มองว่า ที่จริงก็เป็นเพียงทัศนะส่วนตัวของเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่พูด ซึ่งไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ หรือทั้งหมดของคนไทย หรือทั้งหมดของมวลมนุษยชาติบนโลก คงไม่ต้องไปให้คุณค่าอะไรกับทัศนคติเยี่ยงนี้ พวกเขาล้วนน่าสงสาร เพราะสื่อยุคนี้ ทำให้เด็กวัยรุ่น ต้องพยายามถีบตัวเองให้โดดเด้งใน Social Media ด้วยการพูดอะไรก็ได้ ที่จะท้าทายให้ผู้คนเข้ามาโต้แย้ง ถกเถียง จนตัวเองนั้น ดังเป็นพลุแตก ติดอันดับเทรนด์บนแพลตฟอร์ม
และพวกเรา ในฐานะที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ ก็ควรรับฟังได้ทุกเรื่อง ด้วยใจที่เป็นกลาง และสติปํญญาที่เต็มเปี่ยม ที่จริงเด็กไม่ได้พูดผิด ที่บอกว่าพ่อแม่มีพันธะต้องเลี้ยงดูลูก แต่เด็กแค่พูดไปด้วยสติปัญญา ที่ตื้นเขินและคับแคบ ซึ่งที่จริงแล้วพ่อแม่นั้น นอกจากมีพันธะที่ต้องอบรมเลี้ยงดูแล้ว ยังต้องให้การศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา ตามสมควรอีกด้วย
ส่วนจะเป็นบุญคุณหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการอบรมบ่มนิสัยของพ่อแม่ นี่คือหัวลูกศรแบบจังๆ ที่จะย้อนกลับไปที่พ่อแม่ จนกว่าสามัญสำนึกของพวกเขาจะทำงานเอง หรือเมื่อพวกเขาต้องเผชิญวิกฤติในชีวิต จนเหลือเพียงพ่อแม่ที่คอยดูแลส่งข้าวส่งน้ำในคุกตาราง หรือเช็ดอุจจาระปัสสาวะให้ เมื่อพวกเขานอนป่วยเป็นผักอยู่บนเตียง ตราบนั้น.... พวกเขาก็จะเข้าใจถึงบุญคุณบิดรมารดา ได้ลึกซึ้งที่สุด จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตตัวเองเลยทีเดียว...
เราเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่
คงไม่ได้หวังให้ลูกมาตอบแทนบุญคุณ
ด้วยการเลี้ยงดูยามแก่เฒ่า
แค่เอาตัวให้รอด ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ
ในบั้นปลายชีวิต ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
