7 พ.ค. 2023 เวลา 08:37 • ท่องเที่ยว
ดอยอ่างขาง

Update ดอยอ่างขาง เที่ยว กิน พัก ครบ จบ

ดอยอ่างขาง ดินแดนแห่งความโรแมนติก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสกับอากาศหนาวเย็น ชมแปลงดอกไม้และพืชผักเมืองหนาวอันสวยงาม ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก หากมาเที่ยวในช่วงต้น-กลางม.ค. ยังได้ของแถมชมดอกซากุระแท้ในสถานีเกษตรฯ รวมถึงดอกพญาเสือโคร่งบานทั่วทั้งดอย ยิ่งช่วยเพิ่มความโรแมนติกขึ้นไปอีกหลายเท่า
โปรแกรมท่องเที่ยวดอยอ่างขาง
สำหรับเส้นทางเที่ยวดอยอ่างขาง หากมีเวลา 1 วัน โดยเริ่มประมาณเช้า 6 โมง ซึ่งจุดแวะเที่ยวแล้วแต่ความชอบและสไตล์ของแต่ละคน แต่สำหรับเราเรียงลำดับตามนี้ จุดชมวิวซุยถัง ไปชมแสงสวยต่อที่ไร่ชา 2000 ต่อด้วย ไร่สตรเบอรี่บ้านนอแล จบที่สถานที่เกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งในโปรแกรมใครจะไม่ไปจุดชมวิวซุยถัง แล้วไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ม่อนสนก็ได้ แต่มาถึงอ่างขางแนะนำให้ไปซุยถัง เพราะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดของดอยอ่างข่าง
1
จุดชมวิวซุยถัง
จุดชมวิวซุยถัง จุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอ่างขาง ที่สามารถชมทะเลหมอกได้แบบใกล้ชิด ห่างจากสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขางไปทางหมู่บ้านอรุโณทัย อ.ไชยปราการ ประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง มีทะเลหมอกให้ชมแบบสวยงามโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว บริเวณจุดชมวิว มีลานกางเต็นท์ ร้านอาหารและห้องน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว
การเดินทางเมื่อผ่านจุดชมวิวม่อนสนให้ขับตรงไปจะเจอด่านตรวจตรงสามแยกอ่างขาง เลี้ยวขวาไปทางบ้านอรุโณทัยไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะเจอจุดชมวิวซุยถัง สำหรับช่วงเวลาที่สามารถชมทะเลหมอกบริเวณจุดชมสายหมอกได้แบบสวยงาม แนะนำว่าควรมาหลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว หรือให้มีแสงสว่างซักเล็กน้อย เพราะบริเวณที่มีทะเลหมอกจะไม่ใช้จุดที่พระอาทิตย์ขึ้นโดยตรง ต้องให้รอให้สว่างและแสงอาทิตย์เริ่มเจิดจ้าซักหน่อยซักประมาณ 7 โมงเป็นต้นไป ในบางวันทะเลหมอกมีให้ชมไปจนถึงประมาณ 9.30 น.
ลักษณะของทะเลหมอกของจุดชมวิวซุยถังเรียกว่า เป็นลำธารแห่งสายหมอก เพราะอยู่ในแอ่งที่รายล้อมด้วยหุบเขา มองไปเหมือนสายน้ำไหล มีระเบียงชมวิวของร้านค้าให้ยืนชมแบบแนบชิดทะเลหมอก
เพลิดเพลินกับสายหมอกสีขาวราวปุยนุ่นที่อยู่ในอ้อมกอดสีเขียวของภูเขาได้แบบไม่รู้สึกเบื่อ ยิ่งสว่างมากขึ้น ท้องฟ้าก็จะเริ่มเป็นสีฟ้า ทะเลหมอกก็จะยิ่งฟูขึ้นมาและสว่างชัดเจนขึ้น เป็นจุดชมวิวที่คนยังไม่เยอะ ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมาก ส่วนใหญ่จะเที่ยวจุดชมวิวม่อนสน ไร่ชา 2000 และไร่สรอว์เบอรี่กันมากกว่า แต่จุดชมวิวซุยถังอาจไม่ได้มีหมอกให้ชมทุกวันแล้วแต่สภาพอากาศ
สำหรับใครที่มาเที่ยวดอยอ่างขาง อยากชมทะเลหมอกฟูๆ สวยๆ แนะนำให้มาที่จุดชมวิวซุยถัง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน จะรู้สึกฟินไปกับบรรยากาศที่สงบและทะเลหมอกสีขาวฟูที่อยู่ตรงหน้า
