12 พ.ค. 2023 เวลา 03:58 • ท่องเที่ยว
โฮมสเตย์บ้านแม่จันใต้

“หมู่บ้านกาแฟ หมู่บ้านแม่จันใต้”

ณ บ้านแม่จันใต้ หมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาในตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย พื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อีกทั้งยังมีอุตสาหกรรมกาแฟที่ผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตชาวอาข่าในหมู่บ้านแม่จันใต้แห่งนี้ได้อย่างน่าสนใจ
หมู่บ้านแม่จันใต้มีประชากรทั้งหมด 225 คนและมีบ้านทั้งสิ้น 40 ครัวเรือน โดยเป็นชาวชาติพันธุ์อาข่าที่อพยพมาจากสิบสองปันนาประเทศจีน เข้ามายังประเทศเมียนมาและสุดท้ายก็ข้ามมายังภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเมื่อ 43 ปีที่แล้ว อีกทั้งยังนำประเพณีและวัฒนธรรมเข้ามายังดินแดนแห่งนี้
วัฒนธรรมและความเชื่อทั้งหมดในหมู่บ้านเป็นวัฒนธรรมของชาวอาข่าที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยจะมีตั้งแต่การขอขมาธรรมชาติ เจ้าป่าเจ้าเขา เพื่อเป็นการขอให้การทำการเกษตรเป็นไปได้ด้วยดีสมบูรณ์ตลอดทั้งปี การบูชาบรรพบุรุษเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับชาวอาข่าเป็นอย่างมาก โดยทุกคนต้องรู้ชื่อบรรพบุรุษของตนและต้องเรียงลำดับสายของพ่อและสายของแม่ เพื่อเป็นการระลึกถึงพวกเขาได้ตลอดจนกว่าจะหมดลมหายใจบนโลกนี้แล้วจึงตามไปอยู่กับพวกเขาในอีกดินแดนหนึ่ง
ประเพณีโลชิงช้า
กาแฟเริ่มเข้ามามีบทบาทในหมู่บ้านแม่จันใต้ตั้งแต่ทางโครงการหลวงได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟมาให้ปลูกแทนการปลูกฝิ่น ซิ่งเป็นสารเสพติดและผิดกฎหมาย ทางรัฐจึงส่งเสริมให้ปลูกพืชเมืองหนาวแทนและหนึ่งในก็คือกาแฟ หมู่บ้านแม่จันใต้นั้นปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้า ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เก่าแก่และได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากพันธุ์อราบิก้านั้นต้องปลูกบนพื้นที่ที่สูงและอากาศเย็น จึงจะได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ
จากปัจจัยที่มีความต้องการของกาแฟในตลาดมีมากเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้คนในหมู่บ้านยึดการทำกาแฟเป็นอาชีพหลัก โดยมีการขายทั้งแบบเป็นเมล็ดสดจากต้นและแบบผ่านการคั่วเรียบร้อยแล้ว กาแฟบ้านแม่จันใต้ยังแบ่งกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟออกเป็น 3 แบบ นั่นก็คือ Honey Process , Natural Process และ Washed Process โดยแต่ละรูปแบบก็จะมีกรรมวิธีแตกต่างกันเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติกาแฟที่แตกต่างกันดังนี้
Natural Process
Natural Process เป็นการนำผลกาแฟไปตากแห้งประมาณ 15-30 วัน ทำให้เมล็ดมีรสชาติหวานเหมือนผลไม้ตากแห้งและยังมีกลิ่นคล้ายไวน์แดงอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นกรรมวิธีที่ต้นทุนไม่สูงที่ทำให้ได้คาเรกเตอร์ของกลิ่นและรสชาติดั่งเดิมมากที่สุด
