3 พ.ค. 2023 เวลา 18:52 • ประวัติศาสตร์

…เจ้าของสมนญาน (เสือเมืองคอน)

(ตอนที่ 2) ต่อจากหน้า (1)
บรมครูฮัจยี ยะโกบ สุมาลี
ภารกิจ...
...ท่านบรมครูฮัจยียะโกบ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกอูลามาอฺ์ของรัฐกลันตัน ด้วยรัฐบาลกลันตันได้เล็งเห็นถึงความรู้และบทบาทที่ท่านได้สละให้กับมุสลิมมาโดยตลอด ท่านได้ประสิทธิ์ประศาสน์วิชาความรู้ จนกระทั่งมีศิษย์เป็นจำนวนมาก มีทั้งที่เป็นอูลามาอฺ์ในสังคมที่รับผิดชอบภารกิจงานศาสนาต่อไป
ท่านบรมครูฮัจยียะโกบ สุมาลี ได้ใช้ชีวิตกับการเผยแผ่อิสลามจนเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่ว ในบรรดาศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียงในขณะที่ท่านสอนอยู่ที่โกตาบารู ได้แก่ ซัยค์ อิดรีส มัรบาวี ผู้แต่งกอมูส (พจนานุกรม)
มัรบาวี ฮัจยีฮะซัน ยูนุส (ผู้พิพากษารัยะโฮร์) และฮัจยีอุสมาน ดาวูด (ผู้พิพากษารัฐปาหัง) เป็นต้น..
...หลังจาก 17 ปีผ่านไปกับการทำหน้าที่สอนศาสนาในมัสยิดกลาง ในเมืองโกตาบารูในปี พ.ศ.2479 ชื่อเสียงของท่านในขณะนั้นเป็นที่เลื่องลือไปจนถึงตะวันออกกลางท่านได้เดินทางประกอบพิธีฮัจญ์พร้อมกับลูกชายคนแรกของท่าน คือ บรมครูฮัจยีอุเซน สุมาลี
ฝ่ายผู้ไหญ่แห่งนครมักกะฮ์ ได้เรียนเชิญท่านไห้ทำการสอนที่นครมักกะฮ์เป็นเวลา ๓ ปี ในปี พ.ศ.2482 ท่านเดินทางกลับเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และท่านเห็นว่าแผ่นดินของท่านที่นครศรีธรรมราช ประเทศ ไทย
ยังไม่มีสถานที่สอนศาสนาเหมือนกับปัตตานีและโกตาบารู รัฐกลันตัน ท่านจึงตั้งใจเดินทางกลับมาตุภูมิเพื่อรับผิดชอบภารกิจในฐานะที่เป็นผู้รู้ที่ต้องรับผิดชอบสังคมมุสลิมต่อไป..
...ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชท่านได้เริ่มสอนที่บ้านตาลเป็นเวลา 1ปี มีนักเรียนราว 100 คน จากนั้นต้องย้ายสถานที่สอนหลายครั้งตามคำเชิญชวนของชาวบ้านจากบ้านตาล ย้ายไปสอนที่บ้านนาเคียนเป็นเวลา 5 ปี มีนักเรียนราว 200 คน ย้ายไปบ้านวัดโหนด อ.ท่าศาลา 1 ปี และแล้วพี่น้องบ้านทุ่งจีน
ได้เรียนเชิญให้ไปทำการสอนที่นั้น กลายเป็นปอเนาะถาวรตราบถึงปัจจุบัน
(โรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ) ในปัจจุบัน ในการสอนประจำที่ปอเนาะบ้านทุ่งจีนนั้น ท่านยังคงต้องเดินทางไปสอนตามหมู่บ้านต่างๆ อยู่เสมอ สำหรับการสอนที่ปอเนาะนั้น ท่านได้มอบให้ลูกชายของท่าน คือ บรมครู
ฮัจยีอุเซน สุมาลี รับผิดชอบในการสอนแทนท่าน ท่านโต็ะครูยะโกบ สุมาลี ใช้ชีวิตการสอนอยู่ราว 24 ปี โดยประมาณ
...นอกจากการสอนแล้ว ท่านยังรับหน้าที่เป็นประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเวลา 14 ปี สร้างความสามัคคีในหมู่พี่น้องมุสลิม เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ ผลงานชิ้นสุดท้ายที่ท่านได้ทิ้งไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตคือ เป็นผู้อำนวยการจัดการสร้างโดมมัสยิดซอลาฮุดดีน ท่าช้าง ซึ่งใช้โดมจำลองมาเป็นเวลาถึง 30 ปี
...ครอบครัว..
...ในระหว่างที่ท่านทำการสอนที่มัสยิดกลางโกตาบารูนั้น ท่านได้แต่งงานครั้งแรกกับ
ฮัจยะห์ฟาติมะฮ์ บินตี ฮัยยีดาวูด บุตรีของฮัจยีดาวูด ซึ่งเป็นสมาชิกสภาอูลามาอฺ์ของรัฐกลันตัน และสอนที่มัสยิดดังกล่าวด้วย ท่านมีบุตรกับฮัจยะห์ ฟาตีมะฮ์ 7 คน (ชาย 5 คน หญิง 2 คน) และแต่งงานครั้งที่สอง ที่นครมักกะฮ์กับฮัจยะห์ ไซหนับ บินตี ฮัจยีหมัดดียะห์ มีบุตรชาย 1 คน (ต่อมาได้หย่ากัน) และแต่งงานครั้งที่สาม กับฮัจยะห์
ซารีฟะห์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีบุตร 10 คน (ชาย 9 คน หญิง 1 )
..กลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์อัลลอฮฺ...
...ตลอดชีวิตของท่าน ท่านได้ใช้ชีวิตเพื่อการศึกษา เพื่อสังคมมุสลิมโดยการอบรมสั่งสอนจนลมหายใจสุดท้าย ท่านบรมครูฮัจยียะโกบได้ถึงแก่อนิจกรรมในเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2514 เวลา 00.03 น.ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีกุลด้วยโรคความดันโลหิตสูงรวมสิริอายุได้79ปี
ขอให้อัลเลาะฮ์โปรดประทานเราะฮ์มัตแก่
วิญญานของท่านด้วย อามีน
วัลลอฮุอะลัม
แสงสว่างแห่งดุนยาปลายทางอาคีรัติ
โฆษณา