21 พ.ค. 2023 เวลา 13:14 • การเมือง

พรรคก้าวไกลอาจจะพังเพราะกองเชียร์เข้าสักวัน

เห็นมาหลายครั้งแล้วสุนทรพจน์ของทิม พิธานี้มันเป็นกระแสได้เกือบทุกประโยค ทุกวลีจริงๆ โดยเฉพาะไอ้วรรคทองที่ว่า "ใหญ่กว่าเราคือพรรค ใหญ่กว่าพรรคคือความคาดหวังของประชาชน" เนี่ย น่าจะกินใจและถูกใจวัยรุ่นกันเยอะทีเดียว
2
ในแง่หนึ่ง ผมมองว่ามันก็เป็นคำพูดคำจาที่เหมาะจะเป็น Motto เป็นคติสอนคนในพรรคได้ดีนะ ว่าเป็น ส.ส. เป็นผู้แทนประชาชน อย่าไปยกตนกร่างใส่ประชาชน แต่ในอีกแง่หนึ่ง ผมคิดว่าวลีนี้ มันค่อนข้างกลายเป็นพันธะที่อาจจะคอยมัดตัว มัดมือมัดเท้าของผู้บริหารพรรคก้าวไกลอยู่พอสมควร
วันก่อนผมเพิ่งพูดไปว่าตอนนี้ พรรคก้าวไกลกำลังตกอยู่ในทางแยกสำคัญ ระหว่างจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลด้วยการรวบรวม ส.ส. จากพรรคร่วมให้มันได้ถึง 375 เสียงตามสูตรให้ได้โดยไม่สนเรื่องจุดยืนของพรรคร่วม ว่าจะมาจากขั้วการเมืองเก่าที่เคยสนับสนุนรัฐประหาร
3
กับอีกทางหนึ่ง คือ ทุกๆก้าวย่างจะทำไปโดยต้องฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ถ้าประชาชนฐานเสียงที่เลือกตัวเองมาไม่พอใจในประเด็นไหนก็พร้อมจะถอยตามการทักท้วงของประชาชนทันที อย่างที่ได้เห็นจากการยกเลิกดีลกับชาติพัฒนากล้าเมื่อวันก่อน
3
วันนี้มามีเรื่องจะไม่เอาพรรคใหม่อีกแล้ว ส่วนพรรคประชาชาติของวันนอร์ก็เหมือนจะโดนกองเชียร์พรรคก้าวไกลวิจารณ์เรื่องจุดยืนเกี่ยวกับนโยบายการขายสุรา และการสมรสเท่าเทียม ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีประเด็นอะไรปะทุขึ้นมาอีกในกลุ่มของพรรคร่วมรัฐบาล
1
ปัญหาส่วนหนึ่ง จริงๆมันมาจากข้อจำกัดที่ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยเขาไม่ได้แลนด์สไลด์ตามที่คาดหวังไว้ ก็เลยต้องมาเจอปัญหาเวลาจะขอพรรคเล็กพรรคน้อยมารวมด้วยในตอนนี้ มากคนก็มากความน่ะครับ ยิ่งเอาพรรคที่มีจุดยืนไม่ได้ไปในทางเดียวกันซะทีเดียวมาอยู่ด้วยกัน สักพักเดี๋ยวก็เหยียบขา สะดุดขากันเอง
2
อย่างไรก็ตาม ในมุมผม ผมคิดว่าไอ้ความแตกต่างของจุดยืนทางการเมืองหรือนโยบายอะไรพวกนี้ มันควรจะประนีประนอม ถอยให้กันได้นะ เพราะอย่างที่ทราบกันดี การเมืองมันเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ เป็น Game of Possibilities มันออกหัวออกก้อยได้หมด
และผมเชื่อว่าทีมผู้บริหารพรรคก้าวไกลเขาก็ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ดี ไม่งั้นทิม พิธาคงไม่ให้คนที่เป็นมือขวาของตัวเองคอยไปหาแนวร่วม ไปเจรจากับพรรคนู้นพรรคนี้ตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหรอก แต่สิ่งที่มันเป็นอุปสรรคสำคัญ คือ แฟนคลับ และกองเชียร์ทั้งหลายครับ
