รวม Top 5 Consumer Discretionary ETF และ Consumer Staple ETF
วันนี้ #เด็กการเงิน ขอรวบรวม ETF สำหรับการลงทุนในกลุ่ม Consumer Discretionary และ Consumer Staple มาฝากกัน โดยนำข้อมูลมาจากเว็บไซต์ https://www.etf.com/etfanalytics/etf-finder
โดยจะนำ Top 5 ETF เรียงตาม AUM หรือเรียกว่าเป็น ETF ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงมาให้ดู พร้อมทั้งเปรียบเทียบว่าแต่ละ ETF มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ลงทุนในหุ้นอะไรบ้าง
ทั้งนี้ใครที่ยังไม่รู้จัก Consumer Discretionary และ Consumer Staple แนะนำให้อ่านโพสต์นี้ก่อนนะ
เปรียบเทียบ 2 กลุ่มสินค้าที่นักลงทุนต้องรู้ Consumer Discretionary vs. Consumer Staple และมีกองทุนไหนบ้างที่เน้นสินค้า 2 กลุ่มนี้
📌 มาเริ่มต้นกันที่ Consumer Discretionary ETF
1. XLY: Consumer Discretionary Select Sector SPDR Fund
2. VCR: Vanguard Consumer Discretionary ETF
3. FXD: First Trust Consumer Discretionary AlphaDEX Fund
4. FDIS: Fidelity MSCI Consumer Discretionary Index ETF
5. IYC: iShares U.S. Consumer Discretionary ETF
ทั้ง Top 5 เป็น ETF ที่เน้นลงทุนใน Consumer Discretionary ของสหรัฐฯ มากกว่า 99%
4 ETF ได้แก่ XLY, VCR, FDIS, IYC มีการลงทุนใกล้เคียงกันทั้งในแง่ของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มี Top 3 คือ 1) Retail Trade 2) Consumer Services และ 3) Consumer Durables และหุ้นที่ลงทุนส่วนมาก Top 5 จะเป็น Amazon, Tesla, Home Depot (คล้ายๆ โฮมโปรบ้านเรา), Nike และ McDonald แตกต่างกันที่ weight
อย่างไรก็ตาม IYC ค่อนข้างกระจายการลงทุนมากกว่าซึ่งดูจากหุ้นที่ลงทุนตัวแรกที่มีสัดส่วนไม่ถึง 15% ขณะที่ XLY, VCR และ FDIS มีสัดส่วนการลงทุนใน Amazon ซึ่งเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุด โดยลงทุนเกินกว่า 20%
ทั้งนี้ตัวที่ต่างจากเพื่อนเลยจะเป็น FXD ที่มีการลงทุนในหุ้นที่เราไม่คุ้นชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก และหุ้นใน Top 5 ก็มีสัดส่วนเพียงตัวละ 1% กว่าๆ เรียกได้ว่ามีการกระจายการลงทุนมากๆ ถ้าหากดูกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุน แม้จะลงทุนในกลุ่ม Retail Trade, Consumer Services และ Consumer Durables เหมือน ETF ตัวอื่นๆ แต่ก็ให้น้ำหนักต่างกัน
หากพิจารณาจาก Expense Ratio เรียงจาก ETF ที่มีค่าธรรมเนียมถูกสุดไปสูงสุด จะเป็นดังนี้
FDIS < XLY = VCR < IYC < FXD
หากพิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลัง จะเห็นว่าส่วนมากจะเกาะกลุ่มใกล้เคียงกัน บวกหรือลบไปในทางเดียวกัน ซึ่งก็ไม่น่าเเปลกใจเพราะลงทุนในอุตสาหกรรมและหุ้นที่คล้ายๆ กัน
ยกเว้น FXD ที่อาจจะแตกต่างกับเพื่อนมากหน่อย บางช่วงอาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าเพื่อนไปเลย เหตุผลก็เพราะว่ามีการลงทุนในหุ้นที่ต่างจาก ETF ตัวอื่น
📌 มาดู Consumer Staple ETF กันบ้าง
1. XLP: Consumer Staples Select Sector SPDR Fund
2. VDC: Vanguard Consumer Staples ETF
3. IYK: iShares U.S. Consumer Staples ETF
4. KXI: iShares Global Consumer Staples ETF
5. FSTA: Fidelity MSCI Consumer Staples Index ETF
XLP, VDC, IYK และ FSTA ลงทุนในกลุ่ม Consumer Staple ของสหรัฐฯ มากกว่า 99%
ขณะที่ KXI จะเป็น Global โดยกระจายการลงทุนกลุ่ม Consumer Staple ของสหรัฐฯ 58% อังกฤษ 12% สวิตเซอร์แลนด์ 9% และอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หากดูในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุน ทั้ง 5 ตัวมี Top 3 คือ 1) Consumer Non-Durables 2) Retail Trade และ 3) Process Industries
ในส่วนของหุ้นที่ลงทุน ก็จะเป็นหุ้นที่หลายคนรู้จักอยู่แล้ว ได้แก่ Procter & Gamble บริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เช่น แชมพู น้ำยาซักผ้า ครีม เป็นต้น, PepsiCo, Coca-Cola, Costco Wholesale เป็นห้างค้าส่งในสหรัฐฯ (คล้ายๆ แมคโครในบ้านเรา), Walmart ร้านค้าปลีก (คล้ายๆ เซเว่นในบ้านเรา), Philip Morris, Nestle และ Mondelez
หากพิจารณาจาก Expense Ratio เรียงจาก ETF ที่มีค่าธรรมเนียมถูกสุดไปสูงสุด จะเป็นดังนี้
FSTA < XLP = VDC < IYK < KXI
หากพิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลัง จะเห็นว่า IYK หรือ iShares U.S. Consumer Staples ETF มีผลตอบแทนในช่วงเวลา 3, 5 และ 10 ปีสูงกว่า ETF ตัวอื่น
หากดูในช่วง YTD จะเห็นว่า KXI หรือ iShares Global Consumer Staples ETF ที่มีการกระจายการลงทุนในประเทศอื่นๆ ไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่ในสหรัฐฯ มีผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งก็สอดคล้องกับความกังวลเรื่อง US Recession ของนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา
📍คำเตือน
1. ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
2. การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ผลตอบแทนนี้เป็นผลตอบแทนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นนักลงทุนไทยต้องคำนึงถึงความเสี่ยงค่าเงินด้วย
Facebook 👉 https://www.facebook.com/DekFinance101
Blockdit 👉 https://www.blockdit.com/dekfinance
LINETODAY 👉https://today.line.me/th/v2/publisher/10240
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
