23 พ.ค. 2023 เวลา 02:57 • หนังสือ

Review Book : Good Vibe, Good Life

GOOD VIBES, GOOD LIFE เขาว่ากันว่าใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข
ผู้เขียน | เว็กซ์ คิงส์
• ระยะเวลาในการอ่าน : 20/05/2023 - 22/05/2023 (2วัน)
• ความรู้สึกในขณะอ่าน : ถือว่าเป็นเล่มที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย มองเห็นภาพที่สามารถนำไปใช้กับตัวเราได้จริง เป็นเล่มที่ควรค่ากับการอ่านสักครั้งในชีวิตเล่มนึงเลยค่ะ เเล้วคุณจะพบสิ่งที่เปลี่ยนเเปลงในชีวิตคุณได้จริงๆ
•คะเเนน : 10/10
✨ เล่มที่ควรค่าเเก่การอ่านสักครั้งในชีวิต ✨
By : อ่านเจออะไร
-----
-----
  • ให้เริ่มจากการรักตัวเอง : คือการมองตัวเองในสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ เเละยอมรับในความจริงนั้น ถ้าชีวิตตอนนี้มันเเย่นัก ก็จะมีจุดนึงที่คิดว่า เห้ย เราอยากที่จะเป็นคนที่มันดีขึ้นกว่านี้ มันอยากที่จะทำเพื่อตัวเอง เราขาดตรงนี้เเหละ เราอยากเรียนรู้ อยากเสาะหาเพื่อตัวเองที่ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
การรักตัวเองที่เเท้จริง คือ การพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ขณะเดียวกันเราจะพยายามทำเรื่องอะไรก็ได้ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง เพราะเราควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าวันนี้
-----
  • ความสำคัญของความรู้สึก : ว่ากันว่า กฎเเห่งเเรงสั่นสะเทือนก็คือ การเปลี่ยนความคิด รู้สึก การพูด เเละการกระทำ มันจะส่งสัญญาณไปที่คลื่นรูปแบบเดียวกันเเล้วสะท้อนกลับมาหาเรา เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องรู้สึกให้ได้ถึงสิ่งที่เราต้องการ การรู้สึกนี้ต้องไม่ฝืนจนเกินไป ไม่รู้สึกเสเเสร้งจะรู้สึกท้อเเท้ รู้สึกที่ส่วนลึก มองเห็นภาพ เห็นเสียง เห็นอะไรที่เราได้รับเเล้วโคตรมีความสุขตอนที่เรามีมัน ต้องให้สมจริงที่สุด หรือยิ่งมีรูปร่าง เรายิ่งเข้าใกล้มันมากขึ้น
คุณต้องการสิ่งไหน ก็เพราะสิ่งนั้นทำให้คุณรู้สึกดี เเละถ้าเราอยากได้ความรู้สึกดี เราก็ต้องสร้างความรู้สึกดีขึ้นมาก่อน
-----
  • พฤติกรรมของวิถีชีวิตที่เป็นบวก : เเน่นอนว่าเราหลีกเลี่ยงสิ่งที่มันลบๆที่เจอในชีวิตประจำวันยาก เเต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีวิธีเลย ถ้ามันเเย่มากๆ เราควรเริ่มจาก
  • อยู่ท่ามกลางคนคิดบวก เราจะได้รับข้อคิดที่เป็นเชิงบวกจากมุมมองของเค้ามาไม่รู้ตัว เเละเเน่นอนเราจะรู้สึกดีขึ้นมากด้วย
