13 พ.ค. 2023 เวลา 06:08 • ความคิดเห็น
เวลาที่จิตออกจากร่าง เค้าเรียก จิตที่ไม่มีกาย ไม่มีที่อาศัย กายมนุษย์กายสัตว์ เหลือแต่จิต ..ที่เร่ร่อน เค้าเรียก ว่าจิตวิญญาณ บ้างก็เรื่องโอปปาติตกะ เป็นลักษณะเป็นสายของวิญญาณ บ้างก็เป็นดวงเล็กๆ ล่องลอยไปมา ที่ไหนมีการทำบุญ ก็ล่องลอยไป อยากจะได้บุญกุศล การรักจิตวิญญาณตัวเราเอง หมายถึง จิตของเรามาอาศัยกายนี้ แล้วต้องเคลื่อนจากกายนี้ไป ออกจากกายนี้
เค้าจึงบอกว่าให้รักจิตวิญญาณของตัวเราเอง ..กายนี้ ..เป็นสถานที่ ที่อาศัยสะสมกรรม หรือ สะสมบุญกุศลบารมี สิ่งเหล่านี้จะติดตามไปกับจิต ..จิตที่มีการบันทึกกรรมดีชั่ว วิญญาณดีชั่ว ไปกับจิต ..สิ่งนั่นจะปรากฏนำทางให้แก่จิต ไปสถิตย์สถานที่สุขหรือทุกข์ ก็อยู่ที่เราใช้กายวาจาใจ ดีชั่วอย่างไร เอาไปทำอะไร ทำเป็นกรรมก็ได้กรรมจิตก็ได้กรรม ทำให้เป็นบุญกุศลจิตบุญกุศล นำทางให้แก่จิตเมื่อไม่มีกาย
แล้วเมื่อถึงเวลาที่จิตออกจากร่าง เหลือแต่คำว่า จิต ..จิตวิญญาณ ..ใครก็ช่วยกันไม่ได้เลย ..มันไม่มีกายให้ใช้แล้ว ช่วยเหลือกันไม่ได้แล้ว .ไปแต่จิตดวงเดียว ..เหลือแต่จิตวิญญาณเป็นสภาพนามธรรม ..ธาตุทั้งสี่ที่จิตนี้ใช้ทำอะไร บุญกรรมจะนำพาไป ไปประกอบในสถานที่ทุกข์หรือสุข ที่เค้าว่า นรก สัตว์อบายภูมิ หรือ เทพยดาอินทร์พรหม ธาตุทั้งสี่จะไปประกอบขึ้นมาดึงจิตดวงนั้นที่ไปอาศัย..ด้วยกรรมที่ตนกระทำ ..
โฆษณา