1 พ.ค. 2023 เวลา 01:25 • ไลฟ์สไตล์

ปัญหาการซื้อขายที่ดินของชาวต่างชาตินำไปสู่ข้อพิพาทคดีนิติกรรมอำพรางและการฉ้อโกง

เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2566 ทนายความได้เดินทางมาว่าความ ณ ศาลจังหวัดเกาะสมุย ในฐานะทนายความจำเลย คดีอาญา ข้อหาฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 คดีนี้ผู้ซื้อทรัพย์ที่ดินพร้อมบ้านเดี่ยวเป็นชาวต่างชาติต้องการซื้อขายที่ดินพร้อมบ้านจากคนไทย แต่ทั้งสองฝ่ายทราบดีว่ากฎหมายในประเทศไทยต้องห้ามโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมบ้านให้แก่ชาวต่างชาติหากจะประสงค์ซื้อขายเพื่อใช้พักอาศัยเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายจึงจัดทำสัญญาเช่าขึ้นมาเพื่ออำพรางการซื้อขายไว้แทน โดยกำหนดให้ผ่อนชำระค่าเช่ามีระยะเวลาที่กำหนด
ระหว่างทางของการเช่า มีกำหนดให้ไปจดทะเบียนการเช่าระยะยาวไว้ด้วยเพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาของฝ่ายผู้ขาย และเมื่อผู้ซื้อชาวต่างชาติได้ชำระค่าเช่าครบแล้วตามกำหนดเวลา ทั้งสองฝ่ายตกลงจะไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมบ้านเดี่ยวกันให้สำเร็จต่อไป โดยฝ่ายผู้ซื้อจะต้องหาบริษัทสัญชาติไทยหรือคนไทยมารับโอนกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่าก่อนครบกำหนดสัญญานั้น ทั้งสองฝ่ายมีประเด็นพิพาทกันเสียก่อน
ฝ่ายผู้ซื้อกลัวผู้ขายจะผิดสัญญา จึงตั้งประเด็นและแนวทางคดีฟ้องเป็นคดีอาญาโดยให้เหตุผลว่า ฝ่ายผู้ขายรู้ว่ามีกฎหมายต้องห้ามโอนกรรมสิทธิ์แก่ชาวต่างชาติแต่ปกปิด ณ ขณะทำสัญญา ฝ่ายจำเลยต่อสู้เรื่องขาดเจตนาและการกระทำมิใช่ผิดฉ้อโกงใด ๆ เพราะเป็นนิติกรรมอำพรางเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งหาใช่อาญาไม่
ทนายความทั้งสองฝ่ายต่างต้องปกปักรักษาผลประโยชน์ของลูกความฝ่ายตนเองมีการต่อสู้กันทางหนังสือบอกกล่าวกันชนิดดุเดือดเผ็ดมันส์ตามสไตล์การทำงานทนายความลอว์เฟิร์ม (Lawfirm) เพื่อให้แนวโน้มคดีและข้อเท็จจริงข้อกฎหมายของฝ่ายตนได้เปรียบที่สุดของแต่ละนัดขณะอยู่ระหว่างการไต่สวนทางคดี ฯ เท่าที่จะทำได้ แต่วันนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาตกลงกันได้หาทางออกร่วมกันได้ ทนายความอย่างผมก็ยินดีด้วยครับ
ทนายความธัชกร ทองยศภูมิ
สำนักกฎหมายธัชกร แอนด์ พาร์ทเนอร์ส
098-562-6869
Line: @thachakornlaw
โฆษณา