กล้าพอไหมที่จะเปิดประตูบานนั้น
Edwin C. Barnes เป็นชายหนุ่มที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เขาเคยได้ยินเรื่องของโทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ชื่อดัง และรู้ว่าเขาต้องการร่วมงานกับเอดิสันให้ได้ และนั่นก็ลายเป็นเป้าหมายที่เขาต้องบรรลุให้ได้
บาร์นส์ตั้งใจอย่างมากที่จะร่วมงานกับเอดิสันถึงขนาดเดินทางไปพบเอดิสันที่นิวเจอร์ซีย์ เมื่อบาร์นส์มาถึงห้องทดลองของเอดิสัน เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขาไม่สามารถพบกับเอดิสันเป็นการส่วนตัวได้ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดบาร์นส์ได้ เขารออยู่นอกห้องทดลองของเอดิสันเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยหวังว่าจะมีโอกาสได้พบ
ในที่สุด บาร์นส์ก็ได้พบกับเลขาของเอดิสันและเล่าเรื่องความฝันที่จะได้ร่วมงานกับเอดิสันให้เขาฟัง เลขานุการหัวเราะเยาะบาร์นส์และบอกว่าเขากำลังเสียเวลา อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ไม่สามารถหยุดบาร์นส์ได้ เขารู้ว่าเขาต้องการร่วมงานกับเอดิสันและเต็มใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันเกิดขึ้น
บาร์นส์ยังคงรออยู่นอกห้องทดลองของเอดิสันจนกระทั่งวันหนึ่งเอดิสันออกมาคุยกับเขาเอง บาร์นส์บอกเอดิสันว่าเขาอยากร่วมงานด้วย และเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อให้มันเกิดขึ้น เอดิสันประทับใจในความมุ่งมั่นของบาร์นส์และมอบงานให้เขาในตำแหน่งพนักงานขาย
บาร์นส์ทำงานให้กับเอดิสันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยขายสิ่งประดิษฐ์ของเขาและช่วยทำให้บริษัทของเอดิสันประสบความสำเร็จ บาร์นส์มุ่งมั่นกับงานมากจนยอมทุ่มเงินซื้อผลิตภัณฑ์ของเอดิสันทั้งๆ ที่ไม่มีใครยอมทำ บาร์นส์เชื่อในสิ่งประดิษฐ์ของเอดิสันและเต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
ความทุ่มเทของบาร์นส์ได้ผล ในที่สุดเขาก็กลายเป็นมือขวาและเพื่อนสนิทของเอดิสัน เรื่องราวของ Barnes เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการก้าวออกจากเขตสบายแลก้าวสู่เขาไม่ถนัดแต่เขาก็พร้อมที่จะรับความเสี่ยง ซึ่งสามารถนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ บาร์นส์อาจยอมแพ้หลังจากถูกบอกว่าเขาไม่สามารถพบเอดิสันได้ แต่เขาไม่ทำ แต่เขายืนหยัดและได้งานที่เขาต้องการในที่สุด
”The door of opportunity will open only when you decide to step outside the door of your comfort zone”
"ประตูแห่งโอกาสจะเปิดก็ต่อเมื่อคุณตัดสินใจก้าวออกจากประตูแห่งเขตสบายของคุณ"
Kylie Francis CEO KYFRA Influencer ระดับ macro และผู้ประกอบการด้านสื่อดิจิทัล
สะท้อนความจริงที่สำคัญ หลายคนใฝ่ฝันที่จะบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ทำได้ เหตุผลคือหลายคนไม่เต็มใจที่จะออกจากเขตสบาย ๆ และรับความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต คุณต้องเต็มใจที่จะก้าวออกจากสิ่งที่คุณคุ้นเคยหรืองานที่ทำอยู่ปัจจุบันซึ่งนั่นอาจไม่ได้นำคุณไปสู่ความฝันที่คุณอยากบรรลุ และยอมรับความเสี่ยง
เคยได้ยินชื่อ สมชาย เหล่าสายเชื้อ หรือไม่ เขาจบแค่ ป 5 โดยใช้เวลาเรียนถึง 10 ปี ลาออกจากโรงเรียน ผ่านชีวิตลูกจ้าง เด็กส่งหนังสือพิมพ์ พนักงานขายเป๊บซี่ จนได้เป็นถึงพนักงานขายดีเด่น ด้วยความที่เป็นคนชอบรถมากจึงตัดสินใจลาออก แต่เมื่อไปสมัครงานที่ไหน เจอคำถามแรกคือจบอะไรมา ด้วยคำถามนี้ก็เป็นด่านที่เขาไม่สามารถก้าวผ่านได้แล้ว !!!
แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ เช่นเดียวกับ บาร์นสเขาตัดสินใจยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ
1 ทำงานอะไรก็ได้
2 เงินเดือนเท่าไหร่ก็ได้
3 ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด
และด้วยข้อเสนอซึ่งน่าจะไม่มีใครปฏิเสธได้ทั้ง 3 ข้อนี้ได้กลายเป็นกุญแจที่เปิดประตูแห่งโอกาสให้กับเขาได้
เรื่องราวของ Edwin C. Barnes และคุณสมชาย เหล่าสายเชื้อล้วนแต่เป็นตัวอย่างของคำพูดที่ว่า "ประตูแห่งโอกาสจะเปิดก็ต่อเมื่อคุณตัดสินใจก้าวออกจากประตูแห่งเขตสบายของคุณ" บาร์นส์ก้าวออกจากเขตสบายของเขา เดินทางไปนิวเจอร์ซีย์เพื่อพบกับเอดิสัน และยืนหยัดจนกว่าเขาจะได้งานที่เขาต้องการ
เขาได้เปิดประตูสู่โลกแห่งโอกาสและความสำเร็จ เรื่องราวของ Barnes เป็นเครื่องเตือนใจว่าหากคุณมีความฝัน คุณควรเต็มใจที่จะเปิดประตูเพื่อพบกับสิ่งท้าทายใหม่ๆและก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อทำให้มันเป็นจริง
ด้วยจิตคารวะ
อย่าลืมกดติดตามเพจ เพื่อรับข่าวสารสาระดีๆ เรื่องการเงิน และการลงทุน ผ่านการทดสอบ
และการวิเคราะห์จาก wealth lab
พร้อมติดอาวุธความรู้ให้เพื่อนๆ ทุกคน
จงลงทุนกับตัวเอง ลงทุนกับความรู้ แล้วให้ความรู้ทำเงินให้คุณ
#wealthlab #ติดอาวุธให้นักลงทุน
#หุ้น #ลงทุน #เกษียณมั่นคง #ตราสารหนี้ #กองทุนรวม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
