20 พ.ค. 2023 เวลา 00:15 • อาหาร
Sushi Ichizu 鮨いちづ

Sushi Ichizu ร้านที่เกิดมาเพื่อทำซูชิโดยเฉพาะ

การที่ใครเกิดมาเพื่อเป็นสิ่งนี้ เกิดมาเพื่อทำอะไรบางอย่างหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ จะด้วยเพราะพรสวรรค์ ความชอบ หรือปัจจัยแวดล้อมก็ตาม ก็มักจะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะสามารถพุ่งเป้ามุ่งมั่นในสิ่งนั้นได้อย่างชัดเจน สิ่งนี้มันสามารถอธิบายได้กับทุกอาชีพการทำงาน ซึ่งรวมไปถึงร้านอาหารก็เช่นกัน
และวันนี้ผมจะขอรีวิวแนะนำร้านอาหารที่เกิดมาเพื่อทำซูชิโดยเฉพาะ ร้านนี้มีชื่อว่า “Sushi Ichizu 鮨いちづ”
1
ร้าน Sushi Ichizu เป็นร้านซูชิสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมสมัยเอโดะที่มีประวัติมายาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็น จึงต้องอาศัยการหมัก การดองมาช่วยในการถนอมอาหาร เพื่อคงสภาพอาหารให้อยู่ได้ยาวนาน จึงเกิดอาหารประเภทซูชิขึ้นมา และพัฒนาแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
6
ซึ่งทางร้าน Sushi Ichizu มองว่าร้านซูชิที่ดีไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่แต่ในโตเกียว หรือที่ กินซ่า เพียงเท่านั้น
จึงได้เปิดร้าน Sushi Ichizu ขึ้นมาในกรุงเทพฯ ย่านถนนเพชรบุรี โดยคำว่า Ichizu มีความหมายว่า “เกิดมาเพื่อทำสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียว” หรือเรียกอีกอย่างว่า “วิถีแห่ง” ร้าน Sushi Ichizu จึงแปลได้ว่า “วิถีแห่งซูชิ” ที่ทางร้านยึดมั่นวัฒนธรรมการทำซูชิให้ได้มาตรฐานดีเทียบเท่ากับร้านดังญี่ปุ่น ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเมื่อมาทานซูชิที่ร้าน Sushi Ichizu แล้วก็ต้องยอมรับ
6
ซึ่งเชฟแนทเชฟของทางร้านก็มีดีกรีไม่ธรรมดาเคยเป็นมือขวาของ Sous Chelf จากร้านมิชลินสตาร์ 3 ดาวที่ญี่ปุ่น รวมไปถึงร้าน Sushi Ichizu ก็ยังได้รับรางวัล OAD ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียจากเว็บไซต์ OAD 4 ปีซ้อน โดยปี 2022 ปีล่าสุดก็คว้ารางวัล Asia 29th Best Restaurant ไปครอง
3
ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมายที่กล่าวไปทำให้เมื่อมีโอกาสผมจึงไม่พลาดที่จะไปลองชิมอาหารร้าน Sushi Ichizu
1
หน้าร้าน Sushi Ichizu จะเป็นแบบเรียบง่าย มีประตูบานเลื่อนเล็กเป็นทางเข้า เราอาจต้องสังเกตนิดหนึ่งด้วยเพราะป้ายหน้าร้านจะเป็นป้ายเล็กๆ อยู่ตรงประตู โดยเมื่อเข้ามาก็จะเห็นว่าตัวร้านจัดที่นั่งเป็นแบบเซน และแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องแรกจะเป็นห้องหลักเป็นซูชิบาร์มีที่นั่งประมาณ 12-14 ล้อมรอบเชฟทำให้เราสามารถนั่งทานแบบมองเห็นทุกขั้นตอนการทำซูชิของเชฟจนเสิร์ฟมาถึงมือเราได้ชัดเจน ส่วนอีกห้องจะจัดเป็นห้องส่วนตัวสำหรับใครที่มากันเป็นหมู่คณะ