Honey Process เป็นการนำผลกาแฟมาแช่น้ำแล้วคัดแยกแล้วนำมาสีเปลือกออก จากนั้นนำไปหมักจนมีเมือกและนำไปตากแห้งโดยไม่ต้องขัดเมือกออก กลิ่นและรสชาติที่ได้จะมีความหอมหวานคล้ายกับกลิ่นน้ำดอกไม้และยังมีรสชาติกึ่งกลางระหว่าง Wash Process กับ Dry Process ทำได้ให้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ของกลิ่นและรสชาติได้อย่างประทับใจ
Washed Process เป็นกระบวนการที่นำผลกาแฟมาแช่น้ำ จากนั้นทำการสีเนื้อและเปลือกกาแฟเพื่อนำเมือกที่ติดอยู่นำไปใช้ในขั้นตอนการหมัก จากนั้นนำไปหมัก 2 วันแล้วเอาเมือกออก และสุดท้ายก็นำไปตากแห้ง เป็นการสิ้นสุดกระบวนการ ส่วนกลิ่นและรสชาติที่ได้จะออกไปทางของหมักแต่มีความรู้สึกสะอาดเมื่อนำไปคั่วอ่อน
ธุรกิจกาแฟของหมู่บ้านแม่จันใต้ยังแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือวิสาหกิจชุมชนและเอกชนครัวเรือน โดยวิสาหกิจชุมชนเป็นการรวมตัวของสมาชิกในหมู่บ้านเพื่อขายผลผลิตให้กับทางรัฐหรือบริษัทที่ต้องการซื้อผลผลิต กำไรที่ได้ก็จะนำมาแบ่งให้กับสมาชิกของวิสาหกิจทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนเอกชนครัวเรือนจะเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยแต่ละแบรนด์ก็จะมีสูตรหรือวิธีการผลิตเป็นของตัวเอง แต่ละแบรนด์ยังมีลูกค้าที่เป็นของตัวเองเมื่อทำการสั่งซื้อทางผู้ผลิตก็จะเริ่มกระบวนการการผลิตและจัดคิวเพื่อที่จะใช้โรงคั่ว จึงทำให้ต้องสั่งจองกับทางแบรนด์ล่วงหน้าเท่านั้น
แบรนด์ของครับครัวหนึ่งในหมู่บ้าน
ในอีกด้านหนึ่งอุปสรรคของอุตสาหกรรมกาแฟบ้านแม่จันใต้หลักๆนั้น เป็นเรื่องการคมนาคมและสาธารณูปโภค เนื่องจากทางเข้าหมู่บ้านแม่จันใต้นั้นเป็นถนนทางลูกรังซึ่งมีความลาดชันและยังเป็นดินแดง เมื่อถึงช่วงหน้าฝนเมื่อมีฝนตกลงมาในปริมาณมากจึงทำให้ถนนผังเสียหายในบางครั้งยังมีน้ำปาไหลหลากยิ่งทำให้การจราจรเป็นอัมพาต ผู้คนในหมู่บ้านถูกตัดขาดจากหมู่บ้านอื่นและยังทำให้การขนส่งผลิตภัณฑ์กาแฟในหมู่บ้านเป็นไปอย่างยากลำบาก
การซ่อมแซมถนนเข้าไปยังหมู่บ้าน
ส่วนด้านสาธารณูปโภคนั้นหมู่บ้านแม่จันใต้ยังขาดไฟฟ้าใช้ หลายครัวเรือนได้ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อทำการผลิตกระแสไฟฟ้าไว้สำหรับการคั่วเมล็ดกาแฟในตอนช่วงกลางวันและแบ่งสำหรับไว้เป็นแสงสว่างในเวลากลางคืน แต่ถึงเช่นนั้นพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ก็มีอยู่ในประมาณที่จำกัดจึงต้องจัดสรรให้พอดี
เครื่องคั่วกาแฟ
หมู่บ้านแม่จันใต้มีความพยายามที่ต้องการให้ทางรัฐช่วยปรับปรุงถนนและการนำไฟฟ้าเข้ามายังหมู่บ้าน แต่ก็ยังไร้การตอบรับกลับมา ผู้คนในหมู่บ้านก็ได้แต่รอความหวังเพื่อทำให้พวกเขาได้รับปัจจัยพื้นฐานที่ดียิ่งขึ้น หวังว่าถ้าหากมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้งจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านแม่จันใต้และสุดท้ายอยากจะเชิญชวนทุกคนให้ได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์ วิถีชีวิตของชาวอาข่า และชมกระบวนการผลิตกาแฟของหมู่บ้านแม่จันใต้รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ติดตาม facebook ได้ที่
โฆษณา