่ายตะวันตก เป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปี
มีทั้งทดลองอาวุธใหม่ ยุทธวิธีการรบใหม่ เครื่องบินรบใหม่ ระเบิดนาปาล์ม ระเบิดตัดขาขาดที่สหรัฐขนมาถล่มเส้นทางโฮจิมินห์หลายล้านลูก สารสีส้มทำลายป่า
บางคนถึงกับเปรียบความรุนแรงของสงครามเย็นในเอเซียว่าไม่แพ้สงครามโลกครั้งที่สอง และอาจเป็นครั้งที่สามได้สบาย ถ้านับความโหดเหี้ยมของทหารเขมรแดงในทุ่งสังหารที่ชาวกัมพูชาต้องตายถึง 1 ล้านคน
แต่ก็ได้มีผู้เปรียบเปรยไว้ว่า ถ้าสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มจากปากกระบอกปืนกลและปืนใหญ่ จบลงด้วยรถถัง และสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มจากรถถังจบลงด้วยระเบิดปรมาณู แล้ว
ก็เป็นที่หวาดหวั่นกันว่าสงครามโลกครั้งที่สามจะเริ่มจากระเบิดปรมาณู และจบลงด้วยหัวรบระเบิดไฮโดรเจน!! และทั้งหมดคงไม่ได้ขนระเบิดไปทิ้งแบบฮิโรชิมานางาซากิแล้ว แต่ส่งจรวดติดหัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์ไปประเคนกันแบบเร็วกว่าเสียงเลยทีเดียว
เหมือนกันกับตอนนี้ที่กำลังเริ่มทดสอบอาวุธใหม่ๆกันแล้วโดยจีนทดลองขีปนาวุธเร็วกว่าเสียงสำเร็จ…
และสหรัฐกับรัสเซียยังเป็นคู่กัดเดิมที่กัดกันไม่ยอมปล่อยในยุโรปและเอเซียแปซิฟิค และแถมมีอาวุธมหาประลัยไฮโดรเจนด้วยกัน
จำนวนหัวรบนิวเคลียร์และไฮโดรเจนของโลกสหรัฐเป็นประเทศเดียวที่จำนวนหัวรบลดลง
และตอนนี้ทั้งสองประเทศน่าจะเร่งผลิตทั้งหัวรบนิวเคลียร์และไฮโดรเจนและอาวุธอันทรงประสิทธิภาพอื่นๆกันใหม่อย่างลับๆทั้งวันทั้งคืนแล้ว
การที่มีการสู้รบกันหลายจุดและทำท่าลุกลามไปในหลายทวีปประกอบกับเศรษฐกิจโลกตกต่ำลงเรื่อยๆทำให้น่าเป็นห่วงว่าสงครามอาจเป็นตัวตัดสินชะตากรรมโลกเพราะความตึงเครียดเริ่มกระจายขยายตัวไปในที่ต่างๆตามการแผ่อิทธิพลของสหรัฐในจุดยุทธศาสตร์ต่างๆที่สหรัฐคุมอยู่เกือบทั้งโลก
ไม่ว่าเป็น อิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซูดาน ซึ่งกำลังทำสงครามกลางเมืองกันอยู่เพราะสหรัฐซึ่งถือหางฝ่ายกองทัพบกและฝ่ายประชาธิปไตยต้องการกันทางเข้าออกคลองสุเอซและคุมอ่าวเปอร์เซียด้านอาฟริกาไม่ให้จีนซึ่งถือหางฝ่ายปฏิวัติหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้ามายึดเป็นจุดยุทธศาสตร์
อีกทั้งเห็นว่าจีนได้เข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทบาดหมางระหว่างซาอุดิอารเบียและอิหร่านสำเร็จทำให้สหรัฐสูญเสียพันธมิตรรวมทั้งจีนมีบทบาทแก้ไขเรื่องบาดหมางระหว่างกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมันที่อ่าวเปอร์เซียในช่องแคบฮอร์มุซ ทำให้สหรัฐตกอยู่ในฐานะเป็นเบี้ยล่างลงไปเรื่อยๆในเวทีสงครามอ่าวในครั้งนี้ทั้งๆที่แต่ก่อนเล่นเป็นพระเอกมาตลอด