3
ทางร้าน Sushi Ichizu จะเสิร์ฟอาหารเป็นแบบ Omakase Course ซึ่งเมนูอาหารจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตามฤดูกาล ยกเว้นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่จะทำเสิร์ฟเป็นประจำ
1
ซึ่งคอร์สของผมเป็น Nigiri Course คอร์สเริ่มต้น โดยทันทีที่ผมมานั่งที่บาร์พนักงานก็เสิร์ฟ Welcome Drink ให้ผมได้ชิม มันเป็นน้ำส้ม Yuzu ผสมแอลกอฮอล์ 6% ให้ความสดชื่นและเป็นการกระตุ้นน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
1
จากนั่นเชฟแนทและผู้ช่วยเชฟก็มากล่าวทักทายลูกค้าทุกคนอย่างเป็นกันเอง แล้วก็เริ่มประเดิมทำอาหารให้ทานกัน
1
เมนูจานแรกเปิดคอร์สด้วย Iwashi Roll เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นการนำปลา Iwashi ปลาในตระกูลปลาซาร์ดีนไปหมักกับเกลือและน้ำส้มสายชูแล้วบ่มทิ้งไว้ 4 วัน เพื่อให้เกลือและน้ำส้มสายชูซึมเข้าทุกอณูของเนื้อปลา ทำให้ได้รสชาติปลา Iwashi ออกมากลมกล่อม เชฟจะม้วนเนื้อปลาเป็นโรลแบบไม่ใส่ข้าว แต่จะใส่ขิงดอง ใบโอบะ หอมเขียวญี่ปุ่น แล้วม้วนด้วยยากิโนริ สาหร่ายเกรดดีที่สุดที่ผ่านการย่างมาแล้ว
2
ในจานที่เชฟเสิร์ฟจะมี Iwashi Roll อยู่ 3 คำ พร้อมวาซาบิที่เชฟบอกว่าปริมาณที่ตั้งมาให้นั่นเหมาะกับการกินกับโรล 3 คำนี้พอดี แนะนำให้แบ่งวาซาบิใส่กินกันกับโรลให้หมด ซึ่งผมก็เอะใจว่ามันจะไม่ฉุนเหรอเพราะปริมาณวาซาบิมันเยอะพอสมควร แต่ผมก็ลองทำตามที่เชฟบอก แล้วมันก็ว้าวมาก
ตัว Iwashi Roll เนื้อปลามีความมัน มีรสเปรี้ยวรสหวาน ตัวสาหร่ายก็หอมกรอบมาก และที่เซอร์ไพรส์ผมสุดๆ ก็วาซาบิที่มีความซ่ากับความหวานผสมกันลงตัวมากโดยไม่ฉุนเลย ซึ่งเชฟบอกว่าได้ใช้วาซาบิสดนำเข้าจากชิซูโอกะสองสายพันธุ์ที่เด่นกันคนละอย่าง สายพันธุ์หนึ่งมีความเผ็ดซ่า อีกสายพันธุ์หนึ่งมีความหวานนำมาผสมกันให้ได้สัดส่วนที่ลงตัว เมื่อนำมาทานกับตัวโรลแล้วทำให้ตัดเลี่ยนความมันของเนื้อปลาและช่วยชูความหวานของเนื้อปลาได้เพิ่มขึ้น กินทั้งคำแล้วอร่อยลงตัวสุดๆ
2
จานต่อมาเป็น Hotaru Ika Yuzu Mizo เป็นเมนูที่เชฟนำปลาหมึกหิ่งห้อยไปนึ่งให้สุกพอดีแล้วราดด้วยซอสมิโซะ ยูซุ สูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งเนื้อปลาหมึกนิ่ม ไม่คาว ไม่แข็ง ไม่เหนียว เคี้ยวสนุก ซอสมิโซะ ยูซุ ก็มีรสเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ ช่วยเพิ่มรสปลาหมึกที่มีความมันได้ดี
Hotate Isobe หอยเชลล์ห่อสาหร่าย ที่ทำมาให้เสิร์ฟกินกับมือ ซึ่งหอยเชลล์มาในขนาดไซส์ใหญ่มาก มีกลิ่นหอมจากการไปย่าง เนื้อสดหวานฉ่ำ ไม่แข็ง ไม่เละ
