14 พ.ค. 2023 เวลา 03:39 • หนังสือ

✴️ บทที่ 5️⃣ เป็นอิสระด้วยการละวางภายใน ✴️ (ตอนที่ 7)

🍀 วิถีสู่อิสรภาพตามหลักแห่งคีตา : ภาวนาถึงพระเจ้า และ ประกอบการงานอย่างไร้ความอยาก 🍀
⚜️ โศลกที่ 🔟 ⚜️ หน้า 581—583
โศลกที่ 🔟
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
เช่นเดียวกับใบบัวที่ไม่เปื้อนน้ำ โยคีผู้ทำหน้าที่อย่างไม่ยึดมั่นและถวายการกระทำนั้นแด่พรหมันย่อมพ้นจากผัสสอินทรีย์ที่พัวพัน
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ใบบัวลอยอยู่ในน้ำแต่น้ำไม่อาจซึมผ่าน สภาพแวดล้อมไม่อาจทำให้ใบบัวแปดเปื้อนฉันใด โยคีผู้หลุดพ้นย่อมอยู่ในโลกของผัสสะมายาอย่างไม่แปดเปื้อนฉันนั้น
คนที่ตื่นเต้นง่ายจะเกิดอารมณ์ร่วมเมื่อได้ชมภาพยนตร์โศกเศร้าเคล้าน้ำตา แต่ผู้ที่มีจิตใจสงบจะไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งที่เห็น ทำนองเดียวกัน เมื่อปุถุชนเห็นสิ่งดีสิ่งชั่วในภาพยนตร์ชีวิต เขาจะเกิดอาการวุ่นวายไปด้วย แต่โยคีนั้นตรงกันข้าม ท่านไม่สะดุ้งสะเทือน นมไม่อาจลอยในน้ำ แต่เนยแข็งลอยน้ำได้ จิตที่ไหวไปกับความทุกข์และแรงกระตุ้นของผัสสะจะปนเปแปดเปื้อนไปกับน้ำพิษของสิ่งแวดล้อมที่ชั่วร้าย ผู้ภักดีที่หยั่งรู้ตนได้เร็วก็เช่นเดียวกับเนยแข็ง สามารถลอยอยู่ในน้ำพิษแห่งมายาได้อย่างง่ายดาย ไร้มลทินแปดเปื้อน
.
◾ถวายการบูชาแด่บรมวิญญาณอย่างแท้จริง : ถอนปราณผ่านพรหมนาฑี◾
โศลกนี้ยังมีความหมายลึกซึ้งซึ่งโยคีผู้ก้าวหน้าเข้าใจได้ ข้าพเจ้าจะอธิบายอย่างง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่ออ่านด้วยญาณหยั่งเห็น บทสนทนาในคีตาจะกลายเป็นการนำเสนอโยคะศาสตร์ไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อโยคีที่ปีติอยู่ในสมาธิ ถอนพลังชีวิตจากจากเซลล์สามล้านล้านเซลล์ในระบบประสาท ท่านจะเห็นกระแสปราณเหมือนลำธารเล็ก ๆ ไหลกลับจากฝั่งเนื้อหนังผ่านช่องทางน้อย ๆ นับไม่ถ้วน เข้าสู่ช่องทางใหญ่ในไขสันหลัง จากนั้นทุกกระแสในกายที่ถอนเข้าสู่ไขสันหลัง จะไหลผ่านนาฑี (ช่องทางเดินของปราณ) ที่เรืองรองทั้งสาม ในไขสันหลังทิพย์ (สุษุมนา วัชระ และจิตระ)
เมื่อผ่านเข้าไปถึงช่องในสุด มันจะรวมกันเป็นกระแสเดียวคือ พรหมนาฑี หรือ “ไขสันหลัง” ของกายเหตุ★ ที่เรียกว่า พรหมนาฑี เพราะนี่เป็นช่องทางหลักที่พรหมันหรือ บรมวิญญาณในฐานะ วิญญาณ ชีวิต และจิต เข้าสู่กาย และเป็นช่องทางที่โยคีขึ้นสู่บรมวิญญาณ
★ท่อทิพย์นี้ประกอบด้วยปราณอันประณีต หรือ “ประจุพลังชีพ” — โปรตรอนกับอิเล็กตรอนรวมกัน เป็นปราณ พรหมนาฑีเหตุ ซึ่งเป็นช่องทางของ “ประจุพลังคิด” หรือจิตสั่นสะเทือนที่ละเอียดยิ่ง ขึ้นไปอีก — ซึ่งแบบแผนจักรวาลและมนุษย์ถูกประทับไว้ใน “ประจุพลังคิด” นี้ (อ่านหน้า 60-62)
บรมวิญญาณหรือพรหมันลงมาเป็นวิญญาณในมนุษย์โดยผ่านพรหมนาฑี จากนั้นผ่านเข้าไปทางท่อทิพย์ทั้งสาม แล้วไหลไปสู่ช่องทางที่หยาบขึ้น นั่นคือประสาทและเซลล์ของกายหยาบ โยคีผู้ก้าวหน้าที่ถอนกิจกรรมทั้งหลายของปราณและกระบวนการทางจิตกลับสู่พรหมนาฑี ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นบุคคลผู้ “ถวายการกระทําทั้งหลายบูชาบรมภาวะ” เพราะบรมวิญญาณหรือจิตจักรวาลอยู่ในพรหมนาฑี
เมื่อโยคีถอนปราณและกระบวนการทางจิตผ่านพรหมนาทฑี ท่านจะเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์แห่งพระเจ้าด้วยญาณทิพย์ ท่านได้รับการเตือนว่าอย่าไปยึดอยู่กับสิ่งที่เห็น (เพราะการยึดจะทำให้ท่านวกกลับมาสู่กายอินทรีย์) ปล่อยให้ปรากฏการณ์เหล่านั้นผ่านไป จนท่านเข้าใจแจ้งถึงแก่นแท้แห่งจักรวาลอันประเสริฐ
โยคีผู้ก้าวหน้านําอหังการ ปราณ และกระบวนการทางจิตผ่านพรหมนาฑี “ไขสันหลัง” เหตุ เข้าสู่ช่องเปิด (พรหมรันธร) บนกระหม่อม เพื่อให้อหังการที่ปรับเปลี่ยนแล้ว (วิญญาณ) ปราณ และจิต ผ่านพ้นไปจากกรงกายอันจำกัด ไปรวมกับพรประเสริฐอันดำรงอยู่ทุกที่ทุกกาล
เมื่อโยคีสามารถรวมวิญญาณของท่านกับบรมภาวะได้เช่นนี้ กรรมในอดีตทั้งหลายของท่านจะสลายไปสิ้น ท่านเป็นผู้ที่พ้นแล้วจากเนื้อหนัง เมื่อท่านเผากรรมในอดีตทั้งหลายในไฟบรมสุข (สวิกัลปสมาธิ) ท่านจะเห็นพระเจ้าผู้ทรงพ้นแล้วจากการสร้างสรรค์ แล้วท่านก็ได้เรียนรู้ในมหาปีติ (นิรวิกัลปสมาธิ) ที่จะสำแดงจิตแห่งพระเจ้าในกายเนื้อของท่าน ด้วยการกระทําการงานทั้งหลาย อย่างไม่ให้ผลดีผลชั่วของมันมาพัวพันท่านได้
ในภาวะอันเลิศประเสริฐนี้ โยคีเห็นพระเจ้า เห็นการสร้างสรรค์ และการรับรู้กาย ว่าดำรงอยู่และทำงานด้วยกันอย่างกลมกลืน (ดังที่อธิบายไว้ในบทที่ 5:8-9) เมื่อนั้นแล้วโยคีจึงทํากิจกรรมกายและจิตทั้งหลายอย่างไม่ยึดมั่น เห็นทุกสิ่งเสมอกัน ว่าล้วนเป็นคลื่นจิตจักรวาล
บุคคลที่ถูกคลื่นมหาสมุทรซัดพัดพาไป ไม่อาจเห็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลได้ทั้งหมด แต่ถ้าเขาออกมาจากคลื่น ยืนอยู่บนฝั่ง เขาจะเห็นมหาสมุทรกว้างใหญ่โดยไม่เพ่งอยู่ที่คลื่นเล็ก ๆ โยคีที่ถอนตนจากคลื่นชีวิต ยืนมองไปจากฝั่ง มหาสมุทรจิตจักรวาล ก็ย่อมไม่เห็นคลื่นการสร้างสรรค์ (สวิกัลปสมาธิ) เช่นกัน
เช่นเดียวกับบุคคลบนชายฝั่งเห็นมหาสมุทรว่าเป็นน่านน้ำอันกว้างใหญ่ จากนั้นจึงเห็นคลื่นพร้อม ๆ กับเห็นมหาสมุทรไปด้วย โยคีก็เช่นกัน หลังจากเห็นทะเลจิตจักรวาลไร้คลื่นแห่งการสร้างสรรค์แล้ว ท่านสามารถทําให้สหัชญาณล้ำลึกยิ่งขึ้น จนเห็นมหาสมุทรจิตจักรวาลกับเห็นคลื่นแห่งการสร้างสรรค์ไปพร้อม ๆ กันได้ (นิรวิกัลปสมาธิ หรือสมาธิขั้นสูงสุด)
(((มีต่อ)))

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา