War report:รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างหนักในยูเครนก่อนวันหยุดสำคัญ
รัสเซียยิงขีปนาวุธและโดรนหลายสิบลูกไปยังเมืองเคียฟและเมืองอื่นๆ ของยูเครน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
กองบัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนกล่าวว่าได้ทำลายโดรน Shahed ที่ผลิตในอิหร่านทั้งหมด 35 ลำที่ยิงในตอนกลางคืน และเสริมว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกด้วย
“น่าเสียดายที่มีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บ อาคารสูง บ้านส่วนตัว และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของพลเรือนได้รับความเสียหาย” เสนาธิการกองทัพยูเครนระบุในการอัพเดทรายวัน
การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดมีขึ้นในขณะที่มอสโกเตรียมฉลองวันแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นวันหยุดสำคัญของรัสเซียซึ่งเป็นวันครบรอบการพ่ายแพ้ของนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 และมักจะมีการสวนสนามทางทหารผ่านจัตุรัสแดง
มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คนจากการโจมตีทางอากาศในเมืองหลวง อ้างจากนายกเทศมนตรีเมืองเคียฟ วิตาลี คลิทช์โก ขณะที่ขีปนาวุธของรัสเซียทิ้งโกดังโอเดสซาที่เต็มไปด้วยอาหารไว้ในกองเพลิง มีรายงานการระเบิดในหลายพื้นที่ของยูเครน
นอกจากนี้ รัสเซียยังเพิ่มความรุนแรงในการระดมยิงทำลายเมืองบักห์มุต ตามคำกล่าวของนายพลระดับสูงของยูเครนที่รับผิดชอบการป้องกันเมือง ขณะที่รัสเซียหวังว่าจะได้กำไรก่อนวันหยุดยาววันที่ 9 พฤษภาคม ครั้งหนึ่ง Bakhmut เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองเหมืองเกลือ ชาวรัสเซียมองว่า Bakhmut เป็นเป้าหมายหลักในการรุกคืบไปทางตะวันออก
พยานบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าพวกเขาได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งในเคียฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศกำลังขับไล่การโจมตี
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนจากเหตุระเบิดในเขต Solomyanskyi ของเคียฟ และอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเมื่อซากโดรนตกใส่เขต Sviatoshyn ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของใจกลางเมืองทั้งสองแห่ง นายกเทศมนตรี Vitali Klitschko กล่าวในช่องข้อความ Telegram ของเขา
หน่วยงานทหารของเคียฟกล่าวว่า ในเขต Shevchenkivskyi ใจกลางเมือง เศษชิ้นส่วนของโดรนดูเหมือนจะชนอาคาร 2 ชั้น ทำให้เกิดความเสียหาย และยังตกลงบนรันเวย์ของสนามบิน Zhuliany ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินโดยสารสองแห่งของเมืองหลวงของยูเครน
หลังจากการแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศส่งเสียงดังเป็นเวลาหลายชั่วโมงในพื้นที่ประมาณ 2 ใน 3 ของประเทศยูเครน ยังมีรายงานของสื่อเกี่ยวกับเสียงระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ของ Kherson และในภูมิภาค Zaporizhia ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์นิวเคลียร์ Zaporizhzhia
ผู้ว่าการภูมิภาคที่ตั้งในกรุงมอสโกได้สั่งให้อพยพพลเรือน รวมทั้งจากเมืองเอเนอโฮดาร์ ซึ่งเป็นเมืองที่คนงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาศัยอยู่มากที่สุด
ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ราฟาเอล กรอสซี ใช้เวลาหลายเดือนในการพยายามโน้มน้าวเจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครนให้จัดตั้งเขตป้องกันรอบโรงงานเพื่อลดอันตรายจากภัยพิบัติ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการพลังงานคงที่เพื่อเดินระบบหล่อเย็นและหลีกเลี่ยงการหลอมละลาย และโรงงาน Zaporizhzhia ขัดข้องถึง 6 ครั้งนับตั้งแต่การสู้รบเริ่มขึ้น
เยเกนี บาลิตสกี ผู้ว่าการภูมิภาคซึ่งรัสเซียตั้งขึ้นกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ประชาชนกว่า 1,500 คนถูกอพยพออกจากสองเมืองที่ไม่ระบุรายละเอียดในพื้นที่ เมื่อวันศุกร์ เขาสั่งให้พลเรือนออกจากชุมชน 18 แห่งที่รัสเซียยึดครอง รวมถึงเอเนร์โฮดาร์ เจ้าหน้าที่ยูเครนยืนยันว่าการอพยพของ Enerhodar อยู่ระหว่างดำเนินการ
กองทหารของมอสโกเข้ายึดโรงงานได้ไม่นานหลังจากบุกยูเครนเมื่อปีที่แล้ว แต่พนักงานของยูเครนยังคงดำเนินการโรงงานต่อไปในระหว่างการยึดครอง ซึ่งบางครั้งอยู่ภายใต้การบังคับขู่เข็ญที่รุนแรง
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตียังทวีความรุนแรงต่อเป้าหมายที่รัสเซียยึดครอง โดยเฉพาะในไครเมีย ซึ่งมอสโกบุกเข้ายึดครองและยึดครองในปี 2557
ยูเครนไม่ได้ยืนยันถึงบทบาทใดๆ ในการโจมตีเหล่านั้น แต่กล่าวว่าการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของศัตรูคือการเตรียมการสำหรับการโจมตีภาคพื้นดินที่คาดหวังมานาน
รัสเซียเปิดตัวการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยเรียกมันว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" เพื่อปกป้องรัสเซียจากการถูกกล่าวหาว่าเป็น "นีโอนาซี" ในยูเครน
เคียฟและพันธมิตรกล่าวว่าการรุกรานเป็นการโจมตีประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยโดยปราศจากการยั่วยุ
มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และหลายล้านคนต้องหลบหนีอันเป็นผลมาจากการสู้รบ
reference:
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
