23 พ.ค. 2023 เวลา 15:55 • ท่องเที่ยว
โดโลไมท์

"The Dolomites" เทือกเขาหินปูนที่สวยที่สุดในอิตาลี

📍 สถานที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี 🇮🇹
The Dolomites หรือที่เราคุ้นหูในชื่อว่า โดโลไมท์ เทือกเขาหินปูน(สำหรับชื่อเรียกในภาษาอิตาลีคือ Dolomiti)
เทือกเขาแห่งนี้มีฉายาว่า "The Pale Mountains" หรือเทือกเขาสีซีด… แน่นอนว่ามันมาจากสีของหินปูนนั่นเอง
1
The Pale Mountains ยามกลางวัน
ถึงแม้จะมีฉายาว่าสีซีดหรือสีอ่อนเนี่ยทว่า..หนึ่งในเรื่องที่นักท่องเที่ยวมักพูดถึงกันก็คือ ในเวลากลางวันแสงสีที่ตกกระทบกับภูเขาหิน จะมีสีไล่กันไปตั้งแต่เทาอ่อนถึงเกือบขาว 🌞
1
แต่สำหรับยามพระอาทิตย์ตกดิน ผิวหน้าของหินเหล่านี้จะอาบไปด้วยสีส้มและชมพู เกิดเป็นทัศนียภาพที่แปลกใหม่ไปจากตอนกลางวันนั่นเอง 🌥
(จริง ๆ แล้ว ก็มีอีกหนึ่งฉายาที่นักท่องเที่ยวเรียกเทือกเขาแห่งนี้ก็คือ “The Pink mountains” ซึ่งมาจากเหตุผลตรงนี้นั่นเองคร้าบ)
1
The Pink mountains ฉายายามเย็น
ถ้าเพื่อน ๆ ที่กำลังจะไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้แล้วกำลังเสิร์ช ก็จะต้องเจอกับจุดชมวิวที่มีหน้าตาเป็นหน้าผาหินลาดเอียง (มีภาพเพิ่มเติมให้ในคอมเมนต์นะคร้าบ)
สถานที่แห่งนี้คือหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือ "Seceda" ทุ่งหญ้าลาดเอียงบนยอดเขาสูง 2,519 เมตร
ดูจากวิวแล้วอาจจะดูเหมือนไปลำบาก แต่จริง ๆ แล้วเค้ามีกระเช้าลอยฟ้าพาขึ้นไปยังอุทยาน ขึ้นได้ที่เมือง Ortisei (แต่เราเข้าใจว่าถ้าจะไปจุดชมวิวที่เป็นทุ่งหญ้าลาดเอียงนี้ จะต้องเดินไปอีกพอสมควร)
ขึ้นโดนยกระเช้าแบบนี้
แต่ถ้าเพื่อน ๆ ยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาหินปูนแห่งนี้ ก็จะเป็นยอดเขาทีมีชื่อว่า "Marmolada" มีความสูง 3,342 เมตร และมีจุดชมวิวที่สูงที่สุดมีชื่อเรียกว่า “Punta Penía” ซึ่งมีความสูงกว่าดอยอินทนน์ไปอีกเกือบ 1,000 เมตร (อันนี้เข้าใจว่าจะต้องเป็นนักปีนเขาที่มีประสบการณ์นะคร้าบ)
🤔 ว่าแต่..โอโห ทำไมมันมีหลายจุดจังเลย เป็นแค่เทือกเขาหินปูนเองไม่ใช่เหรอ ?
จริง ๆ ต้องบอกว่าเทือกเขาแห่งประกอบ 18 ยอดเขา ที่มีความสูงเกิน 3,000 เมตร ! ตั้งอยู่ในอิตาลีตอนเหนือที่พาดตัวขวางตะวันตกของประเทศออสเตรีย 🇦🇹 และตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ 🇨🇭
(ต้องใช้คำว่า “ขวาง” นะคร้าบ เพราะว่าเทือกเขาโดโลไมท์ทั้งหมดตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี)
ถ้าจะตะลุยจริง ๆ แค่ 1-2 วัน อาจไม่เพียงพอ (เข้าใจว่าอาจจะเหนื่อยพอสมควรเลยถ้าจะยัดจริง ๆ)
เห็นกว้างขนาดนี้ เพื่อน ๆ ทราบไหมว่าเทือกเขาโดโลไมท์แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยมากถึง 4,000,000 คนต่อปี (มากกว่า Mont St.Michel ของฝรั่งเศสอีกนะ)
💡⛰ ปิดท้ายกันด้วย Fun Facts เล็กน้อย เกี่ยวกับเทือกเขาแห่งนี้
1. ถึงแม้จะเป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในอิตาลี แต่ว่าชื่อของเทือกเขา “Dolomites” กลับเป็นชื่อของชาวฝรั่งเศส… 🇫🇷
1
อธิบายเพิ่มเติมคือ เจ้าของชื่อชาวฝรั่งเศสที่ว่านี้มีนามว่า “Déodat Gratet de Dolomieu” นักเคมีผู้ค้นพบแร่ "โดโลไมท์” (Dolomites) ในหินปูนโดโลมิติก (Dolomitic limestone) หรือในหินอ่อนโดโลมิติก (Dolomitic marble) นั่นเองคร้าบ
Déodat Gratet de Dolomieu
Dolomitic limestone
สกัดแร่โดโลไมท์ออกมาเป็นผง
2. เทือกเขาแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งแต่ปี 2009
1
3. เทือกเขาแห่งนี้ เคยเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่าง ออสเตรีย-ฮังการี (ฝ่ายมหาอำนาจกลาง) และ อิตาลี (ฝ่ายสัมพันธมิตรในขณะนั้น)
4. เห็นเป็นเทอกเขาหินปูนที่ดูแห้ง ๆ แบบนี้แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมว่าเทือกเขาโดโลไมท์แห่งนี้ มีพืชพรรณและดอกไม้ที่มากกว่า 2,000 ชนิด โดยดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเทือกเขาก็มีชื่อว่า “Dolomite Bellflower” มีสีม่วงเด่นชัด
Dolomite Bellflower
5. เทือกเขาแห่งนี้เคยเป็นภูเขาไฟใต้มหาสมุทรมาก่อนนะ (แต่ว่า….คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ 175 ล้านปีที่แล้ว ในยุค Jurassic เลยจ้า 😉)
โฆษณา