10 พ.ค. 2023 เวลา 08:22 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานธรรม...เรื่อง "คนแจวเรือสันดานหยาบ"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤๅษี บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นเวลาช้านาน วันหนึ่งคิดอยากจะโปรดญาติโยม จึงเข้าไปเที่ยวภิกขาจารในเมืองพาราณสี พระราชาทรงเลื่อมใสแล้วนิมนต์ให้จำพรรษาในสวนหลวงเพื่อถวายทาน โดยพระราชาจะเสด็จไปฟังธรรมวันละครั้ง
ฤๅษีมักจะให้โอวาทเป็นประจำว่า “มหาบพิตร พระราชาไม่ควรมีอคติ 4 อย่าง เป็นผู้ไม่ประมาท สมบูรณ์ด้วยขันติ มีเมตตากรุณา ครองราชย์โดยธรรม ที่สำคัญพระองค์อย่าทรงโกรธเป็นอันขาด ไม่ว่าในสถานที่ใด จะเป็นในบ้านในป่าหรือที่ลุ่มที่ดอนก็ตาม ถ้าทำได้พระองค์จะเป็นที่รักของทวยราษฎร์ตลอดไป”
พระราชาทรงเลื่อมใสยิ่ง จึงถวายหมู่บ้านชั้นดีที่เก็บเงินส่วยภาษีได้ปีละ 100,000 กหาปณะให้ 1 ตำบล แต่ฤๅษีไม่รับเพราะถือเป็นกิเลส จนเวลาผ่านไปได้ 12 ปี
ต่อมาวันหนึ่ง ฤๅษีคิดจะเดินทางไปโปรดญาติโยมที่อื่นบ้างจึงไม่ได้เข้าเฝ้าทูลลาพระราชา เพียงบอกให้คนเฝ้าสวนหลวงไปกราบทูลให้ทรงทราบ แล้วก็ออกเดินทางไปถึงฝั่งแม่น้ำคงคา ที่ท่าเรือมี นายอาวาริย์ปิตา เป็นคนแจวเรือไปส่งคนข้ามฟากแล้วค่อยคิดเงินค่าจ้างเอาตามใจชอบ เมื่อลูกค้าไม่ให้ก็มักจะมีเรื่องทะเลาะชกต่อยและขู่เอาเงินค่าจ้างจากผู้โดยสารอยู่เป็นประจำ
ฤๅษีเมื่อไปถึงท่าเรือแล้วก็ขอใช้บริการเรือจ้างของนายอาวาริย์ปิตานั้น เขาถามขึ้นด้วยอาการเกียจคร้านว่า “ท่านจะให้ค่าจ้างเรือผมเท่าไรละ”
“โยม..อาตมาจะให้ของดีทำให้ร่ำรวยทรัพย์แก่ท่าน” ฤๅษีตอบ
เขาฟังแบบงง ๆ ว่าจะได้อะไรกันแน่ จึงพาฤๅษีข้ามฟากไป พอถึงฝั่งที่หมายแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ท่านจ่ายค่าจ้างด้วยครับ”
ฤๅษีจึงบอกของดีเป็นธรรมโอวาทว่า “โยม..ขอค่าจ้างกับคนที่ยังไม่ข้ามไปฝั่งโน้นก่อนสิ เพราะจิตใจของคนที่ข้ามฟากแล้วกับคนที่ยังไม่ได้ข้ามต่างกัน โยม.. ขอท่านจงอย่าโกรธนะ ไม่ว่าในสถานที่ใด ทั้งในบ้าน ในป่า ความร่ำรวยในทรัพย์ก็จะมีแก่โยม นี่แหละของดีนะโยม”
เขาถามว่า “สมณะ นี่หรือคือค่าจ้างเรือที่ท่านให้ผม”
ฤๅษี “ใช่แล้ว โยม”
คนแจวเรือ “ไม่ได้ ต้องเป็นเงินสิ”
ฤๅษี “โยม..นอกจากโอวาทนี้แล้ว อาตมาไม่มีอย่างอื่น”
นายอาวาริย์ปิตาโกรธมากจึงตวาดออกมาว่า “เมื่อไม่มีเงินแล้ว ลงเรือผมมาทำไม” พูดจบก็ผลักฤๅษีให้ล้มลงแล้วนั่งทับอกตบปากท่านหนึ่งที
ขณะนั้นภรรยาของเขาซึ่งกำลังท้องแก่ได้ถืออาหารมาส่ง นางจำฤๅษีได้จึงร้องห้ามสามีว่า “พี่.. ฤๅษีท่านนี้ประจำอยู่ราชสำนักนะพี่ อย่าตีท่านนะ”
เขากำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจึงลุกขึ้นตบภรรยาโดยแรง ถาดข้าวแตกกระจาย ภรรยาล้มลงกระแทกพื้นดินส่งผลให้ลูกทะลักออกมาทันที
ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นต่างมายืนมุงดูและช่วยกันจับเขามัดไว้ เพราะนึกว่าเป็นโจรฆ่าคนตาย แล้วนำตัวไปถวายพระราชา นายอาวาริย์ปิตาถูกวินิจฉัยให้จำคุกตลอดชีวิต
จากนิทานเรื่องนี้ พระพุทธองค์ได้ตรัสให้โอวาทแก่ภิกษุว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ผู้จะให้โอวาทควรให้แก่คนที่เหมาะสมไม่ควรให้แก่คนที่ไม่เหมาะสม ดังฤๅษีให้โอวาทแก่พระราชาได้หมู่บ้านชั้นดี แต่ให้โอวาทแก่คนแจวเรือจ้างกลับถูกตบปาก ฉะนั้น”
จะกล่าวสอนใครควรดูความเหมาะสม เพราะคนพาลย่อมไม่ยินดีในธรรมเป็นพาลทุกเมื่อ
โฆษณา