9 พ.ค. 2023 เวลา 00:24 • ความคิดเห็น
มีพระธุดงค์ ท่านเล่าให้ฟัง ..ท่านไปปักกลดที่วัดร้างแห่งหนึ่ง ที่มีซากปรักหักพังของโบสถ์เก่า มีพระประธานในโบสถ์ ชาวบ้านก็เอาเครื่องเซ่นไหว้ ไปไหว้ไปเซ่น มีน้ำแดง มีพวงมาลัยมากมายห้อยเต็มไปหมด ท่านไปปักกลด ก็อยากจะดูว่า มีอะไรน่ะที่นี้ คนถึงมาเซ่นไหว้กันมากมาย พอตกกลางคืน ท่านก็ทำสมาธิของท่าน
ท่านก็ได้พบว่า สิ่งท่านมาอาศัย บริเวณนี้ ก็ล้วนเป็นพวก จิตที่เร่รอน เป็นเปรตอสุรกาย เป็นสีดำ เงาดำๆ มาเกาะกินเครื่องเซ่นไหว้ น้ำมูกน้ำลาย ก็ลงไปในเครื่องเซ่นไหว้ ที่เกิดจากการสัมผัส จิตบางดวงกลางวันเหมือนเป็นเทพยดา ตอนกลางคืนก็เป็นเปรตอสุรกาย มาหาคุ้ยเขี่ยกองขยะกิน
แล้วคนที่ไปเซ่นไหว้ ..ที่ว่ามีโชคมีลาภนั่น มันก็เนื่องมาจากบุญกุศลเก่าของตนเอง ถ้าไม่มีบุญเก่า มันก็ไม่โชคลาภวาสนา เรื่องน้ำแดงเซ่นไหว้ ตามร้านค้าอะไรต่างๆ สมัยก่อนก็ไม่มีมากมาย หลังยุคเขมรแตก ลาวแตก ก็มีคนที่อพยพมาทำงานกัน เรื่องร่างทรง ก็เพิ่มขึ้นมากมาย
พ่อค้าแม่ค้าก็อยากจะหาตัวช่วยค้าขาย ในตะกร้า กระเป๋า ก็เอาสิ่งที่เรียกว่า เป็นมงคล เอามายึดถือ ให้ช่วยเรียกลูกค้า หน้าร้านก็เอาน้ำแดงมาตั้ง เซ่นไหว้ เค้าว่าผีจะไม่มาบังหน้าร้าน ..แต่ไม่รู้ว่า ทำแบบนี้ ..ไปเรียกร้อง..ให้ผีเปรตอสุรกายมาอยู่สถานที่นั้น ..แล้วก็มองไม่เห็นเสียด้วย ก็ยึดอยู่อย่างนั้น
..คราวนี้แหละ สิ่งที่ไปยึดเค้า.ไปเรียก ยึดสิ่งที่มองไม่เห็น เค้าไม่มีบุญ เค้าก็มาสถิต.วันไหนไม่ให้กินไม่ให้ของกิน เค้าก็หิว.อาละวาด สื่อให้วิญญาณ.อารมณ์คนที่ยึดถือก็หงุดหงิด เร่าร้อน ดวงจิตน้อยเร่ร่อน ก็มาเกาะกิน กินนอนอยู่กับคนที่นับถือยึดถือ..เป็นอันธพาลไป จิตที่เร่ร่อน ก็เหมือนคนเรานั้นแหละ คนไร้บ้าน.มีนิสัยที่แตกต่างกัน ขี้เหล้าเมายา ลามก มันมีมากมาย..พอไปทำแบบนี้แล้ว ก็เหมือนตัวเองไปยึด มีกรรมต้องยึดถือ เลี้ยงผีเปรตอสุรกาย ผีตายโหงตายห่า.ก็จะเข้าวัดทำบุญไม่ได้ เข้าหาพระที่ท่านปฏิบัติไม่ได้
แต่เข้าไปหาเกจิอาจารย์ของขลังได้ เข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ืเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้ ..จะไปบอกกล่าวให้สร้างบุญกุศล สวดมนต์ทำสมาธิ เค้ารับไม่ได้เลย .จะปฏิเสธ เพราะ คนมีกรรมเค้าก็วิ่งหากรรม คนที่เค้ามีบุญ เค้าก็วิ่งหาบุญกุศล แต่คนมีกรรมมันมีมากมาย ..เค้าก็ต้องยึดกรรม เชื่ออารมณ์กรรมที่ตัวเองยึด เมื่อชะตาตก.โรคภัยก็เบียดเบียน ..สิ่งตัวเองยึดก็จะร่วมด้วยช่วยกัน ..เกาะกินเรือนกาย..เจ็บปวดทุรนทุรายไป..ปิดประตูลงกลอน ไม่รู้จักเรื่องบุญกุศล ไม่รู้จักกรรม เพราะกรรมปิดปิดสนิทมืดมิดไปทั้งดวงจิต
พวกที่ไปกินเครื่องเซ่นไหว้ เค้าก็เป็นจิตดวงหนึ่ง ..แต่ก่อนก็เคยเป็นคนมา ..พอจิตออกจากร่างก็เป็นโอปปาติกะ ..กรรมที่สะสมมาตอนเป็นมนุษย์ อิทธิฤทธิ์ของกรรมที่สะสมมาทก็บันดาลให้จิต ต้องไปตกในสภาพ เร่ร่อน เป็นเปรต อสุรกาย ..ด้วยกรรมที่สะสมขึ้นมาเอง..เรียนรู้จัก ..ก็จะค่อยๆ..รู้จักว่าตายแล้วไปไหน
..กายมันตาย แต่จิตมันไม่ตายไปตามกาย..ต้องไปเกิด ..เกิดที่ไหนไม่รู้ได้เลย..เอ๊ะ..เราก็เป็นดวงจิต ดวงหนึ่ง ..หากจิตออกจากกาย ไปมีสภาพต้องเร่ร่อน หากินเครื่องเซ่นไหว้จะมีความสุขมั้ยหนอ มันจะไปเป็นอย่างนั้นได้มั้ยหนอ .. เมื่อเรือนกายมนุษย์ที่อาศัยที่เป็นเหมือนบ้านใจจิตอาศัยหมดสิ้นลม ..จิตเราจะไปสถิตย์ในรูปใด ..รูปของผู้ที่ไม่รู้จักบุญกุศล สัตว์ก็มีให้ดู รูปเปรตอสุรกายมีจริงมั้ย ..ก็ต้องศึกษาเอง..ด้วยคำว่าจิต ..ที่เป็นนามธรรมเหมือนกัน
โฆษณา