ฐานปฏิบัติการบ้านหลวง
จากจุดชมวิวซุยถัง ระหว่างทาง จะพบกับ อีกหนึ่งจุดชมวิวสวย บนดอยอ่างขาง “ฐานปฏิบัติการบ้านหลวง “ เป็นจุดชมวิวทางผ่านจากการชมทะเลหมอกซุยถัง ที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยแวะกัน แต่วิวปังมาก อยู่ริมถนนจอดรถเก็บภาพทะเลหมอกและแสงสวยๆกันได้ ของจริงสวยกว่าภาพถ่ายมาก
ไร่ชา 2000
จากจุดชมวิวซุยถัง ไปต่อยัง ไร่ชา 2000 เป็นไร่ชาขั้นบันไดท่ามกลางหุบเขา มองเห็นริ้วลายของแปลงชาไล่ระดับในมุมสูง ในช่วงเวลาเช้าสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และสายหมอกที่ลอยปกคลุมไร่ชา ช่วงเดือนมกราคมยังมีโอกาสได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานทั้งสีชมพูและสีขาว ยิ่งทำให้บรรยากาศโรแมนติกชวนฝัน เหมือนอยู่ในต่างประเทศ ภายไร่ชายังมีร้านชาและมุมนั่งพักผ่อน จิบชาอุ่นพร้อมไปกับชมวิวสายหมอกและแปลงชาที่อยู่ข้างล่าง
ไร่ชา 2000 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง ที่ต้องแวะหลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ม่อนสนหรือไปชมทะเลหมอกซุยถังแล้ว ให้มาต่อที่นี่ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงเช้าประมาณ 7.30 น. จะได้จังหวะของแสงสวยที่เริ่มส่องมากระทบสายหมอก เส้นทางมาไร่ชาเดินทางสะดวก เปิดให้เข้าชมฟรีไม่เสียค่าเข้า เมื่อมาถึงให้จอดรถบริเวณที่จอดรถด้านหน้า แล้วเดินเข้ามานิดเดียวจะเจอกับร้านชาของทางไร่ ตรงจุดนี้สามารถชมวิวของไร่ชาในมุมสูงได้เกือบทั้งหมด และมีที่นั่งและมุมต่างๆให้ถ่ายรูป
จากนั้นเดินลงยังไร่ชาข้างล่าง เป็นทางเดินสนามหญ้า หากมาเที่ยวในช่วงเดือนมกราคม นอกจากจะได้ชมทะเลหมอกที่ลอยคลอเคล้าเหนือไร่ชาแล้ว ยังได้ชมนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะสีชมพูเท่านั้น แต่ยังมีสีขาวปลูกแซมสลับกันไประหว่างริมทางเดินด้านล่าง
ต้นนางพญาเสือโคร่งที่อยู่ระหว่างทางเดิน ดอกไม้ ทะเลหมอก แสงยามเช้า ไร่ชา มองแล้วเหมือนฝันมาก แชะภาพแบบรัวๆ ถ่ายมุมไหนสวยไปหมด
หากใครมีแรงเดิน สามารถเดินลงไปถึงไร่ชาด้านล่างได้เลย มีระเบียงชมวิวให้ถ่ายภาพ
ทางเดินกลับไปยังไร่ชา มองเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งสีขาวและสีชมพูที่สีตัดกัน มีความว้าวมาก เพราะปกติเราจะเห็นแต่สีชมพู มาเที่ยวไร่ชา 2000 หลายครั้ง แต่ครั้งนี้สวยที่สุด เห็นทะเลหมอก แสงสวย เพิ่มสีสันด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง มาครบ เป็นเช้าของการเที่ยวดอยอ่างข่างที่มีความสุขมาก
ไร่สตรอว์เบอร์รี่บ้านนอแล
จากไร่ชา เราไปต่อยัง ไร่สตรอว์เบอร์รี่ บ้านนอแล ที่ปลูกตามไหล่ขั้นเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมา หากในยามเช้าประมาณ 7.30 – 08.30 น. จะได้พบกับแสงแดดอุ่นพาดผ่านสายหมอกในยามเช้าที่คลอเคลียตามไหล่เขาซึ่งเป็นฉากหลัง เป็นภาพที่อบอุ่นและโรแมนติกยิ่งนัก และยังได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่มาเก็บสตรอว์เบอร์รี่ในยามเช้าอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่สดได้จากสวน รสชาติหวานกรอบอร่อย เป็นของฝากกลับบ้าน
บ้านนอแล มีร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก ชื่อ แฮร์ มู เตอะ เครื่องดื่มอร่อยทั้งโกโก้ กาแฟ มีที่นั่งชิลๆ มองเห็นวิวของไร่สตรอเบอรี่ แวะมาอุดหนุนกันได้
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
จุดสุดท้ายแวะไปที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ค่าบริการเข้าชมคนละ 50 บาท ค่ายานพาหนะ คันละ 50 บาท ซื้อบัตร 1 ครั้ง จะเข้ามาชมกี่รอบก็ได้ในวันเดียวกัน ภายในสถานีฯ จอดแวะถ่ายภาพได้ตลอดทุกจุด มีจุดท่องเที่ยวหลัก คือ สวน 80 โรงเรือนเพาะพันธุ์กุหลาบ
เรือนดอกไม้ตั้งอยู่ตรงข้ามสวนสมเด็จฯ ถัดไปบริเวณ คือ สวนกุหลาบอังกฤษ และสโมสรอ่างขางซึ่งเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟ จบโปรแกรมที่สวนบ๊วยและโรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก ดอกไม้เมืองหนาวจะปลูกหมุนเวียนในทุกปีและแตกต่างกันตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นมาเที่ยวในแต่ละปีก็จะเห็นการจัดสวน ดอกไม้ พันธุ์ไม้ที่ต่างกัน
สวน 80 เต็มไปด้วยกะหล่ำปลีประดับ ทั้งสีม่วงและสีขาว
จากนั้นแวะไปถ่ายภาพซากุระแท้ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง กระจายไปในแต่ละจุดตามเส้นถนน จุดนี้อยู่เกือบถึงทางออกแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวน้อย ลำตันเรียงกันสวยงามตามทิวถนน
แปลงบ๊วย จุดถ่ายรูปยอดฮิตของดอยอ่างข่าง บรรยากาศเหมือนอยู่ในสวนแบบญี่ปุ่น ช่วงทีเ่ราไปดอกบ๊วยสีขาวเริ่มร่วงและเปลี่ยนเป็นใบสีเขียวเยอะแล้วค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าบริเวณทางเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง แม้ะจะเงียบเหงาไปจากเดิมที่เคยขึ้นคัก ในปัจจุบัน ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่ยังคงเปิดให้บริการเป็นบางร้าน อย่างร้านอาหารจีนยูนนาน นาหา ร้านถิง ถิง ยังเปิดอยู่ค่ะ แวะมาทานอาหารกันได้
ร้านชาปากี ชื่อดังยังคงเปิด
บรรยากาศเงียบเหงาบ้าง ยังคงมีชาวบ้านมาขายพืชผลทางการเกษตรเพียง 1 ร้าน
บ้านหลวง
หมู่บ้านของชาวจีนยูนานที่อพยพมาจากประเทศจีน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอาชีพหลักของชาวบ้าน จะเป็นอาชีพด้านการเกษตร ซึ่งจะปลูกผลไม้ อาทิเช่น พีช พลัม สาลี่ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้าน ยังมีร้านอาหารจีนยูนาน จำหน่ายข้าวซอยและ ซาลาเปารสชาติดีสไตล์จีนยูนนานให้นักท่องเที่ยว ได้ลองชิมอีกด้วย
ฐานปฎิบัติการนอแล
ตั้งอยู่ ณ ฐานทหารไทยบริเวณเดียวกับหมู่บ้านนอแล ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างชายแดนไทยและชายแดนของประเทศพม่าเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาในยามเช้าสามารถมองเห็นทะเลหมอกอันสวยงามถึงแม้ในยามสายก็ยังเห็นทะเลหมอกได้ ไม่ไกลจากจุดชมวิวคือ หมู่บ้านนอแล เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผาปะหล่องที่อพยพ มาจากประเทศพม่า สามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวปะหล่องได้ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกจำหน่าย อาทิเช่น กระเป๋า ผ้าพันคอ ผ้าถุง ซึ่งถือเป็นฝีมือของชาวเขา
