13 พ.ค. 2023 เวลา 03:00 • ธุรกิจ

John Deere บริษัทแทรกเตอร์ ใหญ่สุดในโลก ที่ Bill Gates ลงทุน

รู้หรือไม่ว่า รถแทรกเตอร์ ทุก ๆ 100 คันในประเทศไทย จะเป็นของแบรนด์ Kubota มากถึง 70 คัน ที่เหลือก็จะเป็นของแบรนด์อื่น ๆ เช่น New Holland และ John Deere
แต่หากเรามาดูมูลค่าบริษัทเจ้าของรถแทรกเตอร์แต่ละแบรนด์- CNH Industrial เจ้าของแบรนด์ New Holland มูลค่าบริษัท 637,000 ล้านบาท
- Kubota Corporation เจ้าของแบรนด์ Kubota มูลค่าบริษัท 644,000 ล้านบาท
อีกราย ก็จะเป็น Deere & Company เจ้าของ John Deere มีมูลค่าบริษัท 3,760,000 ล้านบาท ใหญ่เป็น 6 เท่า เมื่อเทียบกับ Kubota แถมบริษัทแห่งนี้ ก็เป็นหุ้นที่ Bill Gates มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก เข้าไปลงทุนด้วย
1
แล้วเรื่องราวของกิจการรถแทรกเตอร์ ใหญ่สุดในโลกเป็นอย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนไปเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน ช่างตีเหล็ก ที่ชื่อว่า John Deere ได้คิดค้นคันไถเหล็กขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาคันไถเดิม ที่ใช้งานได้ไม่ดีนัก ในสภาพดินเหนียว
เมื่อคิดค้นแล้วใช้งานได้ดี เขาจึงได้ทำออกมาวางขายสำเร็จในปี 1837 และจัดตั้งเป็นบริษัท John Deere เพื่อขยายกำลังการผลิต
ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Deere & Company ในปี 1868 ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันกับที่สหรัฐอเมริกาเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
เครื่องจักร และเครื่องยนต์ เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมการเกษตร
ช่วงนั้นเอง ที่รถแทรกเตอร์คันแรกของโลก ได้ถูกคิดค้นขึ้น โดยนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ชื่อว่า John Froelich
1
หลังจากนั้นไม่นาน Deere & Company ก็ได้ทำการเข้าซื้อบริษัท Waterloo Gasoline Engine Company ของนักประดิษฐ์คนนี้
จุดนี้เอง นับเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจรถแทรกเตอร์ของ Deere & Company
จากรถแทรกเตอร์รุ่นบุกเบิกในวันนั้น วันนี้บริษัท Deere & Company ได้กลายมาเป็น บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักร และอุปกรณ์ทางการเกษตร ที่มีรายได้มากถึง 1,730,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
สำหรับธุรกิจในปัจจุบันของ John Deere ก็จะมีตั้งแต่ทำการออกแบบ ผลิต ไปจนถึงขาย และกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก
2
โดยรายได้หลัก ๆ กว่า 42% ของบริษัท มาจากสินค้า กลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น รถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ และรถเกี่ยวข้าว
1
อีกประมาณ 25% มาจากรถแทรกเตอร์ขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงอุปกรณ์และรถตัดหญ้า ที่ใช้งานบนสนามหญ้าประเภทต่าง ๆ เช่น สนามกอล์ฟ
1
อีกประมาณ 24% มาจากอุปกรณ์และเครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้าง รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ขนย้ายดิน ป่าไม้ และการสร้างถนน เช่น รถดันดิน, รถตักดิน
ในขณะที่รายได้ในส่วนที่เหลือ มาจากการให้บริการทางการเงิน รวมถึงรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่า John Deere ขายดีแค่ไหน หากเทียบกับคู่แข่ง ?
โดยในปี 2021 หากเทียบส่วนแบ่งการตลาดรถแทรกเตอร์ ในสหรัฐอเมริกา
John Deere มีส่วนแบ่งการตลาด เกินกว่าครึ่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ราว 53%
สำหรับตลาดทั่วโลกนั้น ส่วนแบ่งการตลาดไม่ได้มากเท่ากับในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงกว่า ในหลาย ๆ พื้นที่ เช่น รถแทรกเตอร์แบรนด์ Mahindra ที่ครองตลาดใหญ่อย่างอินเดีย หรือ Kubota ที่ครองตลาดหลาย ๆ ประเทศ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย
สรุป ส่วนแบ่งการตลาดรถแทรกเตอร์บนโลกในปัจจุบัน
- John Deere มีส่วนแบ่งอยู่ที่ประมาณ 9.5%- CNH Industrial เจ้าของรถแทรกเตอร์ New Holland มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 7.6%- Mahindra มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 6.5%
1
เราลองมาดูผลประกอบการ ในช่วงที่ผ่านมาของ Deere & Company กัน
1
- ปี 2020 รายได้ 1,210,000 ล้านบาท กำไร 94,000 ล้านบาท
- ปี 2021 รายได้ 1,500,000 ล้านบาท กำไร 203,000 ล้านบาท
- ปี 2022 รายได้ 1,730,000 ล้านบาท กำไร 243,000 ล้านบาท
รายได้ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 19.6% ต่อปี กำไร คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยมากถึง 60.8% ต่อปี
โดยการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก วัฏจักรของธุรกิจในกลุ่มนี้ ที่มักจะขึ้นอยู่กับราคาของผลผลิตทางการเกษตร อย่างเช่น ฝ้าย, ข้าวสาลี, ข้าวโพด ซึ่งราคาของผลผลิตเหล่านี้ อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2020
2
หากเราลองมาดูผลประกอบการของเหล่าบริษัทคู่แข่งอย่าง Kubota, CNH Industrial ก็จะเห็นว่ามีลักษณะไปในทิศทางที่คล้ายกัน
สรุปแล้ว รถแทรกเตอร์ John Deere ก็เป็นอีกธุรกิจ ที่เริ่มต้นมาจากการแก้ปัญหาเล็ก ๆ คือ ประดิษฐ์คันไถเหล็ก เพื่อรับมือกับสภาพดินเหนียว
1
ก่อนที่จะขยายกิจการ และเลือกเข้าซื้อกิจการที่มองว่าสามารถสร้างการเติบโตให้บริษัทต่อไปได้
ปัจจุบัน Deere & Company ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 186 ปี มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,760,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นกิจการรถแทรกเตอร์ที่ใหญ่สุดในโลก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า Bill Gates มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก ผู้ก่อตั้ง Microsoft ก็ลงทุนในบริษัทแห่งนี้ด้วย
โดยพบว่าเขาถือหุ้นใน Deere & Company ราว 6.5% คิดเป็นมูลค่า มากถึง 252,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
ใครอยากมีความรู้เรื่องตลาดหุ้น ลงทุนแมนแนะนำ หนังสือ BLACK SWAN เล่มนี้ ราคา 380 บาท ที่เล่าถึงความล้มเหลวก่อนที่จะสำเร็จของนักลงทุนในตำนาน 12 คน สามารถสั่งซื้อ ได้ที่
1
โฆษณา