20 พ.ค. 2023 เวลา 05:52 • ปรัชญา

ลัคนา ราศี และรูปร่างลักษณะ

มีนักโหราศาสตร์เป็นอันมากเข้าใจว่า ลัคนาเป็นสิ่งบอกรูปร่าง ผิวพรรณ และลักษณะของเจ้าชะตา
และแม้แต่โหรอาชีพหลายๆ ท่าน ก็ได้ยึดถือเป็นหลักปฏิบัติในทางพยากรณ์อยู่มากทีเดียว
โดยยึดแนวทางการพยากรณ์ดังนี้
เช่นลัคนาราศีเมษ ราศีนี้มีดาวอังคารเป็นเกษตรเจ้าเรือนประจำราศี จึงถือลักษณะของดาวอังคาร คือผิวคล้ำล่ำสันเป็นรูปร่าง และราศีนี้ยังมีสัญลักษณ์ประจำราศีเป็นรูปแพะ นักโหราศาสตร์บางกลุ่มจึงนิยามลักษณะของเจ้าชะตาที่อยู่ในราศีนี้ให้ใกล้กับลักษณะของแพะ เช่นมีเคราตรงไปคางเป็นต้น
ลัคนาราศีพฤษภ มีดาวศุกร์เป็นเกษตรเจ้าเรือนประจำราศี จึงถือเอารูปร่างของดาวศุกร์ คือรูปร่างสมส่วน มีผิวขาว สวย เป็นลักษณะของเจ้าชะตาที่มีลัคนาในราศีนี้ และราศีนี้ยังมีสัญลักษณ์เป็นรูปวัว จึงมักเอาลักษณะของวัวมาเปรียบเทียบกับรูปร่างของเจ้าชะตา
ลัคนาราศีเมถุน มีดาวพุธเป็นเกษตรเจ้าเรือนประจำราศี จึงถือเอารูปร่างค่อนข้างอ้วน หรือท้วมเป็นรูปร่าง และมีผิวขาวเป็นลักษณะของเจ้าชะตา และราศีนี้มีสัญลักษณ์คือคนคู่ ถือเอาลักษณะของมนุษย์ มีนักพยากรณ์บางท่านเหมาเอาว่าเป็นราศีแห่งกิเลส เจ้าชะตามักฝักใฝ่ในกามกิเลสมาก (คงไปจับเอาคำว่า “เมถุน” หรือ “อยู่ด้วยกันสองคน” มาเป็นประเด็น / ความเห็นผู้เรียบเรียง)
ลัคนาราศีกรกฎ มีดาวจันทร์เป็นเกษตรเจ้าเรือนประจำราศี จึงเอาลักษณะของดวงจันทร์ คือรูปร่างแน่นน้อย แบบบาง อรชร อ้อนแอ้น ผิวขาว เป็นลักษณะของเจ้าชะตา และราศีกรกฎมีสัญลักษณ์เป็นรูปปู จึงมักเดินตัวเอียงไม่ตรง ตามลักษณะของปู
ลัคนาราศีสิงห์ มีดาวอาทิตย์เป็นเกษตรเจ้าเรือนประจำราศี จึงเอาลักษณะของดวงอาทิตย์ คือผอมเกร็งและผิวดำมาเป็นลักษณะของเจ้าชะตาที่มีลัคนาในราศีนี้ และราศีสิงห์ก็มีสัญลักษณ์เป็นรูปสิงโต จึงถือเอาลักษณะหน้าผากคล้ายสิงห์เป็นลักษณะ
ในบางกรณีเวลาเกิดของเจ้าชะตาไม่แน่นอน นักพยากรณ์ระบบนี้ก็จะใช้ลักษณะรูปร่างของเจ้าชะตา มาเป็นเครื่องกำหนดวางลัคนาลงในราศีที่มีลักษณะของราศีพ้องกับรูปร่าง
และในบางที ถึงแม้เจ้าชะตาจะมีเวลาเกิดแน่นอน แต่เมื่อวางลัคนาในราศีแล้วถ้ารูปร่างเจ้าชะตาไม่ถูกต้องกับลักษณะรูปร่างของราศี ท่านมักเลื่อนลัคนาไปอยู่ในรูปร่างเหมือนสัญลักษณ์ของราศีนั้นเสีย
