9 พ.ค. 2023 เวลา 08:23 • การตลาด

ก้าวต่อไปของรองเท้า Birkenstock ?

“การปรับตัวของ Birkenstock”
เดิมที Birkenstock ไม่ได้สนใจว่าจะต้องทำให้สินค้ามันแมส
หรือต้องดีไซน์รองเท้าให้มันเข้ากับแฟชั่นในยุคสมัย
เพราะเขาแข่งขันอยู่ในตลาด “Niche Market”
คือ “มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม” ที่ต้องการ “รองเท้าเพื่อสุขภาพ”เป็นหลัก
แต่เมื่อการมาของแบรนด์รองเท้า อย่าง Crocs,Flip-Flop เข้าสู่ตลาด
ในฐานะรองเท้าแตะแฟชั่น ที่มันดันใส่สบายซะด้วย
ส่งผลให้ลูกค้าในปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น
Birkenstock เองก็ถึงเวลาที่ต้องคิดถึงเรื่อง “การปรับตัว” สักที
การปรับตัวของ Birkenstock ต้องย้อนกลับไปถึงพาร์ทที่แล้ว
ที่พูดถึงเกี่ยวกับปัญหาของ Birkenstock
โดยเราแบ่งออกเป็นปัญหาใหญ่ๆที่เกิดกับตัวสินค้าได้ 2 ข้อ
1.ความ “ไม่สบาย”ในการสวมใส่ครั้งแรก
2.ความทนทาน ที่ “มากเกินไป” ของมัน
น่าสนใจที่ Birkenstock มองปัญหาเหล่านี้ว่าเป็น “โอกาสในการปรับตัว”
ในปี 2015 การปรับตัวของ Birkenstock ก็มาถึง
เมื่อ Birkenstock ยอมทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมออกไปทั้งหมด
เมื่อโมเดล “ EVA ” ถูกวางจำหน่าย
โดยเปลี่ยนวัสดุจากไม้ก็อก และสายคาดหนัง “เป็นยางทั้งหมด”
ทำให้เมื่อใส่ครั้งแรกจะ “สบายเลยทันที” และ “ทำความสะอาดได้ง่าย” ครับ
Birkenstock “EVA”
ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น
ส่งผลให้เกิด”โอกาสในการสร้างฐานลูกค้าใหม่”
รวมถึงทำให้ลูกค้าที่เคยลองใส่รุ่นดั้งเดิมแต่ไม่ชอบ
ได้มีโอกาสกลับมาลองเปิดใจใหม่ให้กับรุ่น “EVA”
เรียกได้ว่าเหมือนเพลงของ อิ้งค์​ วรันธร
ที่ว่า “อยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม”
ผลตอบรับของรุ่น “EVA” นั้นดีจนเกินคาด ทำยอดขายได้ถล่มทลาย
แต่อย่างที่บอกครับ Birkenstock เขามีลูกค้าในตลาด “Niche Market”
เป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ใช้งาน Birkenstock มายาวนาน
และอีกข้อสำคัญนึงของ Birkenstock คือมันเป็นสินค้าคงทน (Durable goods)
มันมีอายุการใช้งานที่นานครับ กว่ามันจะพังแล้วต้องซื้อใหม่คงต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปี
ถ้าอย่างงั้นทำยังไงให้คนเกิดการซื้อซ้ำดีครับ ?
“ถ้ามันทนมากนัก เราก็ออกรุ่นใหม่ออกมาขายเลยแล้วกัน”
การปรับตัวอีกครั้งของ Birkenstock “สู่วงการแฟชั่น”
แม้จะเน้นจุดขายที่เป็น “รองเท้าเพื่อสุขภาพ”
แต่ในยุคที่แฟชั่นเปลี่ยนเวียนหมุนไปไวขนาดนี้
“หน้าตารูปลักษณ์ของสินค้า”ก็เป็นสิ่งสำคัญ
Birkenstock ได้ปล่อยโมเดลรองเท้ารุ่นใหม่ๆ เพื่อ “กระตุ้นการซื้อขาย”
โดยออกแบบให้เข้ากับแฟชั่นในยุคสมัยมากขึ้น อย่างเช่น
รุ่น Tema , Zurich , Kyoto , Big Buckle , EVA
รวมทั้งมีการคอลแลปส์ กับแบรนด์แฟชั่นอย่าง
Dior , BEAM ,Valentino , Stüssy
ส่งผลให้แม้ว่ารองเท้าของคุณยังไม่พัง
แต่โอกาสที่คุณจะต้องซื้อรุ่นใหม่ ก็จะเพิ่มมากขึ้น
เพราะคุณอาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับคำว่า “ของมันต้องมี”
การกระโดดเข้ามาสู่วงการแฟชั่น
ทำให้เมื่อเรานึกถึงภาพลักษณ์ของ Birkenstock
ไอความเป็น “รองเท้าเพื่อสุขภาพ” ได้ถูกลดทอนความสำคัญลง
และกลายมาเป็น “รองเท้าแฟชั่น” แทนในปัจจุบัน
ส่วนคำถามที่ว่า
“ทำไมมันถึงกลับฮิตอีกครั้ง ?”
คำถามที่เกิดขึ้นเมื่อเราเห็นคนตามหา Birkenstock รุ่น “Boston”
ที่ตอนนี้หากไปหาตาม Shop ในไทยไม่มีนะครับ “ของหมดสต็อค”
ต้องหิ้วเข้ามาจากเมืองนอก ซึ่งเมืองนอกก็ใช่ว่าจะมีของ
เพราะตอนนี้รองเท้ารุ่น Boston มันเป็นกระแสไป “ทั่วโลก”
ไอเจ้ารุ่น Boston นี่ไม่ได้เป็นรองเท้ารุ่นใหม่นะครับ
คือมันออกมาตั้งแต่ ปี 1979 และมันเคยฮิตมาหลายรอบแล้ว
แล้วทำไมมันถึงกลับมาฮิตอีกครั้ง ?
ตอบได้สั้นๆเลยเพราะ Tiktok ครับ
คือมันมี Influencer ในต่อกๆ รวมถึงมี เซเลบ ชื่อดัง
ที่เอาเจ้า “Boston” มาใส่
ส่งผลให้เกิดเป็น Viral ที่มีคนไปหาซื้อใส่ตามกันมากมาย
อานิสงส์ของกระแสพวกนี้ยังส่งผลให้รุ่นอื่นๆของ Birkenstock
กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งด้วย
โฆษณา