Blockdit Logo (Mobile)
A.S. Story
•
11 พ.ค. 2023 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์

ทำไม “ญี่ปุ่น” ถึงไม่ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรแบ่งพื้นที่ควบคุมหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษผู้ติดตามทุกคนด้วยนะครับที่ห่างหายจากการโพสต์ไปนานพอสมควร ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาผู้เขียนชีวิตค่อนข้างยุ่งเหยิงนิดหน่อย555+ ต้องขอโทษจริง ๆ ครับ
ตามหัวข้อข้างต้นเลยครับ เคยสงสัยกันมั้ยครับว่าเยอรมนีกับญี่ปุ่นก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมือนกัน ทำไมมีแค่ญี่ปุ่นที่ไม่โดนฝ่ายสัมพันธมิตรหั่นเค้กแบ่งพื้นที่ควบคุมเหมือนกับเยอรมนีที่โดนแบ่งทั้งดินแดนของตนและเมืองหลวงอย่างเบอร์ลิน แต่มีอเมริกาเพียงหนึ่งเดียวที่ได้เข้าควบคุมญี่ปุ่น
ต้องขอเท้าความอย่างนี้ก่อนครับว่าเยอรมนีเนี่ยประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่น หลังจากเยอรมนีประกาศยอมแพ้ ชาติฝ่ายสัมพันธมิตรต่างก็เข้าไปจัดการแบ่งพื้นที่ในการเข้าควบคุมดินแดนของเยอรมนี ในการแบ่งมันก็มีปัญหาต่าง ๆ มากมายนานาจิปาถะนั่นแหละครับ มากคนก็มากเรื่อง โดยเฉพาะกับโซเวียตที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์เพียงหนึ่งเดียวในชาติฝ่ายสัมพันธมิตรในเรื่องการแบ่งเมืองหลวงของเยอรมนีอย่างเบอร์ลิน เพราะเบอร์ลินมันดันไปอยู่ในพื้นที่ที่โซเวียตควบคุมอยู่
เหล่าทหารโซเวียตโบกสะบัดธงเหนืออาคารรัฐสภาในเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 1945 (ที่มา: https://ngthai.com/history/35888/sovietvictorybattleberlin/)
ตอนนั้นอเมริกาเห็นแล้วว่าการที่มีหลายชาติเข้าไปควบคุมพื้นที่เดียวกันโดยการแบ่งเนี่ย มันมีปัญหาเยอะมากก็เลยตัดสินใจว่ากับญี่ปุ่นยังไงฉันก็จะต้องเข้าควบคุมพื้นที่ทั้งหมดด้วยตัวฉันเพียงชาติเดียวเท่านั้น จากนั้นอเมริกาก็เริ่มเดินเกมตามแผนที่ตนวางไว้เพื่อเข้าควบคุมญี่ปุ่น โดยการผลักให้โซเวียตเข้าไปควบคุมดินแดนแมนจูเรียก่อนเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเองมีเวลามากพอที่จะเข้าควบคุมญี่ปุ่นทั้งหมดได้ และเหมารวมไปถึงดินแดนเกาหลีทั้งคาบสมุทรอีกด้วย
พื้นที่เยอรมนีภายหลังการแบ่งดินแดนของชาติฝ่ายสัมพันธมิตร (ที่มา: https://www.prachachat.net/d-life/news-399468)
อเมริกาตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกใส่ญี่ปุ่นเพื่อให้ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเร็วที่สุด(ตรงนี้ก็มีเกรดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับองค์จักรพรรดิของญี่ปุ่นด้วยไว้มีโอกาศจะมาเล่าให้ฟังในภายหลังนะครับ:) ) ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดำเนินไปตามแผนการที่อเมริกาได้วางไว้ ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ต่อสงครามในเวลาไม่นานหลังการโดนระเบิด อเมริกาก็รีบเข้าไปควบคุมญี่ปุ่นในทันที
