11 พ.ค. 2023 เวลา 00:41 • อาหาร
ร้านอาหาร ฮาร์โมนิค

ร้านลับย่านบางรัก อิ่มท้อง เอมใจ

บางรักคือย่านเก่าแก่ที่อยู่ห่างไม่ไกลไปจากแถวบ้านผมเท่าไรนัก
อีกทั้งย่านบางรักมีตัวอาคารทางสถาปัตยกรรมที่มีประวัติศาสตร์
มาอย่างยาวนานมากกว่า 100 ปี ตึกอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่มีเรื่องราวที่รอให้เราได้ไปค้นหา ผมจึงชอบหาเวลามาเดินถ่ายรูปแถวนี้อยู่บ่อยครั้ง
ในแต่ละครั้งที่เดินตะลอนถ่ายรูป ผมก็มักจะแวะกินตามร้านอาหารที่น่าสนใจในย่านนี้ และวันนี้ผมอยากจะแนะนำร้านอาหารเก่าแก่ร้านหนึ่ง ที่ร้านเป็นตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆ อายุผ่านมากว่า 100 ปี
ตัวตึกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 34
ร้านนี้มีชื่อว่า “Harmonique”
2
หากใครเดินทางมาที่ร้าน Harmonique เป็นครั้งแรก ก็คงไม่คิดว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารเป็นแน่ และคงไม่กล้าเดินเข้ามาในร้าน เพราะทางเข้าด้านหน้ามีเพียงป้ายร้านเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าตึกแถวสีครีม ตัดขอบประตูหน้าต่างด้วยสีเขียว เมื่อมองเข้ามาก็จะเห็นของโบราณ รูปปั้นบูชาขององค์พระ และเทพเจ้าองค์ต่างๆ พร้อมต้นไทรต้นใหญ่กับบรรยากาศที่ดูมืดครึม
แต่หากเรามองเลยไปด้านหลังร้าน จะเห็นโพรงทางเดินให้ลอดเข้าไปตรงต้นไทร พร้อมกับแสงที่สาดส่องลงมายังโต๊ะอาหารที่วางตั้งอยู่
เป็นภาพที่ดูสวยงามมาก
วินาทีที่ผมเดินผ่านโพรงต้นไทรเข้ามาที่ร้านด้านหลัง มันทำให้ผมได้ฟิลเหมือนเดินทางผ่านย้อนเวลากลับไปหาอดีต ยิ่งเดินเข้าไป ก็ยิ่งอยากค้นหามากขึ้น
Harmonique คือร้านอาหารไทยที่เปิดร้านมาได้ 30 กว่าปี
โดยเอาตึกแถวเก่า 5 หลังมาสร้าง และมีห้องอาหารแบ่งเป็นโซนๆ
ได้หลายห้อง ภายในร้านจะมีของโบราณตกแต่งที่มีอายุหลายสิบปี
บ้างชิ้นก็ตกทอดมานานหลายร้อยปี ทั้งพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 ตู้ยาไม้สัก รถเข็นไม้สมัยโบราณ ภาพวาดต่างๆ คอยประดับตกแต่งสร้างบรรยากาศให้กับร้าน
2
จุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจากพี่น้อง 3 คน ที่ชอบทานอาหาร ชอบลองปรุงรสแปลกๆ กินกันเองภายในบ้าน ได้อยากลองเปิดเป็นร้านอาหารริมทาง โดยมีบรรยากาศที่ร่มรื่นเพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์เก่าแก่ของย่านนี้ขึ้นมา และคุณแจ็คที่ผมได้เจอ ก็คือ หลาน ของเจ้าของร้านทั้ง 3 คนนี้
ด้วยเพราะปัจจุบันอาโกวทั้ง 3 คนอายุมากแล้ว ทางคุณแจ็คและครอบครัวจึงได้เข้ามารับช่วงบริหารร้านนี้ต่อ สูตรอาหารและเคล็ดลับเมนูได้ถูกส่งทอดต่อกันมา และบ่อยครั้งที่อาโกวคนรองก็ยังคงลงมือทำอาหารเด็ดให้ลูกค้าได้ทานกันอยู่
1