  • เปลี่ยนภาษากาย เขามีวิตัยว่า ถ้าเรายิ้ม เเม้ว่าเราจะเจอเรื่องเศร้า เเต่ภาษากายของเรานี่เเหละ หลอกสมองได้นะ มันจะงง เอ๊ะ ฉันกำลังรู้สึกเเย่นะ ละร่างกายยิ้มได้ยังไง หรือจริงๆเเล้วร่างกายเรารู้สึกดีเเล้ว งั้นก็คงโอเคก็ได้
  • พักผ่อนบ้าง ทำได้ง่ายๆคือ "ทิ้งระยะห่างจากสิ่งที่ทำให้เครียด" อย่ากลัวที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เเค่ออกไปเดินเล่น ออกเดินไปข้างนอก ทำสวน หรือเล่นสัตว์เลี้ยงก็ได้
  • ค้นหาเเรงบันดาลใจ อ่านหนังสือสักเล่ม ฟังหรือดูอะไรสักอย่างที่ให้ข้อคิดกับเราในช่วงนั้นบ้าง
  • อยู่ให้ห่างจากเรื่องดราม่าเเละนินทา มันทำให้อีโก้ของเราทำงาน เกิดการเปรียบเทียบ เเละเเน่นอน เราไม่เคยเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า จากนั้นเราก็จะรู้สึกเเย่ อิจฉา เเละไม่พอใจเมื่อเราไม่ถูกยอมรับ ไม่มีอะไรดีเลย ฉะนั้นดึงตัวเองออกมา อย่าไปดู ไปฟัง หรือพูดถึงมัน
  • เเสดงความขอบคุณ
คุณจะไม่มีทางรู้สึกเเย่ ในขณะที่รู้สึกขอบคุณได้หรอ
คุณไม่อาจรู้สึกเบิกบานใจได้โดยไม่รู้สึกขอบคุณ การรู้สึกขอบคุณจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสุข
  • [ TRICK ] การเข้าถึงความรู้สึกขอบคุณอย่างเต็มที่ คิดง่ายๆคือ ให้จินตนาการว่าชีวิตเราจะเเตกต่างไปยังไงบ้างถ้าไม่มีสิ่งนี้ที่ให้เรารู้สึกขอบคุณ ลองคิดดูสิ อาจมีหลายอย่างในชีวิตที่ย่ำเเย่ เเต่ก็มีหลายสิ่งที่ดีเหมือนกันนะ ขอบคุณสิ่งที่เรามี ยิ่งนับความโลคดีได้มากเท่าไหร่ ก็ขะยิ่งมีเรื่องโชคดีนับได้มากขึ้นเรื่อยๆ
  • ศึกษาอารมย์ของตัวเอง : อย่าพยายามเมินความรู้สึกเเย่ๆ เเล้วพยายามเเสร้งว่าตัวเองรู้สึกดี ให้เรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกเเย่ๆในตอนนั้น เเล้วเเปรความคิดเเย่ๆไปยังสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า เพื่อที่จะได้รู้สึกดีขึ้น
ฉันรักตัวเอง นั่นก็เพียงพอเเล้ว ฉันสามารถหาสิ่งต่างๆที่ดีให้กับตัวเองได้ ความคิดที่ดีๆมอบให้ตัวเองได้ ความรักที่ฉันมีให้ตัวเองจะย้อนกลับมาโดยใครสักคนที่ให้ความสำคัญกับเราจริงๆ ตอนนี้ ฉันรักตัวเองได้ 🤍
  • ทำสมาธิ : ใจจะสงบนิ่ง เป็นปัจจุบันอย่างใส่ใจ
  • ประเมินความรู้สึกก่อนจะทำสมาธิ 1 (รู้สึกหดหู่ ไม่อยากทำอะไรเลย) - 10 (รู้สึกดีเยี่ยม สงบสุข เบิกบาน ) เขียนตัวเลขเเรกที่โผล่ขึ้นมาในห้วไว้
  • ลืมตาไว้ก่อน ดูท่าทางที่เราทำอยู่ นั่ง นอน กระดูกสันหลัง จดจ่อกับร่างกาย
