ทุ่งกว้าง ทางไกล สุดสายตา
ขึ้นชื่อเรื่องมาแบบนี้เดาได้ไหมคะว่าจะเขียนอะไร แหะ แหะ คนเขียนก็ยังงงอยู่ว่าจะเกี่ยวกันไหม คือ มีแฟนเพลงอยากให้เขียนถึงเพลง Hotel California อันลือลั่นของ The Eagles ค่ะ ฟังประโยคแรกของเพลง บอกว่า
On a dark desert highway
Cool wind in my hair ..
ก็นึกภาพตามไปว่า คณะนี้เค้าคงขับรถไปทางไกลที่ไหนก็ไม่รู้ น่าจะต้องเป็นรถเปิดประทุนเพราะได้สัมผัสลมเย็นจนผมปลิวไสว
เวลาเราขับรถไปในที่ที่ไม่เคยไป ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่มากนัก และมองไม่เห็นอะไรเลยสองข้างทางนอกจาก ต้นไม้ใบหญ้าตอนกลางวันก็คงเพลิดเพลินกับธรรมชาติสบายตาสบายใจดี แต่พอตกค่ำคงต้องคิดหนักแล้ว ว่าจะเอาไงดี จะไปต่อหรือจะหยุดพัก
นี่เคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเองเลยค่ะ เมื่อปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่อยู่นานเป็นเดือน แต่มีเหตุจะต้องไปดูงานก่อสร้างที่ค้างไว้ที่จังหวัดเหนือสุดของประเทศ เราออกเดินทางไปกัน 3 คน มีดิฉัน หลานชายวัย 12 กับคนขับรถ
ออกจากกรุงเทพต้องอ้อมไปทางสุพรรณ แล้วก็ลัดเลาะหลบเลี่ยงไม่ให้เจอน้ำท่วม กว่าจะเข้าสู่ถนนสายหลักแถวจังหวัดตาก ก็เริ่มจะค่ำ คนขับรถบอกว่า อีกเกือบ 200 กม. กว่าจะถึงลำปางคงจะมืดมากแล้วจะขับรถลำบาก คงต้องหาที่พักแถวนี้ก่อน ดีไหมครับ
ถ้าคนขับบอกลำบาก ก็แปลว่าเค้าไม่ค่ิอยมั่นใจ ก็โอเคหาที่พักข้างๆทางละกัน พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ เลี้ยวเข้าไปที่พักเขียนว่าเป็นรีสอร์ตแต่หน้าตาเหมือนโรงแรม เป็นอาคารสองช้ัน มี reception counter ด้วย แต่ไม่มีใครอยู่สักคน ก็เดินขึ้นไปกับคุณหลาน ลองส่งเสียงเรียก เคาะเคาน์เตอร์ อยู่สัก 5 นาที ไม่มีใครออกมา ต้องเป็นโรงแรมร้างแน่ๆ
คุณหลานบอกคุณ yaya ครับเราไปที่อื่นกันดีกว่าครับ ผมคงไม่กล้านอนที่นี่แน่ๆ ผมกลัวผีครับ .. เอ่อ ย่าก็กลัวจ้ะ รีบกระโดดขึ้นรถเลี้ยวออกมาโดยพลัน ดีที่ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงเพลง Hotel California นะ ม่ายงั้นคงสยองเต็มขั้นเลย
เคยมีเพื่อนหลายคนพูดว่า เพลงเนี้ยฟังไม่รู้เรื่อง ตกลงมันมีโรงแรมนี้จริงๆหรือเป็นเรื่องผีหลอกกลางทะเลทราย อะไรกันแน่
ดิฉันไม่ได้สนใจเนื้อหาเท่าไหร่รู้แต่ว่า ดนตรีเข้มเป๊ะมาก จังหวะลงตัว เหมาะสำหรับนักโซโลกีต้าร์ ได้โชว์ฝีมือกันเต็มๆเลย อีกทั้งเป็นผลงานของ The Eagles ตำนานเพลงยุค 1970’s ก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
