“ฮาจิโกะ (Hachiko)” สุนัขที่เป็นที่รักของชาวญี่ปุ่น
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีสุนัขตัวหนึ่งที่เอาชนะใจคนญี่ปุ่นได้เกือบทั้งประเทศ ชนะใจด้วยความซื่อสัตย์ที่มันมีต่อเจ้าของ
สุนัขตัวนั้นชื่อ “ฮาจิโกะ (Hachiko)”
ในทุกวันนี้ ฮาจิโกะได้กลายเป็นสุนัขที่คนญี่ปุ่นทั้งประเทศรู้จัก และแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างมนุษย์และสุนัข
เรื่องราวของฮาจิโกะนั้นเป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
ฮาจิโกะ (Hachiko)
“ฮาจิโกะ (Hachiko)” เกิดในฟาร์มในแถบโอดาเตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปีค.ศ.1923 (พ.ศ.2466) แต่เรื่องราวของฮาจิโกะเริ่มในอีกหนึ่งปีต่อมา เมื่อ “อุเอโนะ เอซาบุโร (Ueno Eisaburo)” ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งกำลังมองหาสุนัขพันธุ์อากิตะซักตัวหนึ่งมาเลี้ยง และก็ได้รับฮาจิโกะมาจากนักศึกษาคนหนึ่งของตน
ในช่วงที่อุเอโนะได้รับฮาจิโกะมาไว้ในความดูแล เวลานั้นเป็นฤดูหนาว ทำให้ฮาจิโกะเป็นไข้ อุเอโนะและภรรยาจึงดูแลฮาจิโกะอย่างดี โดยให้ฮาจิโกะนอนใต้เตียงของตน ห่มผ้าให้ และเอาถุงน้ำร้อนมาให้ฮาจิโกะเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
การดูแลอย่างดีนี้ แสดงให้เห็นถึงความรักที่ศาสตราจารย์อุเอโนะมีต่อฮาจิโกะ
ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ฮาจิโกะก็กลับมาแข็งแรงดังเดิม และศาสตราจารย์อุเอโนะก็ยังคงดูแลฮาจิโกะอย่างดี โดยมักจะแปรงขนให้ฮาจิโกะ และเลี้ยงดูฮาจิโกะอย่างดี อาหารที่ฮาจิโกะได้ทานเป็นประจำก็คือข้าวกับแกง นม และตับ และยังมักจะพาฮาจิโกะไปเดินเล่นเสมอๆ
อุเอโนะ เอซาบุโร (Ueno Eisaburo)
ในไม่ช้า ฮาจิโกะก็ชินกับการไปส่งเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟชิบูย่าในทุกเช้า ซึ่งศาสตราจารย์อุเอโนะก็จะขึ้นรถไฟที่สถานีไปยังมหาวิทยาลัยทุกเช้า
ในช่วงที่ศาสตราจารย์อุเอโนะกำลังสอนหนังสือ ฮาจิโกะก็จะรออยู่ที่สถานีรถไฟ โดยในเวลาบ่าย ศาสตราจารย์อุเอโนะจะนั่งรถไฟกลับมาบ้าน และเดินกลับบ้านพร้อมฮาจิโกะ
นี่คือชีวิตประจำวันที่ฮาจิโกะคุ้นเคยมาเป็นเวลานับปี แต่แล้วในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1925 (พ.ศ.2468) ศาสตราจารย์อุเอโนะก็ไม่ได้กลับมาดังเช่นทุกครั้ง
ฮาจิโกะยังคงรอเจ้านายของมันอย่างไม่วอกแวก ในขณะที่รถไฟขบวนแล้วขบวนเล่าต่างมาและไป ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ในเช้าวันนั้นขณะที่ศาสตราจารย์อุเอโนะกำลังสอนหนังสือ ก็ได้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง และศาสตราจารย์อุเอโนะก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ไม่มีวี่แววว่าศาสตราจารย์อุเอโนะจะกลับมา ฟ้าเริ่มมืด แต่ฮาจิโกะยังคงเฝ้ารอ และวันต่อมา ฮาจิโกะก็ยังคงกลับมารอเจ้านายของมัน และเฝ้ารอตลอดเวลาบ่าย แต่ศาสตราจารย์อุเอโนะก็ยังไม่กลับมา
ญาติๆ ของศาสตราจารย์อุเอโนะได้พาฮาจิโกะกลับบ้าน ซึ่งบ้านญาตินั้นก็อยู่ไกลจากสถานีรถไฟ แต่ฮาจิโกะก็จะหาทางกลับไปยังบ้านของศาสตราจารย์อุเอโนะ และกลับไปยังสถานีรถไฟชิบูย่าจนได้
ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความภักดีที่ฮาจิโกะมีต่อเจ้านายของมันได้
แต่ศาสตราจารย์อุเอโนะก็ไม่กลับมา
ในไม่ช้า เรื่องราวของฮาจิโกะก็เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่ว และทำให้มันเป็นสุนัขที่โด่งดังในบริเวณย่านสถานีรถไฟ เจ้าหน้าที่สถานีก็เอ็นดูมัน และมักจะมานั่งรอเป็นเพื่อนฮาจิโกะ
ในเวลาต่อมา ผู้คนต่างก็เดินทางมายังสถานีรถไฟเพื่อมาหาฮาจิโกะ และได้มีการเขียนบทความเกี่ยวกับฮาจิโกะซึ่งตีพิมพ์ในปีค.ศ.1932 (พ.ศ.2475) ทำให้ฮาจิโกะโด่งดังในชั่วข้ามคืน
ฮาจิโกะเป็นที่ยกย่องในฐานะของสุนัขที่มีความซื่อสัตย์ และยังถือว่าฮาจิโกะเป็นสุนัขนำโชค
ถึงแม้ฮาจิโกะจะเพลิดเพลินที่หลายคนเอ็นดูและมาเล่นกับมัน แต่ฮาจิโกะก็ไม่เคยวอกแวก มันยังคงมารอเจ้านายของมันตลอดเวลาเก้าปีกับเก้าเดือน เฝ้ารอที่จะพบกับเจ้านายของมัน
ในวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่สถานีพบร่างของฮาจิโกะนอนตายอยู่ข้างถนนนอกสถานีรถไฟ โดยขณะนั้นฮาจิโกะมีอายุ 11 ปี
แม้กระทั่งวินาทีสุดท้าย ฮาจิโกะก็ยังมารอศาสตราจารย์อุเอโนะ
หลังจากการจากไปของฮาจิโกะ เรื่องราวของฮาจิโกะก็ยังเป็นที่เล่าขาน มีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับฮาจิโกะมากมาย
มีการสร้างรูปปั้นรูปฮาจิโกะใกล้ๆ กับหลุมศพของศาสตราจารย์อุเอโนะที่โตเกียว และยังมีการสร้างรูปปั้นฮาจิโกะที่สถานีรถไฟชิบูย่าอีกด้วย
ในปีค.ศ.2015 (พ.ศ.2558) ที่มหาวิทยาลัยโตเกียวก็มีการสร้างรูปปั้นศาสตราจารย์อุเอโนะกำลังเล่นกับฮาจิโกะ และเชื่อกันว่าตอนนี้ฮาจิโกะคงได้พบกับเจ้าของที่มันเฝ้ารอคอยมานานหลายปีแล้ว
นี่ก็เป็นเรื่องราวของฮาจิโกะ สุนัขที่มีความซื่อสัตย์และเอาชนะใจคนญี่ปุ่นและคนทั่วโลก
- 51
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