Kasugodai ซูชิ ลูกปลากะพง เป็นซูชิดั่งเดิมที่นิยมกินกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะในญี่ปุ่น เนื้อปลากะพงแน่นสดมาก ไม่มีไขมัน เนื้อไม่แข็ง ไม่แห้ง ซูชิคำนี้ปรุงรสมาน้อยมากทำให้ได้รสชาติแท้ๆ ของเนื้อปลากะพงที่สดจากท้องทะเล
3
Hokkigai เป็นซูชิหอยปีกนก ที่เวลาเราไปทานร้านทั่วไปจะถูกทำมาให้สุกซึ่งจะเหนียวและจืด แต่ทางร้าน Sushi Ichizu เสิร์ฟหอยปีกนกแบบดิบซึ่งทำให้ได้รสหวานฉ่ำ เป็นซูชิคำที่ทานแล้วสดชื่นมาก
Ishigaki Dai ซูชิปลาเนื้อขาว ที่มีความมัน ความหวานฉ่ำ เนื้อปลาเข้ากันดีกับข้าวญี่ปุ่นในซูชิ ถือเป็นซูชิเนื้อปลาตามฤดูกาลที่ไม่ควรพลาด
2
Maguro เป็นซูชิที่ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็ต้องมี แต่ Maguro แต่ของร้าน Sushi Ichizu พิเศษตรงที่ใช้เนื้อมากุโระมาจากปลาทูน่ายักษ์ธรรมชาติมาจากร้าน Yamayuki ร้านที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาปลาทูน่าจากประเทศญี่ปุ่น โดยทางร้านนำเนื้อปลาไปหมักกับซอสสูตรพิเศษ จนได้รสชาติออกมา สด มัน หวาน เข้มข้น กินแล้วได้รสชาติเนื้อปลามากุโระจากธรรมชาติแท้ๆ อย่างชัดเจน
2
Ama Ebi เป็นซูชิหน้ากุ้งหวาน ที่ใช้กุ้งหวานจากเมืองฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรสชาติก็ออกมาหวานสมชื่อ
1
Aji ที่เชฟใช้คือปลาแมคเคอเรลญี่ปุ่นจากเมืองชิบะ แล้วออนท็อปด้านบนด้วยขิงกับต้นหอมสับรวมกัน รสชาติเนื้อปลาจะมีความมันนิดๆ เนื้อเนียน เบา และการที่มีขิงกับต้นหอมช่วยตัดความเลี่ยน พร้อมทั้งเพิ่มความสดชื่นได้ดี
2
Uni ไข่หอยเม่นห่อสาหร่ายจากฮอกไกโด ที่เชฟทำเป็นกรวยเสิร์ฟให้ถึงมือ ไข่หอยเม่น สด หวาน เข้มข้น ไม่คาว ละลายในปาก
Tachiuo Kamameshi กับ Soup ข้าวอบหม้อดินสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งเชฟได้ใช้ปลาดาบเงินคัดพิเศษที่หาได้ในฤดูกาลนี้จากเมือง คานากาวะ นำมาย่างแล้วใส่ลงในข้าวอบที่หยอดซอสโชยุพร้อมใส่ต้นหอมกับมะนาว ส่วน Soup เป็นซุปมันกุ้ง เมนูนี้เชฟแนะนำให้คลุกเคล้าข้าวอบให้เข้ากันก่อนทาน จะเอาซุปตักใส่ลงในข้าวเป็นข้าวต้มทานพร้อมกัน หรือจะแยกตักซุปกินต่างหากก็อร่อยได้ทั้งคู่
1
ซึ่งในส่วนของข้าวอบหม้อดินได้กลิ่นหอมทั้งตัวปลาดาบเงินย่างและกลิ่นหอมจากข้าวที่อบ ส่วนซุปมันกุ้งก็หอมมีกลิ่นกุ้งจางๆ เหมือนทานด้วยกันแล้วรู้สึกเบาๆ สดชื่น กลายเป็นเมนูที่ช่วยล้างความเลี่ยนที่ได้จากความมันของปลาที่ทานไปจากคำก่อนๆ หน้านี้ได้ดี
2
