4 พ.ค. 2023 เวลา 23:59 • อาหาร

ไข่ของพระราชา

ในวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ก็จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่คือ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน
สำนักข่าว BBC รายงานว่า ในพระราชพิธีดังกล่าว สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา จะทรงได้รับการสวมพระมหามงกุฎพร้อมกัน โดยกษัตริย์พระองค์ใหม่นั้นถือเป็นพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษลำดับที่ 40 ที่ได้ประกอบพิธีราชาภิเษกในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์นับตั้งแต่ปี 1066 เป็นต้นมา
Gourmet Story จึงขอนำเรื่องเกี่ยวกับพระกระยาหารทรงโปรดของ สมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ใหม่ (ซึ่งจะขอเรียกย่อ ๆ ว่า พระเจ้าชาร์ลส์) มาเล่าสู่กันฟัง
2
ก่อนอื่นควรจะทราบก่อนว่า พระเจ้าชาร์ลส์นั้นท่านทรงพิถีพิถันกับที่มาของอาหารที่จะเสวยมาก อาหารของพระองค์จะประกอบด้วยวัตถุดิบซึ่งเป็นของที่มีอยู่ในฤดู(in season)และเป็นของธรรมชาติ(organic) พระองค์ทรงจัดให้มีฟาร์มออแกนิคมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อนที่ใคร ๆ จะพูดถึงเรื่องของอาหารออแกนิคกัน
ยกตัวอย่างเช่น ในฤดูที่มีหน่อไม้ฝรั่ง(asparatus)ก็จะเสวยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง แต่ถ้าเป็นนอกฤดูเช่นในหน้าหนาวก็จะไม่เสวยเลย
มาดูกันที่พระกระยาหารเช้า เมื่อเราพูดถึงมื้อเช้าของคนอังกฤษ เราก็ต้องนึกถึง English Breakfast อาหารเช้าชุดใหญ่ที่คนอังกฤษจะต้องทานก่อนไปทำงาน อฟ ประกอบด้วยไข่ดาว 2 ฟอง ไส้กรอก 2 หรือ 3 แท่ง หมูเบคอนแบบอังกฤษ ซึ่งเป็นเนื้อแผ่นใหญ่ ๆ ไม่ใช่เป็นแถบแบบอเมริกัน มะเขือเทศลูกใหญ่ปิ้งอีก 2 แว่น เห็ดฟางต้มผ่ากลางอีกจำนวนหนึ่ง แล้วก็ถ้่วอบ(baked beans)ในซอสมะเขือเทศ
ขอบคุณภาพประกอบจาก iamafoodblog
แต่ถ้าจะให้ครบเซทอย่างแท้จริงก็จะต้องมี “ไส้กรอกเลือด” (Black Bacon) อีก 1 หรือ 2 แผ่น ตามด้วยขนมปังปิ้งตามจำนวนที่ท่านชอบ
เหตุที่คนอังกฤษต้องรับประทานอาหารเช้ามากมายใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ เขาบอกว่าก็เพื่อจะได้มีแรงออกไปทำงานทั้งวัน (แต่ความจริงเดี๋ยวถึงเที่ยงก็กินอีกแล้วนะครับ)
แต่อาหารเช้าของพระเจ้าชาร์ลส์กลับไม่ได้เสวยอะไรมากมาย พระกระยาหารเช้าของพระองค์มักจะเริ่มต้นด้วยผลไม้ ลูกพลัมนับเป็นผลไม้ที่ทรงโปรด ลูกพลัมนี้มาจากสวนส่วนพระองค์ในพระตำหนัก Highgrove House ใน Gloucestershire ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ
ขอบคุณภาพประกอบจาก fruitexpert
พระตำหนัก Highgrove House นั้นมีพื้นที่กว้างขวาง ปลูกต้นไม้และผลไม้อยู่เป็นจำนวนมาก ลูกพลัมของ Highgrove นอกจากจะนำมาบริโภคสดแล้ว ก็ยังจะถูกนำไปดองเก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี ในพระกระยาหารเช้า ก็จะต้องมีลูกพลัมนี้อยู่ 2 ชิ้น ร่วมกับผลไม้อื่น ๆ บางทีก็เป็นผลไม้สด บางทีก็เป็นฟรุตสลัด
