8 พ.ค. 2023 เวลา 14:14 • การศึกษา
ตอบคนที่ถามลงท้าย"ครับ"
สมัยมัธยมแอบชอบสาวลูกนายพัน ตอนปิดเทอมเขาจะกลับมาจากกรุงเทพฯมาช่วงปิดเทอม อย่าว่าถ้ำมองเลย เล็งมองข้ามรั้วไก๊ไกล ทุกปี ตั้งแต่ ม.3 จนถึง ม.6 เลย
มีอยู่วันนึง คุณลุงข้างบ้านเดินมาเห็นผมกำลังอิ่มเอิบเพราะแอบมองสาวชาวกรุงอยู่
ลุงบอกว่า :
คนเราไม่ต่างกันหลอก เรียนบ้านนอกกับเรียนกรุงเทพฯ มันอยู่ที่โอกาส
และความพยายามวันนึงเราก็มีโอกาส มีไฟหรือเปล่าเท่านั้น
คิดในใจจะมีไฟได้ไง ผมไม่สูบบุหรี่นิ่ สมองโต้
แต่ลุงพูดต่อว่า" ไฟใฝ่เรียน"อ่ะ
จำได้คำคมของลุง : ขำๆแต่มีความหมาย
ผู้หญิง เรียนไม่สูง สามารถมีสามี ชั้นเดียวกันถึงปริญญาเอก แต่......แต่นะ
ผู้ชาย เรียนป4 จะมีภรรยา ก็ป4. จะสูงกว่านั้นคงไม่เกิน ป.6 ละมัง
เรียน ม.6 จะมี ก็ไม่เกิน ม.6 ปวช.
เรียน ปวช จะมีก็ไม่เกิน ป.ตรี
เรียน ป.ตรี จะมีก็คงไม่เกิน ป.โท
แต่ถ้าเรียน ป.เอก ก็ เก็บลงมาได้หมด แกนี่ช่างตรรกะจริงๆ
***ยกเว้นนะ พ่อแม่ร่ำรวยเงินทองมีกิจการแาจเป็นข้อยกเว้นเพราะมีกะตังส์
เลี้ยงสาวได้***
เลยเข้าใจว่า ไฟ คืออะไร ? จากวันนั้นเลยเร่งไฟ โหมไฟใหญ่เลย
ถึงวันนี้ก็เลยเลือกแม่ของลูกได้หลายระดับเลยอ่ะ กว่าจะมาถึงวันนี้ ลูกนายพัน
เขามีลูกไป 2 คนแล้ว ไม่เป็นไรครับ
คราวนี้คนถาม เข้าใจยังว่าไฟ มันสำคัญในมิติที่แตกต่างของแต่ละคน
ถ้าอยากเพิ่มโอกาสให้ชีวิตตัวเองก็เติมไฟอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าอยากลำบากก็ดับไฟเลยครับ หรี่ๆอย่างนี้ดับง่าย ดับเลยครับ ชีวิตจะได้ไม่ต้องมีไฟอะไรมาก
เอาแค่แสงหิ่งห้อยก็พอ สำหรับลูกผู้ชายคนนึง
ล้อเล่นนะ ! อย่าเคลิ้มแล้วไปดับไฟซะละ
อยากก้าวหน้า อาชีพ รายได้ เงินเดือน ชีวิตมั่นคงยั่งยืน ก็ไปตั้งใจเรียนอย่างมีเป้าหมายซะ ไม่ใช่เรียนให้มันผ่านไป ขอไปที สังคมเรายังต้องการคน มีความรู้
มีความสามารถอยู่มาก ไม่มีใครเคยตายเพราะการเรียนหรอก เป้าหมายคือเรียน
และนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวให้ได้ก่อนเท่านั้น
โฆษณา