กลุ่มเมฆรูปดอกเห็ดของ "ลิตเติลบอย" และ "แฟตแมน" ที่ทิ้งใส่เมืองฮิโรชิมะ(ซ้าย) และเหนือเมืองนางาซากิ (ขวา) (ที่มา: https://th.m.wikipedia.org/wiki/การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ)
แต่จุดผลิกผันที่มันผิดแผนของอเมริกามันอยู่ตรงที่โซเวียตดันเข้าควบคุมดินแดนแมนจูเรียได้ทั้งหมดเร็วกว่าที่อเมริกาคาดคิดไว้ แล้วก็เริ่มไหวตัวทันแล้วว่าโดนอเมริกาหลอกถ่วงเวลาไว้ จึงรีบเข้าไปควบคุมดินแดนเกาหลีต่อในทันที(อารมณ์แบบกูไม่ได้ญี่ปุ่นก็ขอเกาหลีละกัน อะไรประมาณนั้นครับ) อเมริกาในตอนนั้นเองก็พึ่งเข้าไปควบคุมญี่ปุ่นได้ไม่นาน อะไร ๆ ก็ยังไม่เรียบร้อยทำให้ยังไม่สามารถปล่อยมือไปจากญี่ปุ่นได้
ทหารเรือโซเวียตชูธงฉานของกองทัพเรือโซเวียตที่พอร์ตอาร์เทอร์ในวันที่ 1 ตุลาคม 1945 (ที่มา: https://th.m.wikipedia.org/wiki/การบุกครองแมนจูเรียของสหภาพโซเวียต)
แต่จะให้โซเวียตเข้าควบคุมเกาหลีทั้งหมดเลยอเมริกาเองก็ยอมไม่ได้เช่นกัน จึงยืนข้อเสนอตกลงกับโซเวียตไปว่าประมาณเอางี้มั้ยเรามาแบ่งเกาหลีกันคนละครึ่งดีกว่าใช้เส้นขนานที่ 38 เป็นตัวแบ่ง เธอเอาข้างบนไปส่วนฉันขอข้างล่างนะ ซึ่งโซเวียตเองก็โอเคกับข้อเสนอและตกลงทำตาม(เอาจริง ๆ โซเวียตไม่ทำตามที่อเมริกาเสนอมาก็ได้นะ เพราะตอนนั้นโซเวียตเองก็เข้าควบคุมดินแดนเกือบจะครึ่งคาบสมุทรละกว่าอเมริกาจะเข้ามาควบคุมเกาหลีในส่วนที่เหลือทางตอนใต้ก็ผ่านมาตั้ง 3-4 วันหลังโซเวียตเข้าควบคุมดินแดนเกาหลีครึ่งนึงเสร็จสิ้นไปแล้ว)
เส้นขนานที่ 38 แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็นสองส่วน (ที่มา: https://pantip.com/topic/35520881)
***อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ ผมคิดว่าโซเวียตอาจจะอยากใช้คาบสมุทรเกาหลีแห่งนี้เป็นเขตกันชนระหว่างโลกคอมมิวนิสต์ของตัวเองกับโลกเสรีนิยมของอเมริกาก็เป็นได้ ไหน ๆ ญี่ปุ่นก็โดนอเมริกาเข้าควบคุมไว้ทั้งหมดไปแล้วอะ ยังไงซะก็ต้องกลายเป็นโลกเสรีนิยมตามแบบที่อเมริกาวางไว้แน่ ๆ แทนที่จะเอาตัวเองไปอยู่บนความขัดแย้งแบบออกหน้าออกตา สู้หาพื้นที่กั้นไว้ละก็ปล่อยให้คนในชาติเดียวกันตีกันเองด้วยอุดมการณ์ทางเมืองที่ต่างกันดีกว่า ส่วนตัวเองก็ให้การซัพพอร์ตแทน หวยมันก็เลยมาตกอยู่กับเกาหลี
ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามาก็คือเหตุผลว่าทำไมญี่ปุ่นถึงไม่โดนแบ่งดินแดนควบคุม เพราะหวยมันลงที่เกาหลีแทนนั่นแหละครับ ญี่ปุ่นไม่โดนแบ่งแต่ไปแบ่งเกาหลีกันแทนจนความขัดแย้งมันยืดเยื้อมาถึงปัจุบัน เกาหลีเองก็ยังไม่สามารถรวมประเทศกันได้เลย ตีกันอยู่เนื่อง ๆ ตามรัฐบาลที่ขึ้นมามีอำนาจระหว่างฝ่ายอนุรักษนิยมกับฝ่ายเสรีนิยม
