Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ป
ปกรณ์ ปราสาททอง
•
ติดตาม
7 พ.ค. 2023 เวลา 02:07 • ปรัชญา
*** เบ่งบาน..แล้วร่วงโรย...คนฉลาดแม้..มินาน..คงเข้าใจ!!!??? คุณ ผู้ใด...ใครบ้าง...สามารถอธิบายแยกแยะความหมายที่เข้าร,,,รหัส,,ใว้ ความหมายคืออะไร???
สัจธรรม..เจริญได้ ก็เสื่อมได้ มีซากปรักหักพัง ให้ดูเป็นหลักฐาน..จิตที่เกิดมาในโลก .ก็เกิดมาจากสถานที่ต่างๆมากมาย จากนรกกมี จากสัตว์ก็มี มาจากดินแดนของผู้ที่ไม่รู้จักดีชั่วอะไร แม้ได้กายเป็นมนุษย์..เค้าก็ไม่กระทำในสิ่ง ที่ควรกระทำ
เช่นมาจากสัตว์อบาย นิสัยของสัตว์ ..เค้าก็..เรียกคำว่าพ่อแม่ไม่ได้ .ไม่รู้จักคำว่า พระคุณพ่อแม่ ..ความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ..ก็ไม่ค่อยเกิด ..มีแต่จะเรียกทักทวงกรรมจากพ่อแม่ แล้วต่อไปพ่อแม่ที่ไหน ..จะอนุเคราะห์ ให้จิตดวงนั้นมาอาศัยมีกายเป็นมนุษย์ที่ดี ในเมื่อเอากายพ่อแม่ไปสร้างแต่กรรม มีกายวาจาใจจมอยู่กับกรรม
กายที่มีแต่ร่วงโรย ไม่เสาะแสวงหาหาโอกาส ช่วยเหลือจิตของตน สร้างบุญกุศลให้หลีกเลี่ยงเวรกรรม กายนี้ก็เป็นโมฆะ เกิดมาแค่หากิน ถึงเวลานานไป ก็เดินโยกเยก เจ็บปวด เจ็บป่วย ด้วยกรรมที่สะสม ..เข้ามาในเรือนกายที่แบกกรรม
ความเห็นอกเห็นใจพ่อแม่ผู้ที่ให้กำเนิด ..ก็จะไม่เกิดกับจิตที่ไหลมาจากอบายภูมิ โลกก็จะเสื่อมถอย..เรื่องคุณธรรม จริยธรรม มโนสำนึกที่ดีๆ ก็จะค่อยๆสูญไปๆ เรียกว่า โลกมันเสื่อม ดินฟ้าอากาศก็วิปริต แปรปรวน ไปด้วยกรรม ที่มนุษย์ยื้อแย่งวัตถุสิ่งของ ..ของๆโลก เหมือนกายมนุษย์ที่เกิดมา กินแล้วโต โตเต็มที่ก็เสื่อมถอยลงไป ไม่เกินแปดสิบร้อยปี หลีกหนีไม่ได้เลย วันนี้มี ..ก็มีวันพรุ่งนี้ ..เกิดแล้วก็ดับ วันนี้มีเจริญได้ พรุ่งนี้ก็มีเสื่อมได้ ..สิ่งต่างๆมันไหลมาแต่เหตุ ..หยุดยั้งไม่ได้ ก็ต้องเป็นไปตามกรรม
นั่นก็คือ ความเสื่อมที่มีแต่จะร่วงโรยลงไป ความกักขฬะในจิตใจของมนุษย์ ก็จะมากขึ้น เห็นแก่ได้ได้เห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ความเห็นอกเห็นใจกันก็จะไม่มี ความโหดร้ายทารุณ หักล้างทำลายกันก็มากขึ้น ความเมตตาก็ไม่เกิดขึ้น ..กับจิต.ที่มาจากอบายภูมิ จิตที่มีกรรม ..กรรมเค้าก็ดึงจิตให้มุ่งมั่น..หากรรม ที่ไหนมีการสร้างกรรม
เช่น ..ที่ไหนมีการสร้างกรรม พนันขันต่อ ..หาโชคลาภ..เล่นหวย ..จิตของผู้ที่มีกรรม เค้าก็ไหลไปหาสถานที่สร้างกรรม จิตดวงนั้นก็เสื่อมถอย ถอยหลังไปสู่อบายภูมิ ที่ประตูอบายภูมิเปิดกว้าง..ใหญ่โต..ให้เดินเข้าไป รอวันที่จิตจะละเรือนกาย ..ให้กรรมนั้นดูดจิต..ไปหาสถานที่..เคยมาจากไหน ..ก็กลับไปสู่สถานที่ที่เคยมา
แม้แต่เกจิอาจารย์ ก็ส่งเสริมให้คนมีกรรม เอาตะกรุด เครื่องรางของขลังมาบูชา เอาไอ้นั่นไอ้นี่มาเจิม หน้าตา ด้วยเรื่องราวมนต์ดำไสยศาสตร์ ..คิดว่าดี ศักดิ์สิทธิ์..แต่ก็ทำร้ายทำลายพ่อแม่เค้าเอง ก็สักยันต์ เครื่องรางมากมาย ..ทำไมทำร้ายทำลายพ่อแม่ตัวเอง ผู้ที่ทีให้สังขารนี้มาอาศัย ..เค้าเรียกว่า มีแต่ส่งเสริม อวดเก่งอวดดี ต่อกรรม หลงตนเองมีดี ..มียึดสิ่งของเยี่ยงนั้นเอาไปทำอะไรกัน ..ให้กรรมมันเบ่งบานขึ้น หรือว่า ให้กรรมมันน้อยลง ร่างโรยไป