สุกี้ยูนนานร้านเหมย
มาถึงดอยอ่างขางทั้งทีไม่ควรพลาดทานสุกี้ยูนนานในตำนาน ที่ร้านเหมย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยอ่างขาง แวะทานขากลับจากเที่ยวดอยอ่างขาง สุกี้ยูนนานแตกต่างจากสุกี้ที่เราคุ้นเคย
น้ำซุปเเคี่ยวจากกระดูกหมูวจนกลมกล่อมหอมหวาน ใส่ลงมาในหม้อสุกี้ขนาดใหญ่พร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่รวมกันมาอยู่ในหม้อ ทั้ง ไก่ดำ เผือก หน่อไม้แห้ง ฟองเต้าหู้ แฮมยูนนา หมูชุบแป้ง ไข่ม้วน ลูกชิ้นปั้น เสิร์ฟพร้อมกับผักสดที่ปลูกบนดอยอ่างขาง เช่น ผักน้ำ ผักกาดขาว คะน้าดอย และเส้นบุก ผักสดกรอบอร่อยเติมได้ไม่อั้น ทานกับน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ดสูตรเฉพาะของร้าน
รับรองว่าจะต้องติดใจในรสชาติจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว นอกจากมีสุกี้ยูนนานแล้วยังมีอาหารจีนยูนนานอย่างอื่นที่น่าลิ้มลองอีกหลายเมนู ขาหมูหมั่นโถว หมั่นโถวทอดจิ้มนมแนะนำต้องสั่งกรอบอร่อยมาก ราคาเริ่มต้น 1200 -1700 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหม้อใหญ่ทานได้ 10 คน และขนาดเล็กทานได้ประมาณ 5 คน
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนประมาณ 1- 2 ชั่วโมง ที่โทร 081 366 3010
การเดินทางเที่ยวบนดอยอ่างขาง
โดยรถส่วนตัว
เส้นทางขึ้นดอยอ่างขาง มีสองเส้นทาง เส้นทางแรก จากวัดหาญสำราญเส้นทางนี้จะใช้เวลาค่อนข้างน้อย แต่ขึ้นชื่อในความความโค้งชันขับยากที่สุดในอันดับต้น สำหรับใครที่มั่นใจว่าขับรถขึ้นดอยแข็งแรง สามารถขับขึ้นไปเองได้เลย แต่แนะนำถ้าไม่คุ้นเคยเส้นทางไม่ควร
แนะนำให้ใช้บริการรถสองแถวนำเที่ยวของคนในพื้นที่จะปลอดภัยกว่า เส้นทางที่ 2 เข้าทางอำเภอไชยปราการ ผ่านเส้นบ้านอรุโณทัย จุดชมวิวซุยถัง เส้นทางอ้อมสักหน่อยโค้งแต่ไม่ชันมาก ขับง่ายกว่า หากขับรถมาเองและยังไม่ชำนาญการขับรถขึ้นดอยแนะนำให้ใช้เส้นทางนี้
โดยรถสาธารณะ
รถประจำทางจากจังหวัดเชียงใหม่มาลงยังปากทางขึ้นดอยอ่างขาง สามารถไปขึ้นรถได้ที่ คิวรถช้างเผือก มีทั้งรถตู้ (ราคา 150 บาท) และรถบัสคันใหญ่ (ราคา 85 บาท) หรือจากกรุงเทพ นั่งรถสายกรุงเทพ-ท่าตอน มีให้บริการทั้งของบริษัทขนส่ง และ นิววิระยะทัวร์ โดยไปลงบริเวณทางขึ้นดอยอ่างขางหน้าวัดหาดสำราญ
– จากทางขึ้นอ่างขาง กม. 137 (วัดหาดสำราญ) มีรถคิวสองแถวบริการ รับ-ส่ง นักท่องเที่ยวที่ไม่ขับรถขึ้นดอยเอง เริ่มประมาณ 5.30 -18.00 น. แต่รอให้ครบ 10 คน รถถึงจะออก ซึ่งเหมาไปเลยจะสะดวกกว่า
โปรแกรมนำเที่ยวดอยอ่างขาง
รถสองแถว 1 คัน นั่ง ได้ 10 ท่าน ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท โปรแกรมนำเที่ยว พาเที่ยวในสถานีเกษตรหหลวง ได้แก่ สวน 80 เรือนไม้กระถาง จุดจำหน่ายผลผลิต สวนบอนไซ แปลงบ๊วย
เที่ยวรอบนอกสถานี เพิ่ม 300 บาท พาเที่ยวไร่ชา2,000 ไร่สตรอเบอรี่+ชายแดนไทย-พม่านอแลรถ ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ม่อนสนเพิ่ม 200 บาท จุดชมวิวซุยถังเพิ่ม 500 บาท
สำหรับใครที่ต้องการติดต่อรถนำเที่ยว ติดต่อจองรถล่วงหน้า ที่คุณนิรุต โทร 087 191 5622 เป็นคนในพื้นที่ที่ให้บริการนำเที่ยวบนดอยอ่างขางมานาน ค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องเวลา พระอาทิตย์ขึ้น แสง และทะเลหมอก
