Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Lesson
•
ติดตาม
17 พ.ค. 2023 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
ญี่ปุ่น ตอน 3 จากผู้แพ้สงคราม สู่เจ้าแห่งโลกอิเล็กทรอนิกส์
หลังจากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ญี่ปุ่นไม่เคยนิ่งเฉยกับการพัฒนาประเทศ ยังคงใช้แนวคิด ‘ล้มแปดครั้ง ต้องลุกขึ้นเก้าครั้ง’
ปี 1945 หลังสหรัฐฯทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมะ และนางาซากิ 6 วัน จักรพรรดิ Hirohito ได้ออกพระสุรเสียงผ่านทางวิทยุเผยแพร่จุดยืนของญี่ปุ่นว่ายอมแพ้สงครามโดยไม่มีเงื่อนไข
ปี 1945-1952 สหรัฐฯเข้าไปคุมญี่ปุ่น มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และมีข้อกำหนดว่าจะมีกองทัพไม่ได้ มีได้แค่กองกำลังปกป้องตนเองความต่าง คือ ไม่สามารถใช้กำลังทหารนอกอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นได้
ยุบ Zaibatzu เพื่อตัดเส้นเลือดทางการเงินในการทำสงครามด้วยการให้แตกย่อยบริษัท แล้วปรับโครงสร้างภายใน
เปลี่ยนเป็นระบบ Keiretsu เครือข่ายพันธมิตรที่ทำธุรกิจร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมรายใหญ่กับบริษัทใหม่รายย่อย
เงินก้อนแรกที่ญี่ปุ่นได้มาคล้ายๆ กับ Marshall Plan (แผนงานฟื้นฟูยุโรป) ในสมัยประธานาธิบดี Harry S. Truman
สิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นทำ คือ เอาโครงสร้างพื้นฐานอย่าง รถไฟ โรงไฟฟ้า ถนน ขนส่งกลับมา
ในกรอบเวลาเดียวกันนั้น สหรัฐฯ เริ่มทำสงครามเย็น สมรภูมิแรกคือ สงครามเกาหลี สหรัฐคิดแล้วว่า น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้ เลยใช้ญี่ปุ่นเป็นฐาน เอากำลังพลมาลง แล้วก็ใช้ญี่ปุ่นซึ่งมีพื้นฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ในเรื่องยุทธภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาวุธ เช่น รถบรรทุก รถลำเลียง
ญี่ปุ่นเลยกลายเป็นซัปพลายเออร์ให้กองทัพสหรัฐ และได้เงิน มาค่อยๆฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น
ญี่ปุ่นเริ่มต้นพัฒนาผ่านการผสมผสานวัฒนธรรมจากตะวันตกเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การศึกษา พลังงาน
เริ่มจากทรัพยากรมนุษย์แต่ก่อนเจอเรียกว่า “ยุ่น” เพราะตัวเล็ก ญี่ปุ่นคิดว่าเพราะอะไร ฝรั่งตัวใหญ่เลยมาบุก อุตสาหกรรมอาหาร นำเอาวัวเจอร์ซี่ไปเพาะพันธุ์ เพราะมองว่า ตัวเองจะกินแค่ข้าวกับปลาไม่ได้ ต้องกินเนื้อ ดื่มนม
ด้านพลังงาน หลังสงครามโลก ทั่วโลกมีการใช้พลังงานมหาศาล แต่ญี่ปุ่นเป็น Net Importer คือ ผู้นำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ 100% ทั้งพลังงานไฟฟ้า และน้ำมัน
ปี 1953 Dwight D.Eisenhower ได้ประกาศนโยบาย Atoms For Peace พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ เลยให้ประเทศพันธมิตร เอาสารกัมมันตรังสี มาเผาเพื่อใช้เป็นไฟฟ้า ตอนนั้นทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย ก็เอาด้วย รวมทั้งญี่ปุ่น เพราะรู้ว่าประเทศจะไปต่อได้ ต้องมีพลังงาน เลยสร้างโรงงานปฏิกรณ์ปรมาณูขึ้นมา และมีความมั่นคงทางพลังงาน
ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศแรกๆ ที่นำเข้า LNG ก๊าซธรรมชาติที่ถูกแปรสภานะจากก๊าซให้กลายเป็นของเหลว เรียกได้ว่าจบสงครามโลก 1945-1955 เป็นช่วงฟื้นตัวพอ 1955-1965 เป็นช่วงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จีดีพี โตปีละ 10%
ตอนนั้นญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การนำของ Hayato Ikeda เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจเสรีอุตสาหกรรมเดิมในญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัว และ Hayato Ikeda ยังผลักดันให้ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 1964
อุตสาหกรรมที่ผลักดันให้ญี่ปุ่นเติบโต คือ อุตสาหรรมรถยนต์ และ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
อุตสาหรรมรถยนต์ ญี่ปุ่นมีรากฐานดีอยู่แล้ว
Kawasaki Heavy Industries เคยสร้างเรือรบMitsubishi Heavy Industries เคยสร้างเรือรบ เครื่องบินรบ
เพราะฉะนั้น พอจะมาทำรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ไม่ใช่เรื่องยาก ที่สำคัญ ไม่ได้ค้าขายแค่ในประเทศ เกิดกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น หรือ METI (Ministry of Economy, Trade and Industry) เพื่อไปบุกต่างประเทศ
ในตอนที่อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังโต ด้วยนโยบายการค้าเสรี ทำให้มีค่ายรถจากต่างชาติเข้ามา ดูเหมือนเป็นภัยคุกคาม แต่เป็นตัวที่ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นยิ่งโต เพราะต้องพัฒนาตัวเองอย่างหนัก
เทียบกับเกาหลี ยุค 90 เขาปิดประเทศไม่ให้รถต่างชาติเข้า คนเกาหลีต้องขับรถเกาหลี แต่ญี่ปุ่นทำตรงข้าม บางคนเรียกนโยบาย “โยนปลาฉลามเข้าไปในบ่อน้ำ”
ทั้งหมดเพราะทัศนคติของญี่ปุ่น คือ เราต้องไม่กลัวใคร ถ้าถูกกดดัน ต้องยิ่งทำให้ดีขึ้น
ในฝั่งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีคำกล่าวว่า ญี่ปุ่นยุคแรกคือ Survival ต่อมาคือ Recreation
เริ่มจาก Nintendo เกิดในปี 1889 สมัยรัชกาลที่ 5เกิดมาตอนแรกพิมพ์ไพ่ญี่ปุ่นที่เรียกว่า Hanafuda cards ทำไมทำมา รัฐบาลเมจิแบนการเล่นไพ่ญี่ปุ่น เลยไปทำไพ่ป็อก ไพ่ฝรั่ง
จบสงครามโลก ยังทำไพ่ป็อก แต่เริ่มได้รับอิทธิพลจากสหรัฐฯ เลยซื้อลิขสิทธิ์ Walt Disney มาใส่ในไพ่ Nintendo ต่อมาทำ Handheld Game Console มี 3 เกม เช่น เกมปลาหมึก เกม Popeye และเกม Mickey Mouse หลังจากนั้นทำเกมบอย
อีกบริษัทคือ Sony เริ่มจากร้านทำวิทยุ ต่อมาประดิษฐ์วิทยุทรานซิสเตอร์ จนโด่งดังตอนหลังทำ Tape Recorder จนปี 1979 ทำ Walkman ขายไป 358 ล้านเครื่องนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ยุคนั้น คิดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องนึกถึงญี่ปุ่น
หลังจากนั้น เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงเติบโตต่อเนื่อง1965-1975 จีดีพีโตปีละ 8%1975-1985 จีดีพีโตปีละ 6%
ในเวลานั้นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ3 รองจากสหรัฐและสหภาพโซเวียต
ใครจะคิดว่าจากประเทศที่พ่ายแพ้สงครามยับเยินกลายเป็นกลับมายืนได้ภายใน 30 ปี ซึ่งพลังสำคัญมากจาก Human Ware ที่มีหลักคิด คือ Kodawari หรือ ความแน่วแน่ในการทำสิ่งบางอย่างให้ออกมาดีที่สุดนั่นเอง
ที่มา : Global Economic Background EP.29
ประวัติศาสตร์
ญี่ปุ่น
เศรษฐกิจ
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย