จนล่าสุด JAS ถูกแขวนป้าย C เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ทำให้ต้องซื้อขายหุ้นด้วยเงินสด หรือ บัญชีแคชบาลานซ์ โดยที่เครื่องหมาย C จะถูกผูกติดไปจนกว่าจะแก้ในส่วนของผู้ถือหุ้นให้มีค่ามากกว่า 50% ให้ได้นั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับ JAS เป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นกูรูหุ้น นักวิเคราะห์ หรือ แม้แต่นักบ่นอย่างเจ๊เมาธ์ ต่างก็มองเห็นเหมือนกันว่าวันนี้จะต้องมาถึง ซึ่งหากผู้บริหารยังเน้นเพียงการแก้ไขตัวเลขทางบัญชีเพื่อหวังปลดล็อคเครื่องหมาย C โดยที่ไม่มองไปถึงความยั่งยืนของกิจการก็เป็นไปได้ว่าราคาหุ้นของ JAS ยังคงต่ำตม และมองไม่เห็นทางออกไปอีกนาน เพราะถ้ามีรายจ่ายแต่ไม่มีรายได้แล้วจะเอาอะไรมาโต เรื่องมันก็มีเท่านั้นเองค่ะ