พระเจ้าชาร์ลส์ยังโปรดการเสวย muesli ซึ่งเป็นอาหารเช้าประกอบด้วยธัญพืชอบกรอบ ถั่วต่าง ๆ และผลไม้แห้งผสมรวมกันแล้วใส่นมสดหรือโยเกิร์ต
คนอังกฤษทั่วไปก็จะกินไข่เป็นอาหารเช้า พระเจ้าชาร์สส์ก็เช่นเดียวกัน แต่ไข่ที่พระองค์โปรดกลับเป็น “ไข่ต้ม” ธรรมดา ไม่ใช่ไข่ดาว ไข่เจียว หรือไข่เบเนดิก แต่ไข่ต้มของท่านต้องต้ม 4 นาทีเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกิน และคงจะไม่ได้คลุกน้ำปลาอย่างเรื่องที่เป็นดราม่ากันในเมืองไทยนะครับ
ขอบคุณภาพประกอบจาก iheartnaptime
ไข่ที่จะนำมาให้ท่านเสวยนั้น จะต้องเป็นไข่ organic เท่านั้น เพราะดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า พระเจ้าชาร์ลส์ท่านเป็นผู้ให้การสนับสนุนเรื่องของการทำฟาร์มแบบยั่งยืนอย่างแข็งขัน
พระเจ้าชาร์ลส์ เคยพระราชทานเมนูอาหารจานไข่ทรงโปรดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ให้ประชาชนนำไปทำรับประทาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือแก่บรรดาผู้ผลิตชีสในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 อาหารจานไข่นั้นก็คือ Cheesy Baked Egg
วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากอะไร เชฟ Darren McGrady อดีตพ่อครัวของพระราชวังบัคกิ้งแฮมได้บอกไว้ว่า เริ่มด้วยการเอาผักโขมราดด้วยน้ำมันมะกอกบาง ๆ แล้วนำไปผัดให้พอนิ่ม จากนั้นนำมาวางลงในชามเปลเล็ก(casserole) เว้นเป็นช่องไว้ตรงกลางสำหรับใส่ไข่ ตามด้วยมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และใบโหระพาเล็กน้อย ใส่แฮมอิตาเลียน(ที่เรียกว่า prosciutto หรือถ้าไม่มีก็ใช้เบคอนธรรมดา)เล็กน้อยเพื่อเสริมกลิ่น ใส่ชีสของอังกฤษ(ไม่ใช้ชีสของฝรั่งเศสหรืออิตาลีนะครับ) ที่เรียกว่า Cornish Brie เป็นชีสชนิดอ่อน ฉีกใส่ลงไป
ขอบคุณภาพประกอบจาก tatler
จากนั้นก็ตอกไข่ไก่(ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องเป็นไข่ไก่ออแกนิคจากฟาร์มของพระองค์เอง)ใส่ลงไปไปช่องที่เว้นว่างไว้ แล้วราดครีมสดไว้บนหน้าให้ทั่วทั้งจาน แต่ต้องระวังไม่ให้ไข่แดงแตก เหยาะเกลือและพริกไทยเล็กน้อย ใส่ชีสชนิดแข็ง ซึ่งเชฟ McGrady เลือกใช้ชีสอังกฤษอีก 2 ชนิดชื่อ Red Leicester และ Montgomery Cheddar ซึ่งขูดแล้วลงไป แล้วนำเข้าเตาอบใช้ความร้อนที่ 350 F ประมาณ 8-10 นาที ก็จะได้ไข่อบที่ยังไม่สุก และปกคลุมด้วยชีสทั่วทั้งจาน
1
นึกภาพไปก็คงจะเหมือนกับทานผักโขมอบชีสที่มีไข่แดงเยิ้ม ๆ อยู่ตรงกลาง การใส่ชีส 3 ชนิดบวกกับครีมสดก็คงให้รสชาติที่มีความหอมมันและอร่อยเป็นแน่แท้
1
เรื่องตอนที่แล้ว "ไข่ต้ม - หลากหลายกว่าที่คุณคิด"
อ่านได้ที่
Gourmet Story - เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่เป็นเกร็ดความรู้ เล่าสู่กันฟัง เพิ่มความอร่อยของอาหารที่เรารับประทาน ติดตามได้ที่
โฆษณา