12 พ.ค. 2023 เวลา 03:20

# เรื่องเล่าจากเวียดนาม #

ตอนที่ 27 การข้ามถนนในเวียดนาม
คนไทยที่มาเวียดนามทุกคนจะตื่นเต้นกับรถมอเตอร์ไซค์ที่
มีจำนวนมากกว่าบ้านเรามาก ซึ่งรวมถึงผมด้วยในช่วงแรก
กว่าผมจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกันครับ กว่า
จะชินเรียกว่าไม่ตื่นกลัวกับจำนวนที่มาก เมื่อมีความเคยชินแล้วก็เริ่มสนุกกับจำนวน เช่นตามแยกที่ไม่มีไฟแดง ผมจะเป็นคันแรกที่นำคนอื่น ซึ่งในช่วงแรกผมต้องตามคนอื่นแต่พอเริ่มชินคราวนี้แหละผมเป็นคนนำเอง บอยเคยถามว่าพี่ไม่กลัวหรอก ผมบอกว่าแรกๆก็กลัวแต่ผมชอบก้าวข้ามความกลัว เพราะถ้าก้าวข้ามไม่ได้ก็จะกลัวตลอดไป5556
คนไทยที่มาออกงานอีเว้นท์ซึ่งส่วนใหญ่จะมาออกงาน 2-3 งาน ประมาณสามสี่อาทิตย์แต่ไม่เกินหนึ่งเดือนก็ต้องบินกลับไทย ส่วนผมกับบอยจะขับรถไปแต้มที่กัมพูชาอย่างที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว มีการพูดถึงเรื่องการเดินข้ามถนนในโฮจิมินนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคิดหนักเลยครับ เพราะส่วนใหญ่จะใช้คนเวียดนามที่มาขายของให้เป็นคนไปซื้อข้าวมาให้ ผมก็พยายามจะรวบรวมความกล้าในการข้ามถนนเหมือนกัน
กว่าจะได้ก็ใช้เวลานานเกือบสองเดือน โดยมีการสอบถาม
คนเวียดนามว่าเวลาจะข้ามถนนต้องทำอย่างไร
คนเวียดนามบอกว่าเวลาจะข้ามถนนนั้นต้องคอยดูว่ามีช่องว่างระหว่างรถหรือป่าว ถ้ามีช่องว่างมากพอก็ข้ามได้เลย
แต่มีข้อแม้ว่าห้ามวิ่งแล้วเดินเรื่อยๆห้ามหยุด ส่วนรถมอเตอร์ไซค์จะแหวกหลบเราเอง ข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามวิ่ง
ห้ามหยุด คนเวียดนามย้ำชัดว่าห้ามวิ่งห้ามหยุด ผมเองไม่มั่นใจแต่ก็อยากลองดู การทำอะไรใหม่ๆย่อมมีความตื่นเต้นเป็นธรรมดาซึ่งผมก็เป็นเหมือนกันครับ กล้าๆกลัวๆ ผมก็มองหาช่องว่างระหว่างรถที่กว้างพอที่ผมจะเดินและเริ่มเดินและเดินไปเรื่อยๆไม่เร็วไม่ช้า ตื่นเต้นมากเลยครับในครั้งแรก
ตอนเดินอยู่นั้นก็ตื่นเต้นมากตาก็มองดูรถที่วิ่งมาด้วย เพื่อ
จะวิ่งหนีทัน แต่ก็คิดถึงคำพูดของคนเวียดนามว่าอย่าวิ่ง
อย่าหยุด รถมอเตอร์ไซค์เขาแหวกหลบเราเองจริงๆครับจน
เวลาผ่านไปหลายเดือน มีเพื่อนคนไทยบอกว่าเด็กๆ พี่กล้า
เดินข้ามถนนแบบหลับตาไหม ผมตอบแบบไม่อายว่าไม่กล้า
แต่อยากลองดูเหมือนกัน พูดกันไปมาสรุปว่าได้ลองทำดูแต่
อยากจะบอกให้ฟังว่าทำไมถึงกล้าทำฟังแล้วอย่าหัวเราะนะ
ตอนเลิกงานอีเว้นท์นั้นสามทุ่มรถเริ่มน้อยมากแต่ก็ยังพอมี
ก่อนจะเดินก็อย่างที่บอกต้องมองหาที่ว่างพอจะเดินได้แล้วค่อยเริ่มเดิน5556
# เรื่องเล่าจากเวียดนาม #
โฆษณา