8
ถ้าคุณไปดูตาม Twitter หรือกลุ่ม Facebook แฟนคลับก้าวไกล และพวก Tiktok official ของพรรค คุณจะเห็นว่า 2-3 วันมานี้ แฟนคลับเข้าไปแสดงความคิดเห็นด่าทอพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนมาก อย่าว่าแต่ทีมผู้บริหารพรรคเลย วันก่อนณัฐชา บุญไชยฯ แค่ทวีตรูปคู่ ยิ้มกับไอติม พริษฐ์ แล้วก็โรม รังสิมันต์ ยังโดนแฟนคลับเข้าไปถล่มเลย
3
มันคือความร้อนแรงที่มาจากความอินของกองเชียร์น่ะครับ บางครั้งผมก็รู้สึกว่าความอินเหล่านี้มันมากไปจนเกินพอดี ผมเข้าใจ Concept เรื่อง 'ความคาดหวังของประชาชนอยู่เหนือพรรค' นะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะเป็นเชือกที่มัดคอพรรคก้าวไกล ให้เดินเกม หรือทำการเมืองได้ลำบาก
1
โดยเฉพาะกับการผลักดันนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ คืออย่างนี้นะครับ ในโลกของการเมือง มันไม่ใช่แค่ว่าเราเลือก ส.ส. เข้ารัฐสภาไปแล้วเขาจะผลักดันประเด็นที่เคยหาเสียงไว้ได้ซะทีเดียวในทันทีทันใด มันมีปัจจัยอีกมากมายประกอบด้วยกัน
3
ตั้งแต่การหาจังหวะ จะผลักดันกฎหมายฉบับไหนก็ต้องมีจังหวะ และเมื่อเราจำเป็นต้องใช้ 'จังหวะ' ในการเมือง มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า 'รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง' แปลว่าต้องรู้ว่าจังหวะไหนเราควรก้าวต่อไป ถ้าบริบทมันได้ ยังไงก็ชัยชนะก็เป็นของคุณ
4
แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณรู้ตัวว่ามันไปต่อไม่ได้ คุณก็ต้องรู้จักที่จะถอยหลังได้ ซึ่งในปัจจุบันมันยากมากสำหรับก้าวไกลนะครับ ที่จะถอยหรือยอมประนีประนอมกับพรรคอื่นๆที่มีแนวคิดไม่ตรงกับตัวเอง ไม่ใช่เพราะกรรมการบริหารพรรคไม่อยากนะ ผมเชื่อว่าพวกเขาอยากประนีประนอมเต็มที่
2
แต่แฟนคลับ กองเชียร์นั้นส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เป็นวัยร้อน ใจร้อน และก็มี 'ความอิน' กันมาก ทำให้ทางเดินของก้าวไกลมัน Sensitive อ่อนไหวสูง เดินเกมผิดนิดเดียวไม่ใช่แค่จะโดนด่าหรือวิจารณ์อย่างเดียว ครั้งหน้าเด็กเขาอาจจะไม่มาเลือกแล้วก็ได้ Cancel Culture น่ะ พวกท่านเคยได้ยินไหม
16
ในต่างประเทศ เวลาที่ศิลปิน ดารา หรือนักการเมือง ทำอะไร หรือพูดจาอะไรที่มันผิดฝาผิดตัว ผิดที่ผิดเวลา แล้วไปขัดกับอุดมการณ์ของวัยรุ่น (เช่นในอเมริกา) ศิลปิน ดารา หรือนักการเมืองคนนั้นแทบจะถูกด่า ถูกรุมประชาทัณฑ์บนโลกออนไลน์ โดน Cyberbully สารพัดเลยนะ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Cancel Culture ซึ่งที่ไทยก็มีอะไรแบบนี้ให้เห็นเยอะไป
1
#เลือกตั้ง66 #ก้าวไกล #การเมือง #ข่าวการเมือง #มีกรณ์ไม่มีเรา #ชาติพัฒนากล้า
2
โฆษณา