Tamagoyaki ไข่หวานเมนูปิดท้ายของคาว ซึ่งไข่หวานของร้าน Ichizu ใช้สูตรแบบดั้งเดิมจากประเทศญี่ปุ่น คือไม่มีการใช้แป้งเข้ามาช่วย ทางร้านจะใช้ ไข่ ปลาเนื้อขาว และกุ้งมาเป็นวัตถุดิบในการทำ และเชฟจะใช้เทคนิคพิเศษในการทำโดยใช้เตาแก๊สไม่ได้ใช้เตาอบ ทำให้ได้ไข่หวานออกมามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ เนื้อด้านนอกจะมีความเกรียม กรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในจะนุ่มฟูหวาน จัดเป็นไข่หวานที่อร่อยลงตัวมาก
1
Warabi Mochi ขนมโมจิ เป็นเมนูของหวานปิดท้ายของคอร์ส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน Ichizu ที่ไม่เหมือนใคร โดยร้านทั่วไปจะใช้แป้งสาลีหรือแป้งข้าวเจ้า แต่ทางร้าน Sushi Ichizu จะใช้แป้งวาราบิที่ทำจากเฟิร์นภูเขาที่หายากทำให้มีราคาแพงมากกิโลกรัมละ 10,000 บาท มาปั้นให้ทานกันแบบวันต่อวันไม่มีเก็บเหลือ เพื่อให้เนื้อแป้งเด้ง แล้วโรยด้วยถั่ว กับ ดอกซากุระที่หมักเกลือมา
3
เชฟแนะนำวิธีทานด้วยการคนให้เข้ากันก่อน เมื่อทานแล้วได้รสสัมผัสหลากหลายรสชาติ ทั้งความหอม ความหวาน ความเค็มนิดๆ มีรสขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย ทำให้ทานไปเรื่อยๆ แล้วไม่หวานแสบคอ กินได้เพลิน เป็นเมนูของหวานที่ผมชอบมาก
จบไปแล้วกับ Nigiri Course ของทางร้าน Sushi Ichizu ที่แต่ละเมนูดูเผินๆ อาจเหมือนซูชิธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแต่ละจานล้วนคัดเลือกวัตถุดิบมาพิเศษอย่างดี รวมทั้งใช้ความพิถีพิถันในการทำที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งการจัดเรียงลำดับเมนูที่เมื่อกินจนจบแล้วรู้สึกสดชื่น อิ่มท้องพอดี ไม่เลี่ยน ไม่คาว สมกับเป็นร้านเกิดมาเพื่อวิถีแห่งซูชิจริงๆ
3
ซึ่งหากใครอยากทานอาหารแนวโอมากาเสะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ก็สามารถมาลองทานกันได้ที่ร้าน Sushi Ichizu
ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น โดยแต่ละเมนูอาหารที่ทางเชฟจัดเตรียมจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและของที่คัดหามาได้ เพราะทางร้านจะใช้ของสดคัดพิเศษมาเป็นวัตถุดิบเท่านั้น
ร้าน Sushi Ichizu เปิดรับวันละ 3 รอบ 12.00 น. รอบ 17.30 น. รอบ 20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
หากใครสนใจอยากไปลอง แนะนำให้ทำการจองวันก่อนครับ
- Tel: 065-7389999 or 062-5946555
- LINE: @sushiichizu
ร้าน Sushi Ichizu เปิดรับวันละ 3 รอบ 12.00 น. รอบ 17.30 น. รอบ 20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
หากใครสนใจอยากไปลอง แนะนำให้ทำการจองวันก่อนครับ
- Tel: 065-7389999 or 062-5946555
- LINE: @sushiichizu
Nigiri Course 4,000++
Mini Omakase Course 6,000++
Omakase Course 8,000++
1
โฆษณา