ในขณะเดียวกันที่ช่องแคบไต้หวันสหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์ มาลาดตระเวณในทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเหมือนดูลู่ทางหนีทีไล่และทำสัญญาขายเรือดำน้ำปรมาณูให้ไต้หวัน แถมด้วยออสเตรเลียอีกสามลำ เพื่อยันการคุกคามของจีนรวมทั้งแสวงหาพันธมิตรทางยุทธวิธีเช่นฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และเวียดนามทำให้กำลังยันกันอยู่ ถึงแม้จะถูกขู่ฟ่อๆจากจีนและเกาหลีเหนือ หมากกระดานนี้จึงยังเสมอกัน…
และเมื่อลองประเมินกำลังกันแล้วยังเห็นว่าสหรัฐยังคงความได้เปรียบด้านเทคโนโลยี มีอาวุธมหาประลัยเพียบในกองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพโดรน ขีปนาวุธ ระบบป้องกันขีปนาวุธเพทรีออตยิงจากพื้นสู่อากาศ และอื่นๆ
โดยในโลกนี้มีระเบิดปรมาณูไฮโดรเจนและหัวรบปรมาณูไฮโดรเจนระยะยิงไกล 7,500 ไมล์หรือ 12,000 ก.ม. ถึง 12,500 ลูกเป็นอย่างน้อย แค่สองประเทศรัสเซียและสหรัฐมีระเบิดและหัวรบไฮโดรเจนรวมกัน ก็คิดเป็น 11,133 ลูกแล้วโดยรัสเซียมีมากกว่าครึ่ง และในจำนวนนี้มีขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีปไม่ต่ำกว่า 400 ลูก ซึ่งมีหัวรบมากถึง 1,185 หัวรบ ในจำนวน12,500 ลูกนี้ 9, 576 ลูกทั้งสองประเทศสามารถนำออกประจำการได้ทันที
อภิมหาระเบิดบัลลัยกัลป์ระเบิดไฮโดรเจนจักรพรรดิพระเจ้าซาร์ หรือ Tsar Bomba ขนาด 50 เมกะตัน ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ทดสอบกันมา ดอกเห็ดขึ้นไปสูงกว่ายอดเขาเอเวอร์เรสต์ซึ่งสูง 8.848 กม
ส่วนจีนมีขีปนาวุธข้ามทวีปเพียง 450 ลูก ถึงแม้จะมีขีปนาวุธเร็วกว่าเสียงก็ตามยังมิใช่คู่มือของสหรัฐ เกาหลีเหนือมี 30 อินเดียมี 164 ปากีสถาน 170 อิสราเอล 90ฝรั่งเศส 290 อังกฤษ 225
ขณะนี้ขุมกำลังอาวุธมหาประลัยกัลป์และขีปนาวุธของสหรัฐยังผลิตไม่ทัน บางสำนักอ้างว่าในอัตราปัจจุบัน อัตรากำลังการผลิตยังช้าไปหลายปี เชื่อว่าขณะนี้ใช้เวลาผลิตและส่งมอบนานถึง 32 เดือนแต่เนื่องจากสหรัฐทำสนธิสัญญาเป็นพันธมิตรในการรบกับประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งสะสมอาวุธสำรองและบางประเทศมีเทคโนโลยีที่อยู่ในชั้นแนวหน้าดังนั้นเป็นที่น่าเชื่อว่าพันธมิตรของสหรัฐยังเป็นกองหนุนได้
สำหรับเรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ รัสเซียมีถึง10 ลำ ติดหัวรบไม่ต่ำกว่า 800 หัวรบนิวเคลียร์แต่เมื่อเทียบกับสหรัฐ ซึ่งมีเรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ 14 ลำ และอีกไม่รู้กี่ลำที่แจกให้พันธมิตรใช้ เช่นขายอีก 3 ลำให้ออสเตรเลีย สหรัฐจึงมีความได้เปรียบรัสเซีย…ส่วนจีนมีเพียง 6 ลำ
เรือบรรทุกเครื่องบินพลังนิวเคลียร์ติดหัวรบนิวเคลียร์สหรัฐมีถึง 11ลำ มากที่สุดในโลกและเท่ากับทุกประเทศที่เหลือรวมกัน อังกฤษมี2 อิตาลี 2 จีน2 อินเดีย1 ฝรั่งเศส1รัสเซีย1 สหรัฐชนะสงครามหลายครั้งจากการรบทางเรือบรรทุกเครื่องบิน…
เรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ที่มาอวดโฉมที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทย
รถถัง เดิมรัสเซียมีกำลังการผลิตรถถังวันละ 1,000 คัน แต่ปัจจุบันผลิต T 72 ได้แค่ 20 คันและเสียรถถังไปแล้ว ร่วม 1900 คัน แต่ยังมีสำรองเพื่อประจำการอีก 10,000 คัน เกาหลีเหนือมีกองทัพรถถังประจำการใหญ่ที่สุดถึง 6,600 คัน รองลงมาคือจีนมี 5,000 คัน
แต่สหรัฐมีอาวุธทำลายรถถังที่เหนือชั้นคือจาเวลิน
จิ๋วแต่แจ๋ว สหรัฐเอาปืนไร้แรงสะท้อนเข้าพิพิธภัณฑ์ ประดิษฐ์จรวดจาเวลินต่อต้านรถถังอันทรงประสิทธิภาพทำลายรถถัง100% เล่นงานรถถังรัสเซียในระยะประชิด เป็นหุ่นยนต์ติดหัวรบอะไรก็ได้ ยิงจากปากกระบอกนำวิถีด้วยอินฟราเรด นำตัวเองทะยานขึ้นฟ้าในระดับสูง 490 ฟุต ก่อนที่จะล้อคเป้าพุ่งเข้าใส่รถถังจากเบื้องสูงเข้าทำลายส่วนหัวของรถถังที่มีเกราะเสริมหุ้มบางที่สุดหัวรบจะระเบิดติดกันสองครั้งทำลายเกราะ2ชั้นของรัสเซีย
และแจกให้ยูเครนเอาไปถล่มรัสเซีย ส่วนพันธมิตรก็ไม่เบา เยอรมันมีLeopard 2 ของเยอรมันที่ชื่อว่าดีที่สุดในโลกสามารถยิงเข้าเป้าห่างออกไป5 กม ในขณะกำลังวิ่ง…แจกไปให้ยูเครนเพื่อเร่งอุณหภูมิแล้ว…เป็นการยัดฟืนใส่เตา…
ยิ่งกว่านั้นสหรัฐมีระบบป้องกันขีปนาวุธ โดยเสริมเขี้ยวเล็บให้ยูเครนด้วย MIM 104 Patriot ผลิตโดยเรไธออน-ล้อคฮีดมาร์ติน และโบอิ้ง
จรวดต่อสู้รถถังจาเวลินที่ทำลายรถถังรัสเซียและนายพลรัสเซียตายไปหลายคนสูญเสียรถถังไปกว่า 1900 คัน เป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของทหารประจำรถถังรัสเซียเป็นอันมาก
นอกจากจรวดทำลายรถถังจาเวลินสะพายไหล่ที่พลรถถัง T72 กลัวจนลนลาน ยังมีปืนใหญ่ลูกปรายเฮาวิตเซอร์ และ สติงเกอร์ ต่อต้านอากาศยานที่เคยใช้ยิงเครื่องมิกตกเป็นตันที่อัฟกานิสถานมาแล้ว เป็นต้น
ในขณะที่รัสเซียหมดท่าต้องซื้อโดรนจากอิหร่าน
นอร์ธรอป-กรัมแมน RQ4 Global Hawk ใหญ่ที่สุดในชุดโดรนสหรัฐเข้าประจำการในปี 1998 หรือ 25 ปีที่แล้วช่วงเดียวกับที่ไทยเผชิญวิกฤติต้มยำกุ้ง
สหรัฐกลับมีกองทัพโดรนติดขีปนาวุธถึง 11,000 ลำเป็นอย่างน้อย ลำใหญ่สุดคือ RQ4 Global Hawk ในช่วง20ปีที่สหรัฐผลิตโดรนออกมาเป็นหุ่นยนตร์สังหารในสงครามต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย สหรัฐใช้งบประมาณไป 8 ล้านล้านเหรียญ สังหารชีวิตมนุษย์ไป เกือบล้านคน ในจำนวนนี้มีพลเรือน 363,939 คน และสามารถทำสงครามหุ่นยนตร์บินได้นี้โดยกระดิกนิ้วWork From Home ไม่มีที่สิ้นสุด
ยิ่งกว่านั้นสหรัฐยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีล้ำลึกของฝูงบินปีศาจล่องหน F-117 Nighthawk Stealth Fighter และ B2 Spirit Bomber ของ นอร์ธรอป-กรัมแมน และสามารถทิ้งระเบิดนิวตรอน หรือระเบิดไฮโดรเจนจิ๋วแผ่กัมมันตภาพรังสีมหาศาลซึ่งสหรัฐเคยมีอยู่ถึง 7,000 ลูกแต่ได้รับการต่อต้านจากอเมริกันชน ต้องหยุดการผลิตไป
