14 พ.ค. 2023 เวลา 05:56 • การเมือง

ทำไมการเลือกตั้งทั่วไป "เลือกพรรค" สำคัญกว่า "เลือกคน"

ผมไปเลือกตั้งมาเรียบร้อยแล้วครับทุกคน ดีใจมาก ที่ได้ใช้สิทธิ์พลเมืองชาวไทย
5
การเลือกตั้งในวันนี้ มันมีชื่อว่า "การเลือกตั้งทั่วไป" เป็นการเลือก ส.ส. ครับ ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย
เราต้องเข้าใจก่อนว่า ตำแหน่ง ส.ส. หน้าที่หลักคือการ "ออกกฎหมาย"
ส.ส. ไมได้ทำหน้าที่ ดูแลท้องถิ่น เช่น ซ่อมไฟฟ้า, ประปา, ซ่อมถนน, กำจัดขยะ เพราะนั่นมันหน้าที่ของ อบต. และ อบจ. ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากว่า
2
แต่ ส.ส. จะทำหน้าที่นิติบัญญัติ นั่นคือ เวลามีกฎหมาย 1 ฉบับ ที่ถูกเสนอเพื่อบังคับใช้ทั้งประเทศ พวกเขาจะเป็นคนพิจารณาว่าให้ ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน
4
เราเลือก ส.ส. ไม่ใช่ให้มาดูแลภาพเล็กของท้องถิ่น แต่เพื่อให้ดูแลภาพใหญ่ในการออกกฎหมายระดับประเทศครับ
3
ดังนั้นเวลาเลือกตั้ง ส.ส. ขั้นแรกเลย เราต้องถามตัวเองก่อนว่า มีกฎหมายฉบับไหนบ้าง ที่ใจของเราอยากผลักดันให้มันเกิดขึ้นจริงๆ (หรือไม่อยากให้เกิดขึ้น) จากนั้นก็ไปดูนโยบายว่า มีพรรคไหนที่สัญญาประชาคม ว่าจะทำสิ่งนั้นหรือไม่
1
สำหรับผมเอง มี 2 เรื่องที่ผมให้ความสำคัญที่สุด คือ 1) อากาศสะอาด ผมอยากกำจัด PM 2.5 ให้ได้ คือทนไม่ได้ ที่ต้องเห็นเด็กๆ เจอมลพิษ และ 2) เรื่องการรับโรฮิงญาเข้าเมือง ถ้าพรรคไหนมีนโยบายส่งเสริมการรับโรฮิงญาอย่างอิสระ ผมไม่เลือก
12
แต่ละคนก็จะมีนโยบายที่รู้สึก Touch ในใจของตัวเอง บางคนสนใจเรื่องสุราก้าวหน้า, บางคนสนใจเรื่องการแก้-ไม่แก้ 112, บางคนสนใจเรื่องสมรสเท่าเทียม ดังนั้นเราก็เลือกพรรคที่จะผลักดันความต้องการของเราให้เป็นจริงครับ
8
ในสเต็ปต่อมา ถามว่า ส.ส. เกี่ยวกับท้องถิ่นหรือไม่ ทำไมเวลาหาเสียง ต้องไปงานศพ งานบวช แล้วก็สัญญาว่า จะทำงานเพื่อคนท้องที่
4
คือ การเลือกตั้งนั้น มันไม่ได้มีแค่ "เหตุผล" แต่มีเรื่อง "ความรู้สึก" ด้วย เพราะเวลาเราชอบใครเป็นพิเศษเราก็อยากกากบาทให้คนนั้น ต่อให้ไม่อยู่พรรคที่เราชอบก็ตาม เราอาจคิดว่า เออ ถ้าจะเลือกพรรคก็เลือกแบบปาร์ตี้ลิสต์ไง ส่วนส.ส.แบบแบ่งเขตก็เอาคนที่เราชอบสิ บางคนจะคิดแบบนั้นก็ได้
1
นอกจากนั้น เราก็อยากได้ ส.ส. สักคน ที่แคร์ท้องถิ่น และเป็นปากเป็นเสียงให้เราได้จริงๆ เช่น เวลาส่วนกลางจะออกกฎหมายอะไรสักอย่างที่จะมีผลกระทบต่อคนในพื้นที่ เราต้องมั่นใจว่า ส.ส. ของเรา จะ Fight เพื่อเราอย่างสุดชีวิต
ผมเข้าใจได้ ที่บางคนจะเลือก "คน" แต่สำหรับตัวผมแล้วการเลือก "พรรค" สำคัญกว่า
2
คือลองคิดดูนะครับ ว่าต่อให้เราชอบ "คน" แค่ไหน แต่ในเมื่อเขาลงสมัครในนามพรรค เวลาพรรคโหวตอะไร เขาก็ต้องโหวตตามนั้นอยู่แล้ว เขาไม่สวนกระแสพรรคหรอก
5
การเลือก ส.ส. คือการเลือกตั้งภาพใหญ่ ที่จะกำหนดทิศทางของประเทศ ดังนั้นผมจึงใช้วิธีว่า "พรรคเลือกคน คนเลือกพรรค"
4
ทางพรรคจะเลือกคนมาให้เราแล้ว คัดกรองคนที่ดีที่สุด จากนั้นเราก็เลือกคนที่มาจากพรรคนั้นได้เลยครับ
ตอนนี้ผมกากบาทไปแล้ว จากนี้ไปก็จะรอการเปิดหีบนับคะแนน เพื่อดูว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร มีหลายประเด็นที่ผมอยากรู้ครับ
