10 พ.ค. 2023 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ส่องอาณาจักร “LVMH”

บริษัทยุโรปแห่งแรกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 5 แสนล้านดอลล์
เมื่อพูดถึงแบรนด์เนมหรู เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง Louis Vuitton, Christian Dior, Marc Jacobs, Fendi, Kenzo, Celine แต่รู้หรือไม่ว่าแบรนด์ชื่อดังเหล่านี้มีเจ้าของเป็นคนเดียวกันทั้งนั้น และผู้บริหารบริษัทนี้ยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกคนใหม่อีกด้วย แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Elon Musk ไปแล้ว
วันนี้เราจะพาทุกคนมาส่องดูอาณาจักรในเครือ Louis Vuitton ซึ่งมีแบรนด์เนมชั้นนำของโลกมากกว่า 75 แบรนด์ ซึ่ง LVMH ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าแฟชั่น แต่ยังมีเครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง ไวน์ สุรา และธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย จะมีแบรนด์ไหนที่เราคุ้นหูบ้าง
ตามมาอ่านต่อกัน!!
LVMH Moët Hennessy • Louis Vuitton หรือ บริษัท LVMH เป็นหนึ่งใน Luxury Brand ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จดทะเบียนอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส (Euronext Paris) และล่าสุดได้ขึ้นแท่นหุ้นยุโรปตัวแรกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 5 แสนล้านดอลลาร์
โดยมี CEO คือ Bernard Arnault มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสวัย 74 ปี จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ธุรกิจแฟชั่นเริ่มมาจาก Bernard Arnault ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Financière Agache ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าแบรนด์เนม Christian Dior ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤต หลังจากนั้น Bernard Arnault ก็เดินหน้าขยายธุรกิจผ่านการทุ่มซื้อกิจการต่างๆ อีกมากมาย
ปัจจุบัน LVMH มีแบรนด์ในเครือมากถึง 75 แบรนด์ และได้แบ่งธุรกิจออกเป็น 6 ประเภท คือ
1. ไวน์และสุรา (Wine & Spirits)
2. แฟชั่นและเครื่องหนัง (Fashion & Leather Goods)
3. น้ำหอมและเครื่องสำอาง (Perfumes & Cosmetics)
4. นาฬิกาและเครื่องประดับ (Watches & Jewelry)
5. กลุ่มห้างและร้านค้าปลีก (Selective retailing)
6. ธุรกิจอื่น ๆ (Other activities)
Bernard Arnault เคยให้สัมภาษณ์กับ Time เมื่อปี 2550 ไว้ว่า “What we do in our group is the opposite of the bad effects of globalization. We produce in Italy and in France and we sell to China, when usually it’s the opposite.” เขาผลิตสินค้าในอิตาลีกับฝรั่งเศส และขายสินค้าให้กับจีน ซึ่งเขาทำตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ที่จะผลิตในจีนเพื่อส่งออกขายให้กับประเทศอื่นๆ
ดังนั้น ไม่กี่ปีมานี้เราจึงเห็นศิลปิน K-POP ศิลปินจากจีน รวมถึงประเทศอื่นในเอเชียมาเป็น Brand Ambassador เพื่อโปรโมท และใช้ศิลปินมาเป็น Influencer ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เห็นได้จากยอดขายเติบโตสูงกว่าทวีปอื่น
ในปี 2022 รายได้และกำไรของบริษัทยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้อยู่ที่ 7.92 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 2.99 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% และกำไร 1.4 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 5.32 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
นอกจากนี้รายได้ไตรมาสแรกปี 2023 ยังเพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยยอดรวม 21,035 ล้านยูโร หรือราว 7.93 แสนล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักๆ มาจากทวีปเอเชีย (ไม่นับรวมญี่ปุ่น) สูงถึง 36% รองลงมา คือ สหรัฐ ที่มีส่วนแบ่งประมาณ 23%
ติดตาม Cashury ผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ที่
โฆษณา