13 พ.ค. 2023 เวลา 03:23 • สุขภาพ

“ประโยชน์ด้านสุขภาพจิตของการใช้เวลาในธรรมชาติ”

ในโลกปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว อาจทำให้รู้สึกหนักใจและเครียดได้ง่าย หลายคนหันไปพึ่งยาหรือการบำบัดเพื่อช่วยจัดการสุขภาพจิต แต่มีอีกทางเลือกหนึ่งที่มักถูกมองข้าม นั่นคือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ
การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิต หนึ่งในการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดจัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งพบว่าการเดินในธรรมชาติเพียง 20 นาทีก็สามารถลดระดับความเครียดได้อย่างมาก
แต่ทำไมธรรมชาติจึงมีผลอย่างมากต่อสุขภาพจิตของเรา? เหตุผลประการหนึ่งคือช่วยให้เราตัดขาดจากการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและความเร่งรีบและวุ่นวายในชีวิตประจำวัน เมื่อเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เราสามารถใช้ชีวิตให้ช้าลง หายใจลึกๆ และจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะ
นอกจากนี้ การอยู่ในธรรมชาติยังแสดงให้เห็นว่ามีผลในการฟื้นฟูสมองอีกด้วย ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Psychology นักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมที่ใช้เวลาในธรรมชาติมีการปรับปรุงการทำงานของความรู้ความเข้าใจและลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล
แต่ไม่ใช่แค่การเดินเล่นในสวนสาธารณะหรือเดินป่าเท่านั้น การมองธรรมชาติก็ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตได้เช่นกัน การศึกษาที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัย Exeter พบว่าผู้เข้าร่วมที่ดูภาพทิวทัศน์ธรรมชาติจะมีระดับความเครียดลดลงและมีอารมณ์เชิงบวกเพิ่มขึ้น
การผสมผสานธรรมชาติเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือใช้เวลามาก แม้แต่การนั่งข้างนอกเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวัน หรือหายใจเข้าลึกๆ สักสองสามนาทีขณะมองดูต้นไม้หรือดอกไม้ ก็สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตได้
แน่นอนว่าการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น เช่น ไปเที่ยวแคมป์หรือเดินป่า จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตมากกว่า แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการใช้เวลาในธรรมชาตินานเท่าไรก็สามารถสร้างความแตกต่างได้
โดยสรุปแล้ว
การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอาจส่งผลอย่างมากต่อสุขภาพจิต ตั้งแต่การลดระดับความเครียดไปจนถึงการปรับปรุงการทำงานของสมองและลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตมากมายจากการใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้น ใช้เวลาสองสามนาทีในแต่ละวันเพื่อออกไปข้างนอกและชื่นชมโลกธรรมชาติรอบตัวคุณ สุขภาพจิตของคุณจะขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น
โฆษณา