  • ใส่การหายใจ สูดหายใจเข้าลึกที่สุดให้เต็มปอด เเล้วปล่อยอากาศออกมาให้หมด จับความรู้สึกที่หน้าอกขยับขึ้นลง
  • ตา มอบไปรอบๆ มองเฉยๆ ไม่ต้องคิดเเล้วหลับตาลง มองภาพที่เข้ามาเเล้วเปลี่ยนไป ผ่อนคลาย สังเกตรูปแบบการหายใจไว้
  • ฟังเสียงรอบๆ เสียงอะไร ดังไหม เเยกเเยะได้ไหม เเล้วมาฟังเสียงหายใจของเราเอง
  • มารู้สึกถึงร่างกาย มีตรงไหนเกร็ง ความรู้สึกอะไรผุดขึ้นมาตอนนี้ไหม มันคืออะไร อยู่ส่วนไหน สังเกต ฟัง รู้สึก เเล้วอยู่เฉยๆสักนาทีก่อนลืมตา
  • วัดระดับความรู้สึกอีกครั้ง
ค่อยๆฝึกทำสมาธิ เริ่มเเรกสักห้านาทีก่อนก็ได้ ทำต่อเนื่องสัก 30 วัน คุณจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนเเปลง เชื่อสิ
พยายามเอาตัวเองออกมาจากสิ่งที่มีพิษ เเล้วคุณจะพบว่า คุณจะมีเวลาเเละพื้นที่สำหรับทบทวนความรู้สึกของตัวเอง เยียวยา เเละเติบโต สุดท้านก็จะเเข็งเเกร่งขึ้น
  • ลองตั้งคำถามกับการกระทำของตัวเอง ทำไมคุณถึงทำในสิ่งที่คุณทำ เเละทำไมเลือกในสิ่งที่คุณเลือก เรากำลังทำจริงๆเพราะคิดว่าถูกต้องหรือกำลังทำตามคนอื่น ถ้าความคิดคุณเบนไปตามความเห็นของคนอื่น เเสดงว่าคุณทิ้งการควบคุมชีวิตตัวเองไปเเล้ว
  • การจะเริ่มปรับเปลี่ยนความเชื่อ เเบบที่เราไม่เสเเสร้ง เราอยากเป็นคนเเบบไหน ลองศึกษาคนเเบบนั้นดู เขาคิดยังไง ศึกษาจากหลานๆคน เเล้วเราจะพบว่า ส่วนมากเเล้ว บางคนเกิดมาก็ต้นทุนต่ำ ต้นทุนไม่เท่ากัน เเต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ความเชื่อว่าเขาสามารถทำได้ เชื่อว่าตัวเองจะเปลี่ยนอนาคตเเละประสบความสำเร็จได้
สิ่งที่คุณพูด จะกลายเป็นรูปธรรม
พูดให้กำลังใจบ่อยๆ ในสิ่งที่อยากให้เราเชื่อ เเต่ทั้งนี้ต้องเป็นสิ่งที่รู้สึกได้จริง ไม่เสเเสร้ง หรือไม่มีหลักฐานสนับสนุนเลย
เป้าหมาย ต้องสะท้อนถึงสิ่งที่คุณปราถนาลึกๆ ไม่ใช่สิ่งที่ควรต้องการ
เราไปซื้อข้าว เราคงไม่บอกเเม่ค้าว่า ฉันคิดว่าฉันอยากได้เเกงผัก มีเเค่ว่าเราต้องการกินหรือไม่กินเท่านั้น เป้าหมายก็เหมือนกัน
  • 1.
    การจดเป้าหมานไว้ = คุณคือนักเขียนอนาคตตัวเอง
  • 2.
    จินตนาการชีวิตที่ " อยากจะมี "
สิ่งที่เป็นจริงในใจคุณ จะเป็นจริงในชีวิตคุณ
อย่าเเก้ตัวว่าไม่มีเวลา ถ้าไม่อาจหาเวลาเพื่อบางสิ่งได้ เเสดงว่าสิ่งนั้นไม่สำคัญมากพอสำหรับคุณ เเต่ถ้าบางสิ่งสำคัญจริงๆ คุณจะหาเวลาให้มันเอง
-----
การใช้ชีวิตที่ รู้สึกดี คือทุกอย่างที่เราต้องการจริงๆ
บทส่งท้าย หนังสือเรื่อง GOOD VIBES, GOOD LIFE
โฆษณา