ลูกค้าส่วนใหญ่ของที่ร้าน Harmonique จะเป็นชาวต่างชาติ อาจจะด้วยเพราะร้านตั้งอยู่ใกล้กับสถานฑูตฝรั่งเศสและโรงแรมดังหลายแห่ง ทำให้แทบทุกวันร้านจะเต็มอยู่ตลอด โดยก่อนที่จะเกิดโควิด19 ระบาด ถ้าไม่ได้โทรจองหมดสิทธิ์ที่จะได้โต๊ะ เพราะชาวต่างชาติมักจะจองล่วงหน้านานข้ามเดือน เพื่อที่จะได้ที่นั่งตรงระเบียงด้านนอก
ทางร้านมีเมนูหลากหลาย
ผมลองสั่ง กุ้งกระทะ, เนื้อปูผัดผงกระหรี่, เกี้ยวฟักทองไส้ชีท
ผักโขม มาลองทาน
และวันนี้ผมก็โชคดีอีกเช่นกันที่ทางอาโกวคนรอง
เป็นคนลงมือทำเมนูอาหารเองด้วย
ใช้เวลาไม่นานเมนูต่างๆ ก็ถูกเสิร์ฟมาให้ผมได้ทาน
เนื้อปูผัดผงกระหรี่ รสชาติไม่เข้มข้นเท่าไรอย่างที่คนไทยเราคุ้นเคย
อาจเป็นเพราะสูตรเอาใจชาวต่างชาติ แต่ต้องยอมรับในเรื่อง
ก้ามปูที่ใส่มาให้เนื้อแน่นๆ เป็นก้ามปูเป็นก้อน ชิมเข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงความสดของเนื้อปู
2
เกี้ยวฟักทองไส้ชีท ผักโขม เมนูนี้ผมสั่งมาเพราะไม่เคยกินจากที่อื่น
รสชาติอร่อยใช้ได้ และเมื่อกินกับน้ำจิ้มและผักดองที่ให้มาก็มีรสเปรี้ยว รสเผ็ด รสหวานผสมกันลงตัว
กุ้งกระทะอบเนย คือเมนูที่ผมชอบมากที่สุด กุ้งตัวใหญ่เนื้อแน่น มีความมันของเนย พร้อมกับกลิ่นกระเทียมที่หอมเตะจมูกมาก เมื่อทานเข้าไปแล้วก็สัมผัสได้ถึงความสด ความแน่นของเนื้อกุ้ง เมื่อรวมกับรสชาติของเนยกระเทียมที่ร้อนๆ แล้วกินกับข้าวสวยร้อนๆ ด้วยแล้วยิ่งลงตัวสุดๆ
2
ผมใช้เวลาไม่นานก็จัดการอาหารทั้งหมดเรียบวุธ
แล้วคุณแจ็คก็นำอาหารเมนูที่เขาอยากแนะนำมากที่สุดให้ผมได้ลอง
เมนูนี้มีชื่อว่า “ยำส้มโอ”
2
ยำส้มโอ มาในรูปแบบที่ทางร้านแกะให้ลูกค้าเลือกลูกส้มโอแล้วแกะเปลือกออกมายำให้ โดยส้มโอที่นำมาใช้จะเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งที่มีรสออกเปรี้ยวๆ หน่อย ไม่หวานมาก เพราะหากใช้พันธุ์ทองดีมีรสหวานฉ่ำ มายำกับน้ำยำแล้วรสชาติจะไปหมดมีแต่ความหวาน
ที่สำคัญที่สุดของเมนูนี้ก็คือ น้ำยำสูตรพิเศษของทางร้าน น้ำยำสูตรนี้เป็นสูตรลับที่อาโกวได้สอนถ่ายทอดมายังรุ่นคุณแจ็ค
ผมลองตักยำส้มโอขึ้นมากิน แล้วมันก็สมกับเป็นเมนูเด็ดของทางร้าน
รสชาติหวาน เผ็ด ของน้ำยำ ตัดเข้ากับความเปรี้ยวของผลส้มโอได้เป็นอย่างดี ผมกินเข้าไปแล้วรู้สึกชุ่มคอ ชื่นใจ เหมาะกับอากาศบ้านร้อนเมืองไทยมาก หากใครเดินมาเหนื่อยๆ คอแห้งสั่งเมนูนี้กินยิ่งเข้าทาง
การมานั่งทานอาหารในร้าน Harmonique นอกจากจะทำให้ผมอิ่มท้องแล้ว มันยังช่วยให้ผมอิ่มตา เอมใจ กับ บรรยากาศภายในร้านอีกด้วย
เปรียบเหมือนเป็นแหล่งโอเอซิสที่ซ่อนอยู่ใจกลางเมืองที่มีแต่ความวุ่นวาย แต่เมื่อเราก้าวข้ามผ่านม่าน ผ่านโพรงต้นไทรทางเข้าร้านเข้ามาแล้ว ความวุ่นวายนั้นก็หายไป กลายเป็นความเงียบสงบ
ความโรแมนติก ให้เราได้ย้อนเวลากลับไปหาอดีตที่ครั้งหนึ่งเราเคยใช้ชีวิตกันเรียบง่าย ใช้ชีวิตกันอย่างช้าๆ ดื่มด่ำซึมซับกับบรรยากาศรอบข้างกันได้อย่างเต็มที่
บางครั้งการทานอาหารก็ได้อะไรที่มากกว่าการอิ่มท้อง..
1
โฆษณา