11 พ.ค. 2023 เวลา 01:29 • การศึกษา

“ความคิดที่รัก”

เจ้าความคิดเอย เจ้าพากายใจข้าฯ หลงสุขหลงทุกข์ หัวเราะร้องไห้มายาวนาน เพราะข้าฯเคยหลงผิดว่าเจ้าคือข้าฯและข้าฯคือเจ้า บัดนี้ข้าฯรู้จักเจ้าแล้ว เจ้าเป็นธรรมชาติที่ปรากฎขึ้นมาตามเหตุปัจจัย ผ่านมาทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ เจ้าจึงมาเยือนอยู่เสมอๆ เจ้าเป็นธรรมชาติหนึ่ง เหมือนดังต้นไม้ใบหญ้า สายลม แสงแดดฯ
ข้าฯไม่รังเกียจเจ้าแล้วละ ยามใดที่เจ้าปรากฎตัว ข้าฯจะโอบกอดเจ้าด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อม แน่นอนเมื่อเจ้าปรากฎตัวขึ้น ข้าฯก็เห็นเจ้าพร้อมไม่ลืมว่ายังมีกายและใจข้าฯดำรงอยู่ในโลกนี้ด้วย ข้าฯไม่หลุดลอยไปกับเจ้าและไม่ผลักไสเจ้าอีกแล้ว
ข้าฯยังรู้อีกว่า “ยามใดที่ข้าฯหลงลืมตัว เจ้าก็จะเติบโต” ยามใดที่ข้าฯรู้ตัวอยู่ เจ้าก็จะเหมือนเด็กน้อยที่ไม่มีพิษภัยอันใด “เพราะอาหารของเจ้าคือความลืมตัวของข้าฯ” จึงไปยินดียินร้ายไปกับเจ้า ที่ผ่านมาข้าฯหลงเลี้ยงเจ้า บำรุงเจ้า ยึดเจ้าไว้บ้าง ผลักไสเจ้าบ้าง จนกระทั่งรังเกียจเจ้า มาบัดนี้ ข้าฯรู้จักเจ้าแล้ว เมื่อข้าฯไม่บำรุงเลี้ยงดูเจ้าด้วยความลืมตัวเหมือนเดิมแล้ว เจ้าก็จะแห้งเฉาไปเองและเจ้าก็จากไปอย่างสงบสันติ
ข้าฯยังรู้ยิ่งไปกว่านั้นอีกว่า หากข้าฯรู้ตัว ตื่นรู้มากขึ้น เจ้าก็จะมาเยือนน้อยลง หากข้าฯรู้ตัว ตื่นรู้อย่างเข้มข้นบริบูรณ์ เจ้าก็จะหนีหน้าไปเองเหมือนไม่มีเจ้าอยู่ในโลกนี้ ข้าฯจึงรู้ตัวอยู่เสมอๆ และข้าฯก็รู้แล้วว่าบ้านที่แท้จริงของข้าฯคือความรู้ตัว เป็นบ้านอันสงบสันติ
เจ้าความคิดเอย ข้าฯแจ่มแจ้งแล้ว เจ้าก็คือปรากฏการณ์ของธรรมชาติเมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมเจ้าก็ปรากฎขึ้น ข้าฯย่อมไม่สาปแช่งสายลม แสงแดดหรือฝนฟ้าเพราะความเป็นธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับเจ้า ข้าฯไม่รังเกียจเจ้าอีกเลย กลับต้องขอบคุณ ขอบคุณเจ้าจริงๆที่เจ้ามาสอนข้าฯ ให้ข้าฯเข้าใจชีวิตและพบกับสันติภาพภายในและความตื่นรู้เบิกบานแห่งดวงจิตนี้ “เขาค้อ ธรรมธารา" 2564
1
โฆษณา