B2- Stealth Bomber ไปมาเป็นนินจาไร้ร่องรอยเรดาร์ตรวจจับไม่ได้
เทคโนโลยีทางการสร้างอาวุธมหาประลัยของสหรัฐดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด และทำให้การขู่ของรัสเซียและเกาหลีเหนือที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตาย…มากกว่าที่จะได้ชัยชนะ…
ในขณะที่ประธานาธิบดีปูตินนอนไม่หลับกอดกระเป๋าควบคุมการสั่งยิงหัวรบปรมาณูด้วยคอมพิวเตอร์ เรียกว่า “เชเก็ต” ตามชื่อภูเขาในเทือกเขาคอเคซัส และต้องคอยระวังอีกสองใบที่อยู่ประจำตัวรัฐมนตรีกลาโหม แซร์ไก ชอยกู และผู้บัญชาการทหารสูงสุด วาเลอรี่ เกราซิมอฟ โดยสามารถกดปุ่ม” หัตถีมรณะ “ ทำลายล้างโลกใบจิ๋วนี้ได้ทันทีผ่านศูนย์บัญชาการ “ คาซเบ็ค” และระบบออกคำสั่งยิง “ กาฟคาซ “
สหรัฐและนาโต้กลับนั่งตีขิมเล่นหมากรุกและหมากล้อมกับรัสเซียและจีน เตรียมทำสงครามระยะยาว ป้อนอาวุธดีๆให้ยูเครนใช้ในการรบแบบสมัยเก่าที่ใช้รถถังปืนใหญ่และขีปนาวุธไปพลางๆ…
และเมื่อดูสถานการณ์น่าจะอนุมานว่าถ้าสหรัฐจะเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งนี้จริงๆสงครามนั้นจะต้องเป็นสงครามที่สหรัฐจะต้องไม่เสียทหาร แต่เป็นสงครามอาวุธหุ่นยนตร์ โดรน ขีปนาวุธไร้คนขับ ระเบิดนิวตรอน ดาวเทียม และสตาร์วอร์ และคงไม่เสี่ยงเอาชีวิตคนอเมริกันไปแลกกับระเบิดปรมาณูซึ่งรัสเซียจีนและเกาหลีเหนือยังคงแสดงแสนยานุภาพอยู่ซึ่งเสี่ยงมากในการแลกหมัดกับสหรัฐ และไม่น่ากล้าที่จะทำ…
ดังนั้นในตอนเริ่มแรกของสงครามยูเครนนี้ซึ่งน่าจะยาวไปหลายปี” ปัจจัยใหม่แห่งมหาสงครามภูมิศาสตร์เศรษฐกิจโลก ( Global Geoeconomics Warfare-GGW)” ซึ่งวันหลังริชชี่จะเล่าให้ฟัง! จึงน่าจะมีบทบาทที่สำคัญในช่วงต้นการทำสงครามนี้มากกว่าการตัดสินใจใช้ไฟบัลลัยกับป์ล้างโลกในครั้งแรก โดยทั้งสองฝ่ายน่าจะมุ่งทำสงครามทำลายเศรษฐกิจต่อกันไปให้ย่อยยับจนเบ่งกล้ามพังกันไปข้างหนึ่ง…
พวกเราที่นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีดูมหาอำนาจฟัดกันคงต้องรัดเข็มขัดอย่างเดียวเพราะการทำสงครามยืดเยื้อโดยบริษัทผลิตอาวุธสหรัฐประดิษฐ์ผลิตและขายอาวุธอย่างเดียวก็จ้างคนสหรัฐที่กำลังตกงานจากธนาคารและบริษัทเทคโนโลยีที่ลอยแพคนงานให้กลับมาทำงานสร้างงานได้มหาศาล สหรัฐรอดแต่เศรษฐกิจโลกมีหวังพังพินาศไปพร้อมๆกับรัสเซียและยูเครน…
คงต้องช่วยกันดูว่าในพิธีสวนสนามที่จตุรัสแดงแสดงแสนยานุภาพอาวุธของรัสเซียที่จะมาถึงในวันที่9 พฤษภาคมนี้ รัสเซียจะมีอาวุธใหม่ๆอะไรที่จะมาต่อกรกับกองทัพอาวุธหุ่นยนตร์ของสหรัฐนอกไปจากทหารรัสเซียสาวสวยที่เดินสวนสนามเชิดหน้ายิ้มหวานโชว์ส่วนสัดทำความเคารพให้กำลังใจคุณปู่ปูตินไปพลางๆก่อนตอนนี้…
วันสวนสนามรำลึกถึงชัยชนะเหนือเยอรมันีในสงครามโลกครั้งที่สอง วันที่ 9 พฤษภาคม ของทุกๆปี
ขอขอบคุณ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