คิดว่าไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างให้ครบทุกราศี เพราะเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ท่านได้ทราบว่าการเล่นในการพยากรณ์ที่เขาปฏิบัติกันนั้น เขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์พยากรณ์
อันที่จริงยังมีฝอยพยากรณ์ในทางพิสดารอีกมากมาย และมิใช่ทางพยากรณ์ในระบบของหมอเถา (วัลย์) ที่จะสอนท่านต่อไป เพราะมีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงดังเรื่องราวต่อไปนี้
ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ได้ประสบมาแล้ว
คือมีสุภาพสตรีท่านหนึ่ง วัยสาวรูปร่างแบบบาง อ้อนแอ้น แช่มช้อย สวยงาม จำเวลาเกิดได้แต่ตอนสายๆ ถึงบ่ายๆ ได้ให้โหรท่านพยากรณ์ ขณะเกิดพระอาทิตย์ในราศีเมษ ฉะนั้นช่วงเวลาเกิดตั้งแต่สายๆ ถึงบ่ายๆ จึงมีสิทธิ์จะอยู่ได้ในหลายราศี
คือตั้งแต่ราศี เมถุน-กรกฎ-สิงห์
โหรท่านก็พิจารณารูปร่างเจ้าชะตาว่าอ้อนแอ้น แน่งน้อย เป็นรูปร่างของจันทร์ซึ่งเป็นเกษตรในราศีกรกฎ ว่าแล้วจึงวางลัคนาไว้ที่ราศีกรกฎ จากนั้นได้พยากรณ์ไปตามอัธยาศัยแล้วก็จากกันไป
สาวน้อยผู้นี้ได้แต่งงานมีสามี และอีกหลายปีต่อมาก็มีบุตร 2 คน มีครอบครัวที่เป็นสุขและมีฐานะดี กินอยู่สมบูรณ์ จึงมีร่างกายที่ค่อนข้างจะอวบอ้วนขึ้น และเป็นวิสัยส่วนมากของสตรีที่มีเรือนมีบุตรแล้ว ก็มักมีร่างกายเปลี่ยนไปจากวัยสาว
ได้ไปพบโหรท่านนั้นอีก เพื่อขอทราบถึงฐานะและภาวะชีวิต โหรท่านนั้นนานปีพบกันและมิได้คุ้นเคยกันมาก่อน จึงไม่อยู่ในวิสัยจะจดจำดวงชะตาไว้ ท่านก็ได้พิจารณารูปร่างอ้วนท้วนเป็นลักษณะของดาวพุธ จึงวางลัคนาไว้ในราศีเมถุน แล้วก็พยากรณ์ไปตามนั้น
หลังจากนั้นมาอีกหลายปี สามีก็เริ่มมีเมียน้อยและหลงใหลข้าวใหม่ประมาณ ชีวิตในครอบครัวเริ่มแตกร้าว มีการกระทบกระทั่งเป็นปากเสียง และบางคราวถึงขั้นลงมือลงไม้ทุบตีกัน ความทุกข์ทรมานขมขื่นและผิดหวังทับถมหัวใจคุณผู้หญิงคนนั้นดั่งภูเขา
ร่างกายที่เคยอ้วนท้วนสมบูรณ์ก็ผ่ายผอม ผิวพรรณที่เคยสดใสก็ซูบเชียว จึงผอมดำเป็นคนละคนกับเมื่อก่อน
ทางออกก็คือกลับมาพบโหรท่านนั้นอีก เพื่อจะรู้เคราะห์กรรมอันเป็นความทุกข์ของตนและชีวิตครอบครัว
โหรท่านไม่อาจจดจำดวงชะตาที่ผ่านมาหลายๆ ปีไว้ได้ จึงจำต้องพิจารณารูปร่างขณะที่ผอมดำเกร็ง เป็นลักษณะของดวงอาทิตย์เจ้าเรือนราศีสิงห์ จึงวางลัคนาไว้ในราศีสิงห์
ตกลงว่าสุภาพสตรีท่านนี้มีลัคนาเลื่อนไปเลื่อนมาได้ถึง 3 ราศี ตามมติที่ถือเอารูปร่างซึ่งเป็นสิ่งไม่คงที่ถาวรเป็นจุดวางลัคนา
การกล่าวอ้างถึงขั้นที่ต้องเล่านิยายอย่างยืดยาวในทำนองไม่เห็นด้วยนั้น มิใช่ว่าจะตั้งหน้าคัดค้านกฎเกณฑ์ของผู้อื่นไปทั้งหมด ก็หามิได้ หากแต่เพียงให้ท่านได้ตระหนักและรู้ว่ากฎเกณฑ์ที่ใช้กันเกินขอบเขตเช่นนั้น มีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย เพราะผิดหลักธรรมชาติของชีวิตมนุษย์
รูปร่าง ลักษณะ และผิวพรรณ เป็นสิ่งที่กรรมพันธุ์มีอิทธิพลอยู่มาก เช่นบุตรของบิดามารดาที่เป็นนิโกร จะวางลัคนาไว้ที่ราศีไหนๆ เรื่องที่จะมีผิวขาวคงไม่ได้แน่ หรือพ่อแม่ที่สูงใหญ่และเผ่าพันธุ์ของเขาสูงใหญ่ เรื่องจะมีบุตรเล็กเตี้ยก็เป็นไปได้ยาก
เมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว พ.อ.ประจวบ วัชรปาน โหรใหญ่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านก็ได้สนใจในเรื่องนี้อยู่มาก ในฐานะที่ท่านเคยเป็นนายแพทย์อาวุโสมาก่อน ท่านได้เก็บสถิติการเกิดของเด็กจากโรงพยาบาลวชิระ ประมาณเกือบ 500 ราย โดยจดรายละเอียดเวลาคลอด ลักษณะการคลอด สุขภาพ และน้ำหนักตัวโดยละเอียดถี่ถ้วน
ผลปรากฏว่าเมื่อวางลัคนาในดวงชะตาแล้ว เด็กที่น้ำหนักตัวน้อย (ตัวเล็ก) และเด็กที่น้ำหนักตัวมาก (ตัวใหญ่) มีลัคนาสถิตในราศีเดียวกันเป็นร้อยดวง
ซึ่งสรุปได้ว่าขนาดของร่างกายไม่เป็นสิ่งยืนยันลักษณะรูปร่างของราศีโดยแน่ชัด
กฎการอ่านจุดลัคนาของระบบหมอเถา (วัลย์) ก็ได้ยึดถือแบบอย่างของโบราณอาจารย์ท่านวางไว้นั่นเอง มิได้นอกคอกนอกครูแต่อย่างใด หากแต่ใช้ตรงจุดตรงเป้าหมาย
คือลัคนาสถิตในราศีใดก็ย่อมอยู่ใต้อิทธิพลของราศีนั้นๆ และผู้มีอิทธิพลครอบงำลัคนา ก็คือดาวเจ้าเรือนเกษตรประจำราศีนั้นนั่นเอง
อิทธิพลของดาวเกษตรจะสร้าง “บุคลิกภาพ อากัปกริยา ท่าทาง ท่าที กิริยา อาการ” อันเป็นลักษณะเฉพาะตน ที่เห็นและรู้สึกได้จากภายนอกของเขา (แต่มิใช่อุปนิสัยใจคอหรือจิตใจ)
🙂
เรียบเรียงจากหนังสือ : บทเรียนทางไปรษณีย์ เล่ม 1 เขียนโดย : อาจารย์ อรุณ ลำเพ็ญ
โฆษณา