16 พ.ค. 2023 เวลา 08:21 • นิยาย เรื่องสั้น

Skinwalker ตำนานหมอผีจากชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน

ตำนานของสกินวอล์กเกอร์ คือเรื่องราวที่กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีความสามารถในการแปลงกายเป็นสัตว์ โดยส่วนมากมักเป็นหมาป่า สุนัขป่าโคโยตี้ กวาง โดยในปัจจุบัน มักปรากฎเป็นไวรัลตามสื่อต่าง ๆ เช่น Youtube หรือ Tiktok แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักเป็นการจัดฉากขึ้นมา และแตกต่างจากตำนานต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง
Skinwalker มีต้นกำเนิดมาจากชาวอินเดียนแดง เผ่านาวาโฮ (Navajo) ที่เป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา (รัฐ Arizona, รัฐ Utah, รัฐ Colorado และรัฐ New Mexico)
โดยคำว่า Skinwalker ไม่ใช่เป็นสิ่งมีชีวิตหรือตัวตนลึกลับโดยตรง แต่กลับเป็นคำเรียกของผู้ที่เล่นไสยศาสตร์หรือเหล่าพ่อมดแม่มด ในภาษานาวาโฮคำว่า "skinwalker" มีอยู่ 2 ชื่อด้วยกัน คือ yenaldooshi มีความหมายว่า “ผู้ที่เดินด้วยขาทั้งสี่” และ Mai-cob ที่มีความหมายว่า "แม่มดที่สวมหนังหมาป่า"
คำว่า พ่อมด แม่มด หมอผี ตามนิยามทั่วไป เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ที่ฝึกฝนเรียนรู้ศาสตร์ที่เหนือธรรมชาติ มีจุดประสงค์ในด้านลบโดยเฉพาะ แต่สำหรับนิยามในชนเผ่านาวาโฮนั้น พ่อมด แม่มด คือสิ่งที่ผิด สิ่งที่ขัดศีลธรรม และวัฒนธรรมประเพณีของชนเผ่าที่ชัดเจน ไม่ใช่ลักษณะนามในการเรียกบุคคล
ในขณะที่ หมอยา หมายถึงสิ่งถูกต้อง ดีงาม เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับหมอผี
สังคมกระแสหลัก มักมองว่า สังคมแบบชนเผ่าคือสังคมไร้อารยะ พึ่งไสยศาสตร์ มนตร์ดำ นับถือบูชาผี แต่ภายในวัฒนธรรมของชาวนาวาโฮนั้น หมอผีคือสิ่งที่เลวร้าย แม้แต่ในช่วงเวลาปัจจุบัน ชาวนาวาโฮก็มักเลือกที่จะหลีกเลี่ยงในการพูดคุยประเด็นเกี่ยวกับพ่อมด หมอผี
สาเหตุที่พวกเขามองว่า หมอผีคือสิ่งเลวร้ายนั้น ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่ามาจากอะไร แต่ข้อสันนิษฐานคาดว่ามาจาก วัตถุดิบที่เหล่าผู้มีวิชาไสยศาสตร์ใช้ในการบริกรรมคาถา
ตามความเชื่อนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกหมอผีในชนเผ่านาวาโฮจะแสดงอภินิหารนั้น ก็มักจำเป็นต้องมี corpes poison ซึ่งเป็นการนำเศษซากศพคนหรือสัตว์มาบดละเอียดเป็นผงจนคล้ายเกสรดอกไม้ ซึ่งหากที่มาของวัตถุดิบมีอายุน้อยมากเท่าใด ฤทธิ์ของ corpes posion ก็ยิ่งมากเท่านั้น ดังนั้นการจะทำผงนี้ส่วนมาก จึงต้องนำมาจากศพของเด็กหรือตัวอ่อนของทารก
corpse poison มักถูกใช้ในการกำจัดศัตรูของชนเผ่า หรือของตัวหมอผีเอง การใช้งานนั้นจำเป็นต้องสัมผัสกับเป้าหมายโดยตรง ดังนั้นผงนี้จึงถูกนำมาใช้โดยการเป่าใส่หน้าเป้าหมายโดยตรง หรือผสมในอาหารให้เหยื่อกิน
ซึ่งหากใครโดนผงนี้เข้าไป ก็สามารถนำไปให้หมอยาปัดเป่าแก้ไขได้ เพราะว่าใครที่เป็นหมอยานั้น มักต้องผ่านการเรียนรู้ทั้งศาสตร์ด้านสว่างและด้านมืดมาควบคู่กัน หากเจ้าตัวเก่งพอ ก็จะได้กลายเป็นหมอยา แต่ถ้าโชคร้ายโดนมนตร์ดำครอบงำ ก็จะกลายเป็นหมอผีไปโดยปริยาย
1
เงื่อนไขของการเป็นหมอผีนั้น นอกจากจะต้องทำผิดศีลธรรมอันดีงามแล้ว หากใครคิดเป็นหมอผีแบบเต็มใจแล้ว ยังจำเป็นต้องสังหารคนที่ตัวเองรัก ซึ่งส่วนใหญ่ ก็มักเป็นคนใกล้ชิด ครอบครัว ญาติพี่น้อง
The origins of Werewolves
ตามตำนานทั่วโลก และรวมถึงของชนเผ่านาวาโฮ หมอผีพวกนี้มักเดินทางในกลางคืน เนื่องจากตอนกลางวันจะถูกเพ่งเล็งจากคนในเผ่าอยู่ตลอด ดังนั้น การเดินทางในเวลากลางคืนจึงปลอดภัยกว่าสำหรับพวกเขา แต่ถ้าหากเขาอยากการันตีความปลอดภัยกว่าเดิม ก็มักจะใช้มนตร์แปลงเป็นสัตว์เพื่อหลบสายตาจากคนในเผ่า
ดังนั้น Skinwalker จึงเป็นลักษณะการเดินทางและการอำพรางตัวอย่างหนึ่งของพวกหมอผี แต่บางทีการแปลงกายนี้ก็ถูกใช้ในการทำร้ายคนทั้งในและนอกเผ่าได้เช่นกัน ซึ่งคนในเผ่าก็จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำร้ายพวกเขาจริง ๆ คือตัวอะไร
ตามตำนานจริง ๆ แล้ว Skinwalker มักจะแปลงกายอยู่ในรูปของสุนัขป่าโคโยตี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสุนัขป่าโคโยตี้นั้นถูกเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของลางร้ายที่คนส่วนใหญ่ในเผ่ามักหลีกเลี่ยง แต่มากไปกว่านั้น Skinwalker ก็สามารถเข้าสิงสู่ทั้งสัตว์และมนุษย์เช่นกัน เพื่อสร้างความแตกแยกภายในเผ่าได้
อย่างไรก็ตาม แม้กระแส Skinwalker จะนิยมในโลกปัจจุบัน คนส่วนใหญ่อาจมองว่านี่คือการเผยแพร่แนวคิดหรือสิ่งที่ดี หรือเป็นการนำตำนานพื้นบ้านมาเผยแพร่ความเชื่อและวัฒนธรรม แต่สำหรับนาวาโฮนั้นไม่ได้คิดแบบนั้น มีโอกาสน้อยมากที่ชาวนาวาโฮจะพูดเรื่องวัฒนธรรมของตัวเองกับคนภายนอก ดังนั้นเรื่องราวที่แท้จริงจึงเป็นที่รับรู้น้อยมาก ทุกอย่างที่เราได้เห็นและได้ยินตามสื่อมีเดีย มาจากการตีความของคนภายนอกทั้งสิ้น
Skinwalker สำหรับชาวนาวาโฮนั้น เปรียบเสมือนนิทานที่บอกเล่าความดีความชั่ว และความกล้าหาญแก่คนในเผ่า แต่สำหรับคนภายนอก Skinwalker คือเรื่องราวสยองขวัญที่ถูกนำเสนอในความเป็น Horror หรือปีศาจที่ไม่สามารถต่อกรได้ ซึ่งสำหรับชาวนาวาโฮแล้ว มันไม่ถูกต้อง
โฆษณา