พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคารพผลการเลือกตั้งและจะทำทุกอย่างเพื่อชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กล่าวว่า เคารพผลการเลือกตั้ง และจะใช้เวลาทั้งชีวิตทำหน้าที่เพื่อชาติ
ประเทศไทยเพิ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในปี พ.ศ. 2566 ในบรรดาผู้สมัครเหล่านี้ มี 6 คนที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และ 4 คนในจำนวนนี้มีสถานะไม่ธรรมดา
โดยทั้งหมด ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใน ตำแหน่งในรัฐบาล
ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีประยุทธ์คนปัจจุบัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนายอนุทิน และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
นอกจากนี้ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 คน ยังเป็นที่น่าจับตามองมาก
คนหนึ่งคือ บุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และอีกคนคือหัวหน้าพรรคก้าวไกลซึ่งมีคะแนนสนับสนุนสูงสุดในหมู่ผู้ลงคะแนนเสียงรุ่นเยาว์
อย่างนี้การเลือกตั้งของประเทศไทยครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่า แต่ละคนได้แสดงความสามารถของตัวเองและความแข็งแกร่ง ดังนั้นทุกคนไม่ควรประมาท
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ตามรายงานของสื่อไทยหลายสำนัก ระบุว่า ขณะนี้ กกต.ยังอยู่ระหว่างการนับคะแนน พรรคก้าวไกลได้อันดับหนึ่ง 151 ที่นั่ง ครองอันดับ 1 ส่วนพรรคเพื่อไทยอันดับ 2 ได้ 141 ที่นั่ง รองจากพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ
ตามรายงาน เมื่อเวลา 22.04 น. วันที่ 14 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย (ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่) จะให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยแสดงความขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนและโหวตให้พรรค
ในการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ว่าผมจะอยู่ในบทบาทใด ผมจะทำหน้าที่ของผม ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของพรรคด้วย"
" หวังว่าบ้านเมืองจะสงบสุข มั่นคง มั่งคั่ง และผมก็เคารพในประชาธิปไตยและผลการเลือกตั้งด้วย ขอบคุณทุกท่าน"
เพราะว่ากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพไทย จึงมีความหวังมากที่จะได้รับการเลือกตั้ง แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่น่าเป็นไปได้
เอาเถอะ ยังไงซะคะแนนสนับสนุนก็ไม่ได้ย่ำแย่ ได้มาก็ไม่ใช่น้อย ซึ่งแสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ดูจะไม่ค่อยนิยมไทยเท่าไหร่
แต่สำหรับคราวนี้ คู่แข่งดูมีความสามารถเพียบ บอกได้คำเดียวว่าโลกนี้คาดเดาไม่ได้และไม่มีวันจบสิ้น และยากที่จะบอกได้เพียงชั่วขณะหนึ่ง
เรียกได้ว่าการเลือกตั้งนายกไทยครั้งนี้เหนือความคาดหมายจริงๆ พิธาที่มีคะแนนโหวตสูงสุดเรียกได้ว่าเป็นม้ามืดแบบเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว
พิธาเป็นหน้าใหม่ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งของประเทศไทย และตอนแรกผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อการเลือกตั้งรัฐสภาใกล้เข้ามา เขาเป็นชายวัยกลางคนที่เป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ในวัย 42 ปี
ผู้คนซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากพลังจากหลายๆด้านและจากความดึงดูดใจของเขา ได้จุดประกายให้ประเทศไทยเกิดความกระหายการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา
ในการหาเสียงครั้งสุดท้ายในกรุงเทพฯ เขาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนรวมพลังกันเขียนประวัติศาสตร์การเมืองไทยใหม่ และสนับสนุนให้พวกเขาลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย
รายงานยังระบุด้วยว่า พิธาเป็นที่นิยมมากในหมู่คนหนุ่มสาว เขาได้รับการศึกษาในนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา และเคยดำรงตำแหน่งในโลกธุรกิจ
นอกจากนี้ ลูกสาวของเขายังมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์และมักจะไปกับเขาด้วย บนเวที
แม้ว่าเขาจะได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในการลงคะแนนเสียงก็ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถไปสู่เส้นทางนายกรัฐมนตรีได้อย่างราบรื่น
ท้ายที่สุด การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของประเทศ ยังถือว่าเป็นงานใหญ่จริงๆ
นอกจากนี้ การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะต้องได้เสียงสนับสนุนมากกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาบนและสภาล่าง 750 คน
นั่นคือ สมาชิกอย่างน้อย 376 คน ปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่หลายพรรค และการกระจายที่นั่งทำได้ "ยาก"
ดังนั้นการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจล่าช้าไปจนถึงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม
...ทุกอย่าง...ยังไม่ทราบจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายจริงๆ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