1
- พรรคก้าวไกล ที่มีคนติดตามสูงสุดในโลกออนไลน์ จะแปรเปลี่ยนมาเป็นคะแนนเสียงได้จริงๆ หรือไม่
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยหรือไม่ อยู่ที่คะแนนเสียง ถ้าก้าวไกลไปไม่ถึง 80 (น้อยกว่าอนาคตใหม่คราวที่แล้ว) ก็น่าจะเลิกหวังได้
2
- พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศจะแลนด์สไลด์ จะไปถึงฝันได้ไหม หลายคนบอกว่า อย่าประมาทพลังของ "บ้านใหญ่"
- พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ใครจะได้คะแนนเสียงมากกว่า ประวิตร หรือ ประยุทธ์ ใครดูดีกว่าในสายตาของฝั่งอนุรักษ์นิยม
2
- นี่คือการต่อสู้กันของ Generation น่าสนใจว่า พลังเงียบจากคนยุค Boomer อาจเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงเยอะกว่าที่คาดก็ได้ เหมือนเลือกตั้งคราวที่แล้ว ใครจะไปคิดว่า พลังประชารัฐจะได้คะแนนมากขนาดนั้น
1
- ประชาธิปัตย์ สูญพันธุ์ในกทม. ไปแล้ว และกับภาคใต้ที่เป็นฐานที่มั่นล่ะ จะยังคงยึดครองได้อยู่ไหม คนใต้ยังเอาประชาธิปัตย์อีกหรือ กับพรรคที่ไม่มีบทบาททางการเมืองเลยในสังคมไทยตอนนี้
6
- น.ต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย เป็นคนที่ไปดีเบทให้พรรคมากที่สุด (12 ครั้ง) ทำงานหนักมาก แต่อยู่อันดับ 5 ของปาร์ตี้ลิสต์พรรค ต้องมาลุ้นกันว่าจะไปถึงหรือไม่ ส่วนตัวผมว่าไม่ถึง และสงสัยมากว่า น.ต.ศิธา เป็น Face ของพรรคขนาดนี้ ควรจะอยู่ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 2 หรือ 3 ด้วยซ้ำ
7
- บรรดาพรรคเล็ก อย่างไทยศรีวิไลย์ ของ ส.ส.เต้-มงคลกิตต์ ที่ได้ปัดเศษ จนมี 1 เสียงในสภา คราวนี้จะยังดีพอ ที่จะได้ 1 เสียงในปาร์ตี้ลิสต์อีกหรือไม่
4
- พรรคภูมิใจไทย กวาด ส.ส. ของจังหวัดบุรีรัมย์ไปครบ 8 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว มาคราวนี้พวกเขาจะโดนเจาะบ้างหรือไม่ สักเขตสองเขตต้องมาลุ้นกัน
1
- จังหวัดสมุทรปรการ ที่เคยเป็นฐานที่มั่นของตระกูลอัศวเหม จะยังเป็นแบบนั้นอยู่ไหม สมุทรปราการอยู่ติดกรุงเทพ และกระแสคนกรุงเทพคือ ก้าวไกล-เพื่อไทย ดังนั้นคราวนี้ ทิศทางการเลือกของคนสมุทรปราการ จะยังเป็นอัศวเหม และพลังประชารัฐหรือเปล่า ก็ต้องมารอดูกัน
2
มีหลายสตอรี่ที่น่าจับตามองมาก ทั้งแบ่งเขต และปาร์ตี้ลิสต์ครับ นี่จะเป็นหนึ่งวันอันยาวนานมากๆ ที่จะบอกให้เรารู้ว่า ทิศทางของประเทศเราจะเป็นอย่างไร
1
พรรคก้าวไกล จะพูดเสมอว่า "สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมาถึงแล้ว" แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าพวกเขาไม่ได้คะแนนเสียงมากพอ ถ้าสุดท้ายคนส่วนใหญ่ในประเทศยังพอใจแบบเดิม มันก็ต้องรอกันต่อไปก่อน
บอกตรงๆ คือผมตื่นเต้นมากๆ กับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ที่ลุ้นกว่าคือการทำงานของ กกต. กลัวใจจริงๆ ว่าจะเล่นอะไรไม่ซื่อหรือเปล่า ถ้าแพ้-ชนะ แบบบริสุทธิ์ทุกคนยอมรับได้ แต่ถ้ามีลูกเล่นล่ะก็ สังคมเดือดแน่ๆ
8
ไปใช้สิทธิ์กันนะครับ แล้วประเทศไทยจะมีโฉมหน้าไปในทิศทางไหน เราจะรู้กันเลยในค่ำคืนนี้ครับ
โฆษณา