20 พ.ค. 2023 เวลา 12:00 • การ์ตูน

#Oshinoko EP6

น่าจะปวดตับยิ่งกว่าตอน 1 อีก โมเม้นที่เรื่อง "ดำดิ่ง" สู่ห้วงความคิดของตัวละครกับสถานการณ์สุดกดดันและโลกออนไลน์ที่ไม่ปราณีใคร ผ่าน Soundtrack ที่ทรงพลังในความ "ไม่มั่นคง" กำกับจังหวะจะโคนการใช้สีได้เทพมากๆ มันดำดิ่งสู่ห้วงความคิดที่ไม่ควรจะคิด โปรดเตรียมใจดีๆ
ตอนนี้ Focus ไปที่รายการ Reality show และตัวของ Akane หนักแสดงในรายการที่ดูจะมีแสงในตัวเองน้อยที่สุด ความกดดันของเธอที่จะพาตัวเองจากจุดตกอับนั้นนำมาซึ่งเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกมากมาย
เราคงไม่ลงไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดมาก ไปดูกันเองเธอ แต่หลักๆเลยเรื่องสามารถถ่ายทอดชีวิตคนคนหนึ่งที่พังพินาศเพราะ Social media มันเป็นยังไง มันรู้สึกยังไง อะไรที่ซ้ำเติมเธอ ไม่ได้แค่เล่าว่าเกิดอะไรแต่ใช้คำพูดที่วกวนซ้ำไปมาแต่ไม่สามารถเบือนหน้าหนีจากมันได้
มันทำให้เรานึกถึงตอนที่ 4 ของ Odd Taxi เลยที่เป็นตอนที่ติดตามชีวิตตัวละครหนึ่งตั้งแต่ต้น (ใช่ เพราะเธอเธอแทบไม่มีตัวตนไม่ใช่แค่ในเรื่อง แต่ต่อคนดูด้วย) ไปจนถึงจุดต่ำสุด แล้วพาเราดำดิ่งไปกับสิ่งที่ตัวละครต้องเจอ จนเราเชื่อได้จริงๆว่าปลายทางที่ "ทำไปทำไม?" มันมี "ทำไม" อยู่
แต่สิ่งที่จะชื่นชมยิ่งกว่าคือ Sound track การกำกับเสียงต่างๆ เราก็ไม่เก่งเรื่องนี้เท่าไหร่นะ แต่เรารู้สึกเลยว่าเพลงมันไม่ใส่แค่บิ้วเศร้าหนักๆ แต่มันเต็มไปด้วยเสียงเพี้ยน เสียงที่ไม่มั่นคงในเพลง เสียงที่เดี๋ยวออกข้างซ้ายบ้างขวาบ้าง เรียกว่าหลอนสุดๆ
งานภาพมีหลาย scene หลาย Frame ที่มีงานภาพที่โดดเด่นกว่าหลายตอนที่ผ่านมา การเลือกใช้สีหรือเปลี่ยนบางอย่างในฉากให้เป็นภาพเชิงสัญลักษณ์ ถึงบางฉากแอบไม่ชอบ Transition ระหว่างภาพแต่ภาพที่สวยมากๆในตอนมีเยอะและทรงพลังจริงๆ
ฉากหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษและรู้สึกว่าเท่ห์มาก (ทั้งที่มันโคตร Dark เลย) คือตอนที่โทรศัพท์กระเด็นหลุดมือแล้วแสดงจากหน้าจอมันสาดไปรอบห้อง ใครเป็นคนคิดเนี่ยยย
อย่างไรก็ดี หลายอย่างที่เราไม่ชอบในตอน 2-5 ก็ยังคงอยู่โดยเฉพาะ Monologue ในใจที่เยอะเกิน โดยเฉพาะในตอนที่เรื่องกำลังดำดิ่งในห้วงอารมณ์ตัวละคร การที่ตัวละครครุ่นคิดความรู้สึกตัวเองเป็นคำพูดเต็มๆแบบนี้มันตัดอารมณ์ดิ่งๆที่เรื่องกำลังบิ้วว่าตัวเธอกำลังแตกสลายอย่างไร
นอกจากนี้เราก็ไม่ค่อยชอบ concept Romance Reality show อยู่เป็นทุนเดิมไม่ใช่ว่ามันไม่น่าสนุก แต่เรื่องยังทำให้เราเชื่อไม่ได้เลยว่าเบื้องหลังแบบนี้ แสดงกันแบบนี้จริงๆมันออกมาเป็นรายการทีวีที่คนติดตามกันเป็นซีซั่นๆได้อย่างไร
ทั้งนี้แม้เราจะไม่ชอบที่เรื่อง Monologue พูดถึงมุมดาร์กวงการบันเทิงบ่อยๆ แต่ตอนนี้ชอบที่จังหวะที่พูดถึงการ Tweet ข้อความของคนดังต้องระวังแค่ไหน และการ Search ชื่อตัวเองหรือ Erosurfing ถูกพูดระหว่าง Ruby กับ Aqua แทน เพื่อได้พูดเรื่องที่อยากพูดแต่ไม่เสียเวลาอธิบายในช่วง Akane
เราก็รอติดตามว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรในตอนต่อไป แต่ในที่สุดไอ้ความดาร์กวงการบันเทิงมันรู้สึกเช่นนั้นจริงๆบ้างในตอนนี้ไม่ใช่แค่พูดเหมือนรู้ดีอย่างเดียว มันไม่ได้แค่วิจารณ์ภาพรวมแต่เล่าผ่านมุมมองตัวละครและรู้สึกสิ่งนั้นไปด้วยกัน นี่หล่ะวิธีการเล่าเรื่องที่เราอยากเห็นมากขึ้น
โฆษณา