6 พ.ค. 2023 เวลา 08:57 • ความคิดเห็น
ความรักชาติ วัดกันที่
การไม่เพิกเฉยต่อสิ่งที่ผิด
1 รักชาติ ไม่ใช่ คลั่งชาติ
รักชาติ คือ การที่คนในชาติรู้จักสร้างผลประโยชน์เพื่อชาติ ใช้สติปัญญา รู้จักนำข้อดีของชาติหรือของรัฐอื่นมาประยุกต์ใช้ และรู้ข้อด้อยของชาติตน เพื่อทำการแก้ไข อันจะนำมาซึ่งความเจริญของบ้านเมืองสืบไป
คลั่งชาติ คือ การที่คนในชาติคิดว่า ชาติของตนนั้นดีที่สุด ประเสริฐที่สุด ทำสิ่งใดก็ถูกทั้งหมด มีความภาคภูมิใจในชาติของตน รักแต่ชาติของตน จนกลายเป็นความ “หยิ่งยะโส” เกิดการดูถูกเหยียดหยามคนกลุ่มอื่น และมักพัฒนาไปสู่ความเกลียดชัง และตามมาด้วยการรบราฆ่าฟันคนที่แตกต่างจากตนเอง
ความคลั่งชาติ มักเกิดจากการปลุกระดมจากผู้นำ ให้เกิดความรู้สึกเป็น "ชาตินิยม" "อนุรักษ์นิยม"ประชาชนจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการจัดการศัตรู กำจัดคนที่ไม่เห็นด้วย หรือรุกรานผู้อื่น เพื่อสร้างอำนาจ แย่งชิงผลประโยชน์เพื่อตนเอง
1
2 รัก “คนทุกคน” ในชาติ
แต่ไม่ใช่ รักแผ่นดินแต่ไม่สนใจชีวิตมนุษย์ ความรักชาติ ไม่ได้หมายถึง การหวงแหนทรัพยากร การรักษาดินแดน แต่ปล่อยให้คนในชาติลำบากยากจน ความรักแบบอารยะจะให้ความสำคัญกับคนทุกคนในชาติ เพราะคนมีคุณค่าสูงสุด มากกว่าวัตถุสิ่งของหรือทรัพย์สินใด ๆ
1
ดังนั้น ไม่ว่าคนในแผ่นดินไทยจะมีความแตกต่างกันในเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม แต่ทุกคนคือคนไทยเหมือนกัน และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ในฐานะพลเมืองในขอบเขตรัฐชาติเดียวกัน
ความรักซึ่งกันและกันจะก่อให้เกิดพลังแห่งความสามัคคี การช่วยเหลือเกื้อกูล การเห็นแก่ส่วนรวม และการเสียสละเพื่อประโยชน์ของประเทศ
3 รักชาติที่ “สมดุล”
ระหว่าง คำนึงถึง “ชาติ” และ “มนุษยชาติ”
หมายถึง ไม่รักชาติแบบเห็นแก่ตัว หรือเห็นแก่ประโยชน์ของชาติตัวเอง หรือคำนึงถึงแต่กลุ่มของตนเอง ความรักชาติแบบอารยะที่ขับเคลื่อนการสร้างชาติ จะต้องประกอบด้วย ความรักคนในชาติ และความรักที่มีต่อมนุษยชาติเป็นสำคัญ
ทุกคนต้องสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีภราดรภาพ และต้องไม่มีใคร อดอยากยากจน ไม่มีใครถูกกดขี่ข่มเหง ถูกเอารัดเอาเปรียบ ขาดโอกาส หรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
ประเทศที่ประชาชนมีความรักชาติมาก จะมีการคอร์รัปชันต่ำ ประชาชนจะสนใจเพื่อนร่วมชาติ และไม่ละเมิดกฎหมาย สิทธิของผู้อื่น ส่งผลให้ประชาชนมีความสุข โดยคนที่ทำร้ายสังคมหรือคอร์รัปชันจะถูกต่อต้านและคว่ำบาตร ในทางตรงกันข้าม ประชาชนที่ไม่รักชาติ จะทำลายซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่สนใจเรื่องการฉ้อฉล กลโกง และความพินาศของประเทศ พฤติกรรมดังกล่าวย่อมนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจ และความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยตรง
เมื่อความอยุติธรรม
กลายเป็นกฎหมาย
การลุกขึ้นต่อต้าน
ก็กลายเป็นหน้าที่
โทมัส เจฟเฟอร์สัน
คนที่รักชาติจะต้องไม่เพิกเฉย
การเพิกเฉยต่อสิ่งที่ผิด ก็เท่ากับว่ามีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมร้ายๆในองค์กร วัฒนธรรมกำจัดคนด้วยวิธีสกปรก เมื่อคุณไม่ห้ามสิ่งที่เลวร้ายที่เกิดกับคนอื่น นั่นเท่ากับคุณเป็นส่วนหนึ่งของความเลวร้ายนั้น
2
หากคุณอยู่ในจุดที่สามารถพูดถึงมันได้ และคุณสามารถหยุดมันได้ แต่คุณไม่ทำ เมื่อเห็นคนอื่นถูกทำร้ายแต่กลับเพิกเฉย เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของคุณ ไม่สน ไม่แคร์ ขอให้ตัวเองไม่เดือดร้อนเป็นพอ ที่สุดแล้วคุณยังเห็นคนอื่นถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แม้จะช่วยได้ แต่ปฏิเสธที่จะช่วย เมื่อคุณไม่ห้ามสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคนอื่น ก็เท่ากับว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของความเลวร้ายนั้น และมีส่วนร่วมในการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายชาติ ย่อมขึ้นชื่อว่าไม่ใช่ผู้ที่รักชาติ
ยกตัวอย่าง
รัฐธรรมนูญฉบับ 2560
ในฐานะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่กลับกายเป็นต้นตอของปัญหาการเมืองไทย เพราะมีที่มา กระบวนการ และเนื้อหา ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หากแต่ออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารและระบอบประยุทธ์ อีกทั้งยังถูกเขียนโดยคนไม่กี่คน ที่ คสช. แต่งตั้งอันเป็นผลให้เนื้อหาของรัฐธรรมนูญ 2560 มีการขยายอำนาจของสถาบันทางการเมืองที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่ยึดโยงกับ คสช. และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ
คนที่รักชาติ
จะต้องรู้ว่า นี่คือเนื้อร้ายของประเทศ
โฆษณา