(รัฐบาลของเกาหลีใต้นะครับไม่ใช่เกาหลีเหนือ555+ ก็รู้ ๆ กันอยู่เนอะ แต่เอาเข้าจริงรัฐบาลพี่คิมแกก็มีการเลือกตั้งนะครับออกจะสม่ำเสมอกว่าบางประเทศแถวนี้ด้วยซ้ำ อุ๊ย!!! ไว้มีโอกาสก็จะมาเล่าให้ฟังเช่นกันครับ)
***มาถึงตรงนี้คงมีใครอีกหลายคนอาจมีความสงสัยเพิ่มว่าแล้วอังกฤษกับฝรั่งเศสพี่แกหายไปไหนอะ ทำไมไม่มาร่วมแบ่งดินแดนด้วยกัน อันนี้ก็ความเห็นส่วนตัวของผมอีกเช่นกันนะครับ
1.ทั้ง 2 ประเทศบอบช้ำกับสงครามในครั้งนี้อย่างหนัก เพราะพื้นที่ที่ใช้รบกับจริง ๆ มันอยู่ในยุโรปซะเป็นส่วนใหญ่ อเมริกากับโซเวียตที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพื่อนเลยยังมีเรี่ยวแรงตีกันอยู่ส่วนอังกฤษกับฝรั่งเศสนั้น ขอโบกมือลา Bye~ ดีกว่า
2.ดินแดนเหล่านั้นมันอยู่ไกลกับประเทศตัวเองมากกกก อย่างเยอรมนีมันยังอยู่ในยุโรปแต่กับญี่ปุ่นนี่อยู่สุดขอบเอเชียตะวันออกเลย ไกลสุดๆ เขาคงคิดแล้วละว่ามันไม่คุ้มที่จะเข้ามาควบคุม มันอยู่ใกล้กับสองชาติที่เหลือมากกว่าก็ปล่อยให้เขาไปดีกว่าไม่เหนื่อยตัวเองด้วย เพราะสำหรับโซเวียตดินแดนเหล่านี้ก็เหมือนกับเพื่อนข้างบ้าน ส่วนอเมริกาก็มีแค่มหาสมุทรคั้นไว้เท่านั้นเอง
1
3.แค่จะต้องรักษาเข้าควบคุมดินแดนที่เคยเป็นของตัวเองในเอเชียก่อนสงครามจะเกิดขึ้นก็แถบจะไม่ไว้เอาไม่อยู่อยู่แล้ว อย่างอังกฤษก็เอาแค่อินเดีย พม่า มลายู แล้วก็ฮ่องกงคืน ส่วนฝรั่งเศสเอาแค่อินโดจีนคืน แต่อย่างที่รู้กันไม่นานดินแดนต่าง ๆ เหล่านี้ก็ประกาศเอกราช หลุดมือไปจากอ้อมแขนตัวเองไปพร้อม ๆ กับการเสียสถานภาพการเป็นมหาอำนาจของโลกให้กับอเมริกาและโซเวียตไป
แผนที่ดินแดนทั้งหมดของจักรวรรดิญี่ปุ่น พื้นที่บางส่วนเคยเป็นดินแดนของอังกฤษและฝรั่งเศส (ที่มา: https://th.m.wikipedia.org/wiki/รายชื่อดินแดนที่จักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครอง)
สิ่งที่ผมนำมาเล่าในวันนี้มาจากการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ ตามความชอบความสนใจของตัวเองผสมผสานกับการคิดวิเคราะห์และการแสดงความคิดเห็นของผมเองออกมา อาจมีข้อมูลบางอย่างคาดเคลื่อนหรือไม่ตรงกับข้อมูลชุดอื่น ๆ ทางผู้เขียนขอแจ้งให้ทราบไว้ก่อนนะครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากทุกคนกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังให้กัน แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า ขอบคุณครับ:)
ภาพหน้าปก | มาโมรุ ชิเงมิตซึ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นขณะลงนามในเอกสารยอมจำนนในนามของพระจักรพรรดิ บนเรือรบมิสซูรี เมื่อวันที่ 2 กันยายน 1945 (ที่มา: https://www.silpa-mag.com/history/article_89546)
โฆษณา