..สถานที่ต่างๆ วัดวาอาราม ก็ห้อมล้อมไปด้วย สิ่งที่ผู้คน จะอ้อนวอน .เสาะแสวงหา..เสี่ยงโชค เสี่ยงลาภ ..กราบไหว้ แล้วร่ำรวย ..ปิดบังสติปัญญาของคนที่กลั่นกรอง หาเหตุผล กลั่นกรอง ในพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..อะไรทำให้เจริญ เบ่งบานไปทางไหน ..เบ่งบานให้สร้างกรรม หรือ เบ่งบานให้จิตนั่น สร้างการกระทำที่ดี แก้ไขนิสัยในตัวตน เรื่องการประพฤติปฏิบัติธรรม ดูเป็นเรื่องราวที่ไร้สาระ ปฏิเสธที่จะยกกายยกจิตของตนเอง ให้สลัดละทิ้งอารมณ์กรรมออกไป
สิ่งเหล่านี้ มันแสดงเรื่องราวอะไรต่างๆ ในใจของคน ..รอยที่ดีๆ ก็ถูกกลบ ..กลบเกลื่อนไปตามกาลเวลาเหมือนรอยเท้าบนเม็ดทราย .มีภาษาเหนือว่า วันๆบ่ได๋ย๊ำฮอยตี๋นหมา มันนอนบ่หลับ ไม่รู้จะเขียนอย่างไรดีน่ะ
จิตที่มาจากสถานที่ที่สูง เทพยดาอินทร์พรหม ก็ไม่อยากมาเกิด เพราะเค้ามีหูทิพย์ตาทิพย์ พอที่จะเลือกที่เกิดไ้ด้ มีบุญบารมีพอที่ยับยั้งการเกิดได้ชลอการเกิดได้ ..เค้าก็ไม่ลงมาเกิด ..เพราะมองเห็น แต่จิตที่มาจากอบายภูมิ ..พัฒนาจิต ให้รู้จักดีชั่วไม่ได้ มีแต่เกิดมาสร้างกรรม จิตที่สูง เค้าก็ไม่มามาเกิดในยุคที่โลกเสื่อมถอยลง ..วุ่นวายด้วย อารมณ์โลภโกรธหลง วุ่นวายโกลาหล มีให้เห็นเป็นประจักษ์ในปัจจุบัน
เช่น.คำว่า..กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ก็จะเสื่อมถอยออกไป ไม่มีใครพูดถึง ..เหมือนหมู่สัตว์ ที่มันก็ไม่รู้จักคำว่าพ่อแม่ มุ่งมั่น..หาความสุขความสบายด้วยอารมณ์ .มาบำรุงความสุขให้แก่กาย ส่วนเรื่องราวของจิตตนเองที่มีกาย ก็ไม่เคย สอบสวนทบทวน ทำไมต้องมามีกาย กินเข้าไป ก็ต้องขับถ่ายของบูดของเน่าออกไป กินเข้าไปมาก ยาวนาน มันก็วนเวียน กินแล้วแก่เจ็บตาย..มีใครบ้าง กินเข้าไปไม่แก่ ไม่เจ็บไม่ป่วย ..ร่วงโรยสังขาร ไหนว่ากินเข้าไปแล้วแข็งแรง ..ทำไมกินแล้วแก่ หมดเรี่ยวแรง .ร่วงโรยรอวันตาย..
..เหมือนเราไปดู ..ปลาดุกที่เค้าช้อนมาวางไว้ในกระมัง ..ปลาดุกมากมายอยู่ในกาละมังเดียวกัน ..เวลามันดิ้น ..เงี่ยนของมันก็ทิ่มแทง เพื่อนปลาดุกด้วยกัน เกิดอารมณ์พอใจไม่พอสะสมเก็บไว้ในดวงจิต ..เกิดเป็นมนุษย์ยุคนี้ . โลกมันเจริญ ..เหมือนปลาดุกที่อยู่ในกาละมัง มีสื่อต่างๆมากมาย สื่อให้เกิดอารมณ์กรรม ยุยงส่งเสริมให้เกิดกรรม ..คอยทิ่มแทง วิญญาณหูวิญญาณตา ..ให้จิตนั่นหาความสงบไม่ได้ .มีแต่ส่งเสริม..ให้มีกรรม เกิดมาเพื่อเสพ..สิ่งของ ของๆโลก แล้วจากลา
สิ่งที่จิตจะได้มีแต่กรรมหนุนนำไป ด้วยโลกก็สะสมความเสื่อม ความเจริญ ..ไปตามกาลเวลา .บ้างก็ว่า ธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นเอง จิตตกในโคลนตม ขี้โคลนมันก็ห่อหุ้มจิต เอามันออกไม่ได้เลย ก็เป็นธรรมชาติของจิตที่มีกรรมเหมือนกัน
..บ่ได๋ย๊ำฮอยตี๋นหมา มันนอนบ่หลับ..
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย