17 พ.ค. 2023 เวลา 11:04 • ท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี

Yosemite National park ผลงานชั้นยอดของธรรมชาติ

นี่คือหนึ่งในอุทยานที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกา และเป็นสถานที่ที่เราจะคุ้นตาจากหน้าจอ Macbook
ด้วยวิวหน้าผาหินแกรนิตสุดอลังการ และป่าสนที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม ที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่คือ Yosemite National park
Yosemite เป็นอุทยานที่ใหญ่มาก มีพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางกิโลเมตร ในรัฐ California ทางด้าน West coast ของอเมริกา
เราได้ไปเยือน Yosemite มาเมื่อตอนไป Work and Travel ต้องบอกเลยว่าที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ของอเมริกาในทริปนั้น เป็นการเที่ยวธรรมชาติที่สวยอลังการจริงๆ โพสต์นี้จะมารีวิว Yosemite กันครับ เริ่ม
เราตั้งต้นจากเมือง Fresno เมืองปากทางเข้า Yosemite ทางทิศใต้ เราเช่ารถขับ road trip เริ่มตั้งแต่เมืองนี้ ลากเข้าไปใน Yosemite นอนในอุทยาน 1 คืน และขับเลยไปต่อที่ San Francisco
ถึงแม้ Yosemite จะใหญ่มากๆ แต่บริเวณที่คนส่วนใหญ่เที่ยวกันนั้นจะกินพื้นที่แค่ประมาณ 1% ของอุทยานเท่านั้น
นั่นคือบริเวณ Yosemite valley ที่จะมี visitor center ที่พักและอื่นๆ ส่วนบริเวณที่เหลืออีก 99% นั้น เรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติดิบๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปสัมผัส
เราเริ่มเที่ยววันแรกจากการขับรถจากเมือง Fresno เข้าไปสู่บริเวณ Yosemite valley ระหว่างทางชับรถก็คือสวยมาก ตั้งแต่เข้าเขตอุทยานมาก็ต้องจอดรถแวะถ่ายรูปริมทางกันรัวๆ
Yosemite valley เป็นหุบเขาความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร โดยร่องพื้นราบตรงกลางก็จะเป็นพื้นที่ป่า มีถนนตัดรอบเป็นวงกลม ส่วนเส้นทางเดินเทรลก็จะพาดไปตามภูเขาสูงทั้งสองฝั่ง
ภายในบริเวณนี้ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ทำท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นเดินดูธรรมชาติและปีนเขาตามเส้นทางที่จัดไว้ ซึ่งเอาแค่บริเวณ valley นี้ก็มีให้เลือกหลากหลายแล้ว
หรือถ้าไม่อยากขึ้นเขา บริเวณ valley floor ก็จะสามารถเดินเล่น ปั่นจักรยาน ขับรถชมวิว ว่ายน้ำ สัมผัสธรรมชาติได้ไม่มีเบื่อเลย
เมื่อเราเข้ามาบริเวณ Yosemite valley ก็ไปแวะที่ visitor center เพื่อกินมื้อเที่ยง ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของอุทยาน ที่มีทั้งที่พัก อู่ข้าวอู่น้ำ และเจ้าหน้าที่คอยดูแล
แพลนเที่ยวต่อในวันนี้ไม่มีอะไรมาก จะเป็นการขับรถไปตามจุดต่างๆใน Yosemite valley floor เพื่อสัมผัสธรรมชาติ วันนี้จะยังไม่มีการเดินขึ้นเขาใดๆ
จุดน่าเที่ยวส่วนใหญ่ที่แพลนมาจะเป็นพวกน้ำตก ที่ไหลลงมาจากหน้าผา แต่รอบที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อนน้ำแล้ง น้ำตกเลยไม่ค่อยสวยเท่าไร
รอบนี้เราเลยเที่ยวแบบไม่ได้มีจุดหมายชัดเจน ขับรถไปเรื่อยๆดูเพื่อดูวิว เอาจริงมันสวยไปหมดทุกมุมเลย ตรงไหนก็ดูจะเที่ยวได้
ความลงตัวของธรรมชาติทั้งหน้าผาหิน ป่าสน และสายน้ำลำธาร พอได้มาจริงๆแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงดังติดระดับโลก
แถมบรรยากาศรอบข้างมันสงบ เงียบ ช้าๆ ชิวๆ อากาศเย็นสบาย ทำให้รู้สึกจิตใจสงบ และเหมือนได้เสพธรรมชาติแบบเต็มอิ่มจริงๆ
ช่วงเย็นเราก็ขับรถกันไปเรื่อยๆ และพยายามจะหาจุดชม sunset ที่สวยๆ แต่ก็หาไม่ได้เพราะบริเวณนี้มีหุบเขาล้อมรอบแทบทุกทิศทาง จนสุดท้ายเราก็เลือกจุดที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งๆกลางหุบเขา
แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องไปยังหน้าผา สะท้อนออกมาเป็นสีส้ม ถึงจะไม่เห็น sunset ตรงๆ แต่วิวตตรงหน้าแบบนี้ก็สวยประทับใจไปอีกแบบ
พอฟ้ามืดเราก็ต้องกลับที่พัก กินข้าว พักผ่อนแต่หัวค่ำ ที่นี่ตอนกลางคืนมืดมาก แต่มันก็ทำให้เห็นดาวชัดมากเช่นกัน ถือเป็นข้อดีของการนอนในป่า
เช้าวันที่สอง พวกเราตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น วันนี้เลยต้องตื่นตั้งแต่ตี4 เพื่อขับรถไปจุดชมวิว พวกเราเลือกไปที่จุด Tunnel view ซึ่งเป็นจุดชมวิวชื่อดัง
หลายคนน่าจะเคยเห็นภาพของ Yosemite มาจากตรงนี้ ใน Macbook ก็มีภาพวิวนี้เป็น Wallpaper เหมือนกัน
ที่นี่ชื่อ Tunnel view เพราะจะเป็นวิวแรกที่เห็นตอนขับรถออกจากอุโมงค์ทางเข้าอุทยาน ถือเป็นภาพแรกที่สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวเลย
Yosemite ตอนเช้าอากาศเย็นสบายมาก วิว sunrise มุมนี้ก็สวยอลังการ คุ้มค่ากับการตื่นเช้า พอเราดูพระอาทิตย์เสร็จก็กลับไปนอนต่อ แล้วค่อยตื่นอีกทีตอนสายๆ
แพลนของวันนี้จะเหนื่อยหน่อย เพราะเราจะเดินขึ้นเขาไปชมวิวจากด้านบน พวกเราเลือกเส้นทางชื่อว่า Four mile trail ชื่อบอกว่า4ไมล์ แต่จริงๆแล้ว 4.6ไมล์ คือประมาณเกือบ 7 กิโลครึ่ง
ถ้าเป็นทางราบยังพอโอเค แต่นี่เป็นทางขึ้นเขาล้วนๆ 7 กิโลครึ่งนั้นยาวไกลกว่าที่คิดมากทางเดินเทรลอันนี้ถือว่าค่อนข้างชันเลย วกไปวนมาเพื่อไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด
ถึงจะไม่ชันขนาดที่ต้องปีนป่าย แต่ต้องใช้พลังกายมหาศาล และเหนื่อยกว่าที่คิดมากจริงๆเดินมาแค่ครึ่งทาง น้ำและเสบียงที่เตรียมมาก็หมด หลังจากนี้ความทรหดก็ยิ่งทวีคูณ รู้สึกว่าร้อนและแดดแรงไม่ต่างจากไทย ความเหนื่อยสะสมมานานประมาณ2ชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็มาถึงยอด
ถ้าไม่สวยขนาดนี้คงไม่ให้อภัย จุดนี้คือ Glacier point จุดชมวิวมุมสูง เราสามารถมองเห็นไปได้ไกลสุดสายตา เป็นวิวหุบเขาสลับซับซ้อนของ Yosemite
จากจุดนี้ยังสามารถมองเห็น Half dome ได้ชัดมาก เป็นภูเขาสุด iconic ที่เหมือนถูกเฉือนไปครึ่งหนึ่ง ที่หลายคนน่าจะคุ้นตากัน
เราใช้เวลาอยู่ข้างบนสักครู่ ถ่ายรูปและนั่งพักกันจนอิ่มใจ แล้วก็เดินกลับลงมา ขาลงนี้ค่อนข้างสบายหน่อย ไม่เหนื่อยมาก
แต่ความหิวน้ำแบบแทบขาดใจทำให้ต้องกินน้ำจากน้ำตกที่เดินผ่านข้างทางจริงๆรวมเวลาการเดินเทรลทั้งหมดกว่า 4 ชั่วโมง ในที่สุดก็เดินกลับลงมาถึงพื้น พร้อมความเหนื่อยขาดใจและความประทับใจที่ได้มา
เราเดินไปขึ้นรถ พร้อมขับออกนอกอุทยานแห่งนี้ไปยังเมืองต่อไป เป็นอันจบช่วงเวลา 2 วัน 1 คืนใน Yosemite
ที่นี่ยังมีอะไรให้ไปสัมผัสอีกมาก ถึงจะอยู่ไกลครึ่งโลกและลำบากหน่อย แต่ยังไงก็ยังอยากมาอีกอยู่ดี หวังว่าจะได้เจอกันอีกในสักวัน... Yosemite
โฆษณา