เมื่อมีแฟนเพลงฝากว่า ช่วยเขียนถึงเพลงนี้หน่อย ตอนแรกต้องยอมรับว่า มืดแปดด้าน แต่พอเอามาเทียบกับเหตุการณ์ที่จังหวัดตากเมื่อปี 2554 มันใช่เลยค่ะ
ในเพลงมีพูดว่า ขับรถมาไกล๊ไกล ไม่เห็นบ้านเรือนอะไรเลย เห็นแต่แสงไฟลิบๆอยู่สุดสายตา คงต้องหาที่พักก่อนละ เห็นป้าย Hotel California ก็ใช่เลย มีหญิงสาวออกมาต้อนรับขับสู้ ดูดีเชียว เดินเข้าไป โอว์ มีห้องว่างเยอะแยะ เชิญเลือกพักตามสบาย ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ มาตอนไหนก็ได้มีห้องว่างตลอด
เหมาะเลย เดินไปบอกที่รีเซฟขั่น แหมบรรยากาศดีแบบนี้ช่วยเสริฟ ไวน์ ให้พวกเราหน่อย พนง. ตอบ ที่นี่เค้าห้ามกินไวน์มาตั้งแต่ปี 1969 แล้ว คุณไม่รู้เหรอ .. เอ๊ะยังไง โรงแรมหรูขนาดนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ เริ่มงง เดินไปอีกห้องก็เหมือนจะมี big feast งานเลี้ยงใหญ่มีผู้คนล้อมวงกันอยู่ มีหมูป่านอนรอให้ถูกเชือด บรื้อส์…เผ่นดีกว่า อะไรมันจะโหดร้ายขนาดนั้น
มาเจอ พนง. คนเดิม คณะที่เดินทางมาบอกขอไม่พักละไปดีกว่า
พนง. บอก ที่นี่น่ะ มาพักได้ตลอด แต่จะกลับออกไปได้รึเปล่า .. ไม่แน่ใจ อั๊ยย่ะ..นี่มันโรงแรมผีสิงหรืออะราย
เพลงนี้มีผู้คนตีความกันไปมากมายหลากหลายแนว เพราะเนื้อความหลายตอนมันย้อนแย้งกันอยู่ จนต้องมีการไปสอบถาม Don Henley คนเขียนเพลง ก็ตอบแบบให้คิดต่อว่า แค่ตั้งใจจะสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่หรูหราฟุ่มเฟือยของสังคมอเมริกัน โดยเฉพาะในเมืองมายาแบบฮอลลีวู้ดแคลิฟอร์เนีย ที่ถ้าเข้ามาแล้วก็อาจจะหลงไหล
หาทางกลับออกไปไม่ถูกเลยทีเดียว
นี่เป็นมุมมองส่วนตัวนะคะ ไม่มีผิดถูกแล้วแต่ใครจะเลือกหยิบเหตุการณ์ไหนมาเปรียบเปรย
มีข้อสังเกตนิดนึงค่ะ ว่าปี 1969 นั้นเป็นปีที่อเมริกาออกกฎห้ามดื่มเครื้องดื่มแอลกอฮอล์ใน สถานบำบัดทางจิตเวช ดังนั้น จึงมีการอ้างถึงปีนี้แบบ sarcastic หน่อยๆในเพลงนี้
โชคดีที่ไม่มีใครออกมาต้อนรับยื่นกุญแจห้องพักให้ที่โรงแรมจังหวัดตากวันนั้น ม่ายงั้นอาจกลับออกมาไม่ได้เหมือน Hotel California บรือส์ .. นึกทีไรยังกลัวไม่หาย
ขอจบแค่นี้นะคะ เพราะจริงๆแล้วก็บรรยายต่อไปได้เรื่อยๆแบบเดาสุ่ม 5555
#hotelcalifornia
#songbytheeagles
#เขียนไปเรื่อยเปื่อย
#onlylovelydays
#onlyrose
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
