Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
•
ติดตาม
19 พ.ค. 2023 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เมื่อเฟดกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุด…
จากเหตุการณ์คาดผันผวนที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ทำให้มีนักวิเคราะห์หลายคนเริ่มคาดการณ์ว่า “ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังจะขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุด หรือบางคนก็บอกว่าถึงจุดสูงสุดเรียบร้อยแล้ว”
คำถามต่อไปที่เกิดขึ้นกับหลายคน คือ หลังจากนี้เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานแค่ไหน เพราะมันจะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจในภาคธุรกิจ ภาคการบริโภคและตลาดการเงิน
ในประเด็นนี้ ทาง Macrobond ได้ทำการวิเคราะห์เส้นทางแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯในช่วงหลังจากหลังจากที่เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ยกัน
โดยใช้ฐานข้อมูลการคำนวณ คือ ดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่ปี 1984 หรือก็คือย้อนกลับไปประมาณ 40 ปีหลังสุด ซึ่งในช่วงเวลานี้ทางสหรัฐฯ ผ่านรอบการขึ้นดอกเบี้ยมาทั้งหมด 8 ครั้ง ได้แก่
1.
สิงหาคมปี 1984
2.
กันยายนปี 1985
3.
กันยายนปี 1987
4.
พฤษภาคมปี 1989
5.
กุมภาพันธ์ปี 1995
6.
พฤษภาคมปี 2000
7.
มิถุนายนปี 2006
8.
ธันวาคมปี 2018
ข้อสังเกตประการสำคัญที่ทาง Macrobond ชี้ให้เห็นคือในช่วงหลัง การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ มักจะคงอยู่ในระดับสูงสุดไม่นานนัก และก็จะทยอยปรับลดลงมา
โดยจะสังเกตได้จากแผนภูมิในภาพปก ที่มีการคำนวณค่าเฉลี่ยและมัธยฐานของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหน้า 250 วันจากจุดดอกเบี้ยสูงสุด (ในแผนภูมิแทนด้วยตัวเลขติดลบในแกนนอน) ไปจนถึง 250 วันหลังจากจุดดอกเบี้ยสูงสุด (แทนด้วยตัวเลขบวกในแกนนอน)
เราจะสังเกตได้ว่า นับจากวันที่ 0 (แกนนอน) หรือก็คือวันที่เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะคงอยู่ในระดับสูงไม่นานนัก และค่อยๆ ปรับลดลงมา
ปัจจัยนี้ส่งผลต่อการคาดการณ์ของนักลงทุนที่คาดหวังจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยลง เพื่อจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดการเงินด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับรอบการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ เฟดอาจจะไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ยมาเร็วเท่ากับแนวโน้มเฉลี่ยก็ได้ โดยเหตุผลสำคัญมาจาก “ปัจจัยด้านอัตราเงินเฟ้อ”
โดยก่อนหน้านี้ ทางสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับสภาวะอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของสหรัฐฯ ขึ้นไปแตะระดับ 9%
(เมื่อใช้วิธีแบบนำช่วงของข้อมูลเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY)
แม้ว่าข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายน เราจะเริ่มเห็นการปรับลดลงของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลงบ้าง มาอยู่ที่ 4.9% YoY
แต่เมื่อดูอัตราเงินเฟ้อ (ที่ปรับผลฤดูกาล) เทียบกับเดือนก่อนหน้า ก็จะเห็นว่า เงินเฟ้อยังคงดื้อดึงและยังเป็นบวกอยู่ได้เล็กน้อยที่ 0.4%
ทั้งหมดนี้จะสร้างความลำบากใจให้กับเฟดอย่างยิ่ง เพราะด้านหนึ่งก็กังวลใจเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่มีปัญหาจากภาคธนาคารด้วย ก็คงอยากจะลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังกังวลใจด้านอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงดื้อ และไม่ปรับลดลงมาง่าย ๆ ถ้าจะรีบลดดอกเบี้ย ปัญหาเงินเฟ้อก็อาจจะกลายเป็นตัวบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระยะยาวมากกว่าได้
แต่ถ้าความกังวลใจด้านอัตราเงินเฟ้อสูงหมดไปเมื่อใด ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า สหรัฐฯ จะเข้าสู่รอบการลดดอกเบี้ยอีกครั้งนั่นเอง…
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
●
https://www.bls.gov/news.release/cpi.nr0.htm
●
https://data.oecd.org/price/inflation-forecast.htm
●
https://www.ft.com/content/31671580-7d4b-4002-bc09-b19c5a6ae2d7
●
https://www.macrobond.com/charts-of-the-week/stock-scenarios-and-considering-the-peak-fed-rate#federal-reserve-rates-tend-to-peak-rather-than-plateau
●
https://www.morningstar.com/articles/1106505/when-will-the-fed-start-cutting-interest-rates
fed
เฟด
ธนาคารกลางสหรัฐ
4 บันทึก
7
3
4
7
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย