การล้มละลายของ 3 แบงก์สหรัฐฯ อย่าง Silicon Valley Bank, Signature Bank และ First Republic Bank เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความวิตกกังวลกับตลาดไม่น้อย เพราะ แต่ละแบงก์ที่ล้มละลายลงไป มีมูลค่าทรัพย์สินตีเป็นเงินไม่น้อย
อย่างกรณีของ First Republic Bank ที่มีทรัพย์สิน(ก่อนล้มละลาย) มากที่สุดในกลุ่ม 3 แบงก์ ก็มีทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่าถึงราว 229,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้จะมีมูลค่าสูงขนาดนี้ แต่การล้มของ First Republic Bank ก็ยังไม่ใช่การล้มของแบงก์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
Washington Mutual Bank (WaMu) ถือเป็นแบงก์ที่มีการดำเนินการกิจการในรูปแบบดั้งเดิม (Conservative Bank) หรือก็คือพวกเขาเน้นการทำหน้าที่ “เป็นคนรับฝากเงินและปล่อยเงินกู้”
Washington Mutual Bank เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยหลังการล้มของ Lehman 10 วัน มีคนถอนเงินออกจากแบงก์รวมกันถึง 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 11% ของเงินฝากของ WaMu ทั้งหมด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจแต่ละวัน จนต้องถูกเข้ายึดโดยภาครัฐและขายต่อให้ทาง J.P. Morgan ในราคา 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย Kirsten Grind ผู้แต่งหนังสือ The Lost Bank ที่เล่าเรื่องการล้มละลายของ Washington Mutual Bank เคยเขียนบทความลงใน CNBC โดยบอกว่า เบื้องลึกอีกสองเหตุผลที่ทำให้ภาครัฐไม่ยื่นมือเข้ามาอุ้ม
เป็นเพราะว่า “พวกเขาไม่ได้มีขนาดใหญ่ถึงขั้นจะถูกจัดเป็นบริษัท Too Big to Fail” เหมือนอย่างกรณี และอีกอย่างคือ พวกเขาไม่ได้มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้ออกนโยบายที่วอชิงตัน
📌 ความเหมือนและแตกต่างกับในปัจจุบัน
แม้ผ่านมา 15 ปี การล้มละลายของทั้ง 3 แบงก์ที่พึ่งเกิดขึ้น ก็ยังมีส่วนคล้ายคลึงกับกรณีของ Washington Mutual Bank อยู่