ที่พักบนดอยอ่างขาง
ในปัจจุบันบันดอยอ่างขาง ไม่มีที่พักในรูปแบบของบ้านพักให้บริการ จะมีเฉพาะลานกางเต้นท์ ประมาณ 4 จุด ที่ตั้งอยู่นอกสถานีเกษตรหลวงอ่างข่าง ได้แก่ จุดชมวิวม่อนสนใกล้สถานีที่สุด ถัดไปอยู่ใกล้กันคือ ลานกางเต้นท์จุดชมวิวปุยเมฆ ม่อนซากุระ และจุดชมวิวซุยถัง
ซึ่งจะอยู่ห่างจากสถานที่ออกไปประมาณ 30 นาที หากใครไม่สะดวกในการพักแบบเต้นท์ สามารถพักที่รีสอร์ทใกล้กับทางขึ้นดอยอ่างขางหรือในอำเภอฝางที่มีให้บริการหลายแห่ง ได้แก่ อ่างขางการเด้นท์ คุ้มดอยหลวง สุกรี โฮมสเตย์ ทั้งสามแห่งตั้งอยู่ทางขึ้นดอยอ่างขาง และอีกที่ คือ ฝางโมเดิร์น
จะอยู่ในตัวอำเภอฝาง (ห่างจากทางขึ้นประมาณ 20 นาที) จากนั้นค่อยขึ้นมาเที่ยวดอยอ่างขางในช่วงเช้า จุดชมวิวปุยเมฆ ในความดูแลของอาสาสมัครกู้ภัยฝ่ายพลเรือน ที่เปิดพื้นที่ดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถสอบถามจองที่พักได้ที่คุณนิรุต โทร 087 191 5622 เช่นกัน
จุดชมวิวปุยเมฆ เป็นจุดชมวิวที่ค่อนข้างเงียบสงบ และนักท่องเที่ยวไม่เยอะ มีเต้นท์ให้บริการหลายจุด พร้อมเครื่องนอน วิวดีมากๆ มองเห็นวิวทิวเขาเรียงรายอยู่ตรงหน้าเต้นท์ ราคาเต้นท์ 2 คน 700 บาท พัก 3 คน 900 พัก 5 คน 1500 อาบน้ำอุ่น 60 บาท เต้นท์โดม 2000 นอนได้ 4 คน อาบน้ำอุ่นฟรี ภายในเต้นท์ไม่มีไฟฟ้า แต่มีจุดชาร์ตไฟที่ร้านขายอาหาร สามมารถนำไปชาร์ตโดยคิดค่าบริการครั้งละ 20 บาท
มีบ้านพักของเจ้าหน้าที่ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวพักด้วย ภายในบ้านมีห้องน้ำส่วนตัว ไฟฟ้า และเครื่องทำน้ำอุ่น แต่อาจไม่สะดวกสบายเหมือนพักรีสอร์ทข้างล่าง
มีร้านอาหารสวัสดิการ ที่ขายอาหารตามสั่ง รวมทั้งหมูกะทะชุดละ 500 บาท ราคาแอบแรงนิดนึง หรือจะเตรียมอาหารมาทานเองก็ได้
จุดชมวิวม่อนสน จุดชมวิวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของดอยอ่างขาง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและ วิวทะเลหมอก จุดชมวิวจุดนี้ควรมาถึงประมาณ 6.30 น. เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นให้ทันเวลา นอกจากนี้ที่นี่ยังให้บริการลานกางเต้นท์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยว ทำให้จุดชมวิวแห่งนี้ค่อนข้างเต็มไปด้วยผู้คน
ม่อนซากุระ เป็นลานกางเต้นท์ที่อยู่ท่ามกลางนางพญาเสือโคร่ง มีทั้งเต้นท์ให้บริการ หรือจะนำเต้นท์มากางเองก็ได้ ไม่ต้องจอง สามารถ walk in ไปได้เลย ค่ากางเต้นท์ คนละ 80 บาท ช่าผ้าห่มผืนละ 50 บาท ห้องน้ำมีเยอะมากแยกห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พิกัดตั้งอยู่ สามแยกบ้านหลวง ใกล้กับจุดกางเต็นท์ ม่อนส สอบถามโทร 080 338 9765
ลานกางเต้นท์ซุยถัง walk in ไปได้
บริเวณจุดชมวิวซุยถัง มีเต้นท์แบบ VIP พร้อมเครื่องนอน ที่อยู่ข้างล่าง มองเห็นวิวทะเลหมอซุยถังได้จากหน้าเต้นท์ มีห้องน้ำรวม ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด ราคาเต้นท์ละ 1000 บาท พักได้ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า ติดต่อโทร 